เซเลนสกี อ้างความชอบธรรมให้กับการรุกรานดินแดนรัสเซียและโจมตีเคิร์สต์

(ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี: “ปฏิบัติการของเราเป็นเรื่องด้านความปลอดภัยล้วนๆ หากปูตินต้องการทำสงครามต่อไปให้ได้ รัสเซียจะต้องถูกบังคับให้เจรจาสันติภาพ” – Photo by Kent Nishimura / Getty Images North America / Getty Images via AFP)

ประธานาธิบดีของยูเครนอ้างความชอบธรรมในการรุกคืบของกองกำลังทหารเข้าไปในจังหวัดเคิร์สต์ โวโลดิมีร์ เซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียจะต้องถูกบังคับให้เจรจาสันติภาพ ขณะนี้ยูเครนสามารถยึดครองดินแดนรัสเซียได้แล้วประมาณ 1,000 ตารางกิโลเมตร

“นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พื้นที่เกือบ 2,100 แห่งในภูมิภาคซูมีถูกโจมตี” เซเลนสกีกล่าวในวิดีโอปราศรัยช่วงเย็นของเขา ซึ่งข้อความดังกล่าวได้รับการเผยแพร่เป็นฉบับแปลภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์ของเขา เพื่อป้องกันการถูกโจมตี กองทหารยูเครนจึงจำเป็นต้องรุกคืบเข้าไปในเคิร์สต์ เป้าหมายของพวกเขา “โดยเฉพาะพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียเคยเปิดฉากโจมตีภูมิภาคซูมีของเรา” ประธานาธิบดียูเครนกล่าว “ดังนั้น ปฏิบัติการของเราจึงเป็นเรื่องความมั่นคงสำหรับยูเครนเท่านั้น เพื่อปลดปล่อยพื้นที่ชายแดนจากกองทัพรัสเซีย”

ขณะนี้กองทหารยูเครนได้เข้าควบคุมพื้นที่ 1,000 ตารางกิโลเมตรของภูมิภาคเคิร์สต์แล้ว เซเลนสกีอ้างถึงนายพลซีร์สกี-ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างอิสระ เซเลนสกียังกล่าวด้วยว่า ทหารรัสเซียจะถูกจับเป็นเชลยศึกเพื่อแลกกับชาวยูเครน “สำหรับเราแล้ว มันเป็นเรื่องของหลักการที่จะนำคนของเราทั้งหมดออกจากการถูกจองจำของรัสเซีย”

เซเลนสกียังเน้นย้ำถึงความสำคัญของขีปนาวุธในการทำสงครามของยูเครน “เป็นเรื่องยุติธรรมแล้วที่จะทำลายผู้ก่อการร้ายชาวรัสเซียในที่ที่พวกเขาอยู่และจากที่ที่พวกเขาเริ่มโจมตี ไม่ว่าสนามบินทหารรัสเซีย ระบบขนส่งของรัสเซีย” เซเลนสกีเสริม เป้าหมายคือการเข้าใกล้สันติภาพมากขึ้น “หากปูตินต้องการทำสงครามต่อไปให้ได้ รัสเซียจะต้องถูกบังคับให้เจรจาสันติภาพ”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทหารยูเครนได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ภูมิภาคเคิร์สต์ทางตะวันตกของรัสเซีย และรุกล้ำเข้าสู่ดินแดนรัสเซียหลายกิโลเมตร ตามข้อมูลจากเคียฟ ทหารยูเครนหลายพันนายกำลังมีส่วนร่วมในการรุก ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ ตัดสินเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า รัสเซียประเมินสถานการณ์ที่นั่นต่ำไป ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารยังเตือนถึงผลเสียต่อเคียฟอันเป็นผลจากการรุกคืบด้วย

สถานการณ์ในภูมิภาคเคิร์สต์กำลังสับสน ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดระบุ ประชาชนจำนวน 121,000 คนถูกอพยพออกจากพื้นที่ไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีคำสั่งอพยพประชาชนในภูมิภาคเบลโกรอดด้วย โดยไม่คำนึงถึงการสู้รบในบ้านตัวเอง รัสเซียยังคงทำสงครามกับยูเครนต่อไป ซึ่งดำเนินมาเกือบสองปีครึ่งแบบไม่ลดทอนความรุนแรงลงเลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

องค์กรในซีเรียเรียกร้องต่อรัฐบาลรัสเซีย ให้กดดัน 'อัสซาด' เปิดเผยที่ตั้งเรือนจำลับ

องค์กรคุ้มครองพลเรือนซีเรีย ‘หมวกขาว’ เรียกร้องให้มอสโกกดดัน บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งมีรายงานว่าได้หลบหนีไปรัสเซีย เปิดเผยสถานที่คุมขั

อิสราเอลถล่มกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ครั้งใหญ่ด้วยเครื่องบินขับไล่หลายสิบลำ

กองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ทำการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่สนับสนุนอิหร่านทางตอนใต้ของเลบา