อิสราเอลรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุโจมตีของกลุ่มฮามาส 7 ตุลาคม

อิสราเอลรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์โจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังจุดชนวนให้เกิดสงครามอันเลวร้ายในฉนวนกาซา ซึ่งต่อมาได้ขยายวงไปถึงเลบานอน

ริบบิ้นสีเหลืองพร้อมกับหมายเลข 365 ซึ่งระบุจำนวนวันหลังจากการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยนักรบชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา พร้อมกับรูปภาพของเหยื่อที่เสียชีวิต ตามแนวกำแพงเมืองเก่าของเยรูซาเลมในช่วงค่ำของวันที่ 6 ตุลาคม วันก่อนครบรอบ 1 ปีของสงครามที่เริ่มต้นด้วยการโจมตีดังกล่าว (Photo by Ahmad GHARABLI / AFP)

ภาพตัวประกันที่ถูกกองกำลังติดอาวุธชาวปาเลสไตน์จับตัวไปในเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ถูกจัดแสดงไว้ที่อนุสรณ์สถานสำหรับเหยื่อที่เสียชีวิตหรือถูกลักพาตัวจากงานเทศกาลดนตรีโนวาในคืนก่อนวันครบรอบ 1 ปีในกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม (Photo by JACK GUEZ / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า อิสราเอลรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์โจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ และยังจุดชนวนให้เกิดสงครามอันเลวร้ายในฉนวนกาซา ก่อนขยายวงไปถึงเลบานอนในปัจจุบัน

ขณะที่ทหารกำลังต่อสู้กับสิ่งที่อิสราเอลกล่าวว่าเป็นสงครามเพื่อการดำรงอยู่ ผู้คนต่างมารวมตัวกันที่จุดสังหารหมู่และชุมนุมเรียกร้องให้ส่งตัวประกันที่ยังอยู่ในฉนวนกาซากลับประเทศ ซึ่งผ่านไป 1 ปีแล้วนับตั้งแต่ถูกลักพาตัว

บาดแผลทางจิตใจจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 1,205 ราย ยังคงไม่ได้รับการเยียวยา และครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เข้าร่วมพิธีต่างร้องไห้ขณะที่ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก มาพบปะกับฝูงชน

เฮอร์ซ็อกเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการยืนสงบนิ่งเมื่อเวลา 06.29 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่การโจมตีเริ่มขึ้น ณ คิบบุตซ์ แรม สถานที่จัดงานเทศกาลดนตรีโนวาซึ่งนักรบฮามาสสังหารผู้คนอย่างน้อย 370 ราย นับเป็นการโจมตีที่นองเลือดที่สุดในวันนั้น

เฮอร์ซ็อกกล่าวว่า "โลกต้องสนับสนุนอิสราเอลในการต่อสู้กับศัตรู"

ในกรุงเทลอาวีฟ ครอบครัวของตัวประกันและผู้สนับสนุนรวมตัวกันก่อนรุ่งสางเพื่อเรียกร้องให้คนที่พวกเขารักกลับคืนมา โดยถือป้ายที่มีรูปของตัวประกันเหล่านั้น

วันครบรอบดังกล่าวตรงกับช่วงเวลาที่อิสราเอลยังคงสู้รบในฉนวนกาซา และกำลังทำสงครามครั้งใหม่ทางตอนเหนือในเลบานอนกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่มฮามาส

กลุ่มฮามาสและพันธมิตรในเลบานอนให้คำมั่นว่าจะสู้รบต่อไป โดยนักรบชาวปาเลสไตน์ชื่นชมการโจมตีของพวกเขาว่า "ยิ่งใหญ่" และกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ประณามอิสราเอลว่าเป็น "มะเร็งร้ายที่ต้องกำจัด"

ทั่วโลกมีการจัดงานเพื่อรำลึกถึงเหยื่อของเหตุโจมตีของกลุ่มฮามาส และการโจมตีตอบโต้ของอิสราเอล เพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์หลังจากสงครามในฉนวนกาซาที่ดำเนินมายาวนานกว่า 1 ปี

กองทัพอิสราเอลกล่าวล่าสุดว่า มีการยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 4 ลูกจากฉนวนกาซาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากพิธีรำลึกเริ่มขึ้น โดยเสริมว่าได้โจมตีฐานยิงของกลุ่มฮามาสและโครงสร้างพื้นฐานใต้ดินของกลุ่มก่อการร้ายทั่วฉนวนกาซา

ในเวลาต่อมา กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาสกล่าวในแถลงการณ์ว่า นักรบของพวกเขาได้ยิงจรวดใส่ "การชุมนุมของศัตรู" ใกล้ชายแดนกาซา และไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ยิงจรวดถล่มกรุงเทลอาวีฟ

ในช่วงเช้าของวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กลุ่มฮามาสได้เปิดฉากโจมตีด้วยการยิงจรวดหลายพันลูกไปยังชุมชนชายแดนอิสราเอล

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มนักรบฮามาสได้บุกข้ามชายแดนและโจมตีสถานที่ต่างๆ เกือบ 50 แห่ง รวมถึงชุมชนคิบบุตซ์, ฐานทัพทหาร และเทศกาลดนตรีโนวา

กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารผู้เข้าร่วมงานเทศกาลเป็นจำนวนมาก, เดินเคาะประตูบ้านเรือนในชุมชนเกษตรกรรม และยิงประชาชนเสียชีวิตในบ้านเรือนของตนเอง

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางทหารในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นซากปรักหักพัง และทำให้ประชาชนเกือบ 2.4 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านอย่างน้อยหนึ่งครั้งท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ยังคงดำเนินต่อไป

การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,205 ราย มีประชาชนราว 251 คนถูกจับกุมเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา โดย 97 คนในจำนวนนี้ยังคงถูกกักขังอยู่ในพื้นที่ชายฝั่ง รวมถึง 34 รายที่กองทัพอิสราเอลระบุว่าเสียชีวิตแล้ว

เพื่อเป็นการตอบโต้การโจมตีดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ให้คำมั่นว่าจะบดขยี้กลุ่มฮามาสและนำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน

"เมื่อหนึ่งปีก่อนเราได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงไปอย่างสิ้นเชิง" เนทันยาฮูกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ระหว่างเยือนชายแดนเลบานอน

ขณะที่อิสราเอลขยายแนวรบหลักของสงครามไปที่เลบานอน เนทันยาฮูได้ให้คำมั่นว่าชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนที่ถูกบังคับให้หลบหนีการโจมตีของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์จะต้องได้กลับบ้าน

ตั้งแต่เดือนที่แล้ว อิสราเอลได้โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนอย่างหนักหน่วง และเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินข้ามพรมแดน

สงครามครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 1,110 รายในเลบานอน และทำให้ผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ทางตอนใต้ ปฏิบัติการของอิสราเอลในฉนวนกาซายังไม่สิ้นสุด โดยกองทัพระบุว่าได้ปิดล้อมพื้นที่จาบาลียาแล้ว หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าฮามาสกำลังฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 17 ราย รวมทั้งเด็ก 9 ราย จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในพื้นที่ดังกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 41,870 ราย นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น

การสู้รบในฉนวนกาซาและเลบานอนมาพร้อมกับภัยคุกคามของสงครามกับอิหร่าน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ยิงขีปนาวุธมากกว่า 200 ลูกไปที่อิสราเอลเพื่อตอบโต้การเสียชีวิตของฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ และอับบาส นิลฟูรูซาน ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ ในการโจมตีกรุงเบรุตเมื่อวันที่ 27 กันยายน

เมื่อวันอาทิตย์ รัฐบาลเตหะรานกล่าวว่าได้เตรียมแผนที่จะตอบโต้การเอาคืนจากอิสราเอล ก่อนที่โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลจะเตือนอิหร่านว่า อิหร่านอาจกลายเป็นเหมือนฉนวนกาซาหรือกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น

ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว