สถานการณ์อำนวย! ชาวปาเลสไตน์นับหมื่นคนเร่งเดินทางกลับฉนวนกาซาตอนเหนือ

ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นนับหมื่นคนกำลังเดินทางกลับทางตอนเหนือของฉนวนกาซาที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม หลังจากอิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัวตัวประกัน และการหยุดยิงลุล่วง

ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นเดินทางไปตามถนนริมชายฝั่ง เพื่อข้ามพื้นที่เน็ตซาริมจากฉนวนกาซาตอนใต้ไปทางฉนวนกาซาตอนเหนือ เมื่อวันที่ 27 มกราคม (Photo by Omar AL-QATTAA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม 2568 กล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาและปล่อยตัวตัวประกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสกำลังดำเนินไปอย่างเรียบร้อยในทิศทางที่เป็นบวก ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่สู้รบเริ่มกลับสู่ความสงบ กระตุ้นให้ผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์ที่กระจัดกระจายไปตามพื้นที่ปลอดภัย เริ่มเดินทางกลับสู่ถิ่นฐานทางตอนเหนือแล้ว

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้ขัดขวางไม่ให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางกลับไปยังฉนวนกาซาตอนเหนือ โดยกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสละเมิดเงื่อนไขการสงบศึก แต่สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อค่ำวันอาทิตย์ว่าจะยอมผ่อนปรนให้ หลังจากมีการบรรลุข้อตกลงใหม่กับกลุ่มฮามาส

ฝูงชนจำนวนมากเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่เน็ตซาริมทางใต้เพื่อมุ่งหน้าสู่ทางเหนือ พร้อมด้วยรถเข็นบางคันบรรทุกทั้งที่นอนและสิ่งจำเป็นอื่นๆ ไว้เต็ม ส่วนคนอื่นก็พกสิ่งของเท่าที่จะพกได้ โดยมีรถถังของอิสราเอลคอยสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง

เมื่อค่ำวันจันทร์ รัฐบาลฮามาสในฉนวนกาซากล่าวว่า ผู้พลัดถิ่นมากกว่า 300,000 คนได้เดินทางกลับสู่พื้นที่ทางเหนือในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นพื้นที่ในฉนวนกาซาที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงคราม

สำนักงานสื่อของรัฐบาลฮามาสเปิดเผยว่า ผู้คนจำเป็นต้องมีเต็นท์จำนวน 135,000 หลังในกาซาซิตีและทางตอนเหนือ เพื่อรองรับครอบครัวที่เดินทางกลับมา

ฮามาสกล่าวว่าการกลับมาครั้งนี้ถือเป็น "ชัยชนะ" สำหรับชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสัญญาณของความล้มเหลวและความพ่ายแพ้ของอิสราเอลในแผนการยึดครองและขับไล่เจ้าของพื้นที่

ความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เสนอแนวคิดเรื่องการ "กวาดล้างกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ไปจอร์แดนและอียิปต์" ซึ่งทำให้ผู้นำในภูมิภาคต่างประณาม

ในระหว่างการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ย้ำถึงความปรารถนาที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาซึ่งเขาบรรยายว่าเป็น "นรก" ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า เช่น อียิปต์หรือจอร์แดน

ทรัมป์กล่าวถึงประธานาธิบดีอียิปต์ว่า "ผมหวังว่าเขาจะเปิดรับชาวปาเลสไตน์ไปบ้าง" และเสริมว่า "ผมคิดว่ากษัตริย์จอร์แดนก็จะทำเช่นกัน"

ทรัมป์เชื่อว่าการย้ายถิ่นฐานชาวกาซาจำนวน 2.4 ล้านคนนั้นสามารถทำได้ทั้งแบบชั่วคราวและระยะยาว

ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ซึ่งมีฐานที่มั่นทางการในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ออกแถลงการณ์ปฏิเสธและประณามอย่างรุนแรงต่อโครงการใดๆที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา

สำหรับชาวปาเลสไตน์ ความพยายามใดๆ ที่จะบังคับให้พวกเขาออกจากฉนวนกาซาอาจทำให้รำลึกถึงความทรงจำอันมืดมนของสิ่งที่โลกอาหรับเรียกว่า "นัคบะ (ภัยพิบัติ)" ซึ่งหมายถึงการอพยพครั้งใหญ่ของชาวปาเลสไตน์ในระหว่างการก่อตั้งประเทศอิสราเอลในปี 1948

"เราอยากจะบอกกับทรัมป์และคนทั้งโลกว่า เราจะไม่ออกจากปาเลสไตน์หรือกาซา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" ราชัด อัล-นาจี ผู้พลัดถิ่นฐานจากกาซากล่าว

ขณะที่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังฝ่ายขวาจัดของอิสราเอล กล่าวว่าข้อเสนอแนะของทรัมป์นั้นเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม

สันนิบาตอาหรับออกโรงเตือนถึงความพยายามที่จะถอนรากถอนโคนชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของพวกเขา และอัยมัน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดนออกแถลงการณ์คัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการอพยพของชาวปาเลสไตน์

"จอร์แดนเป็นของชาวจอร์แดน และปาเลสไตน์เป็นของชาวปาเลสไตน์" ซาฟาดีกล่าว

เช่นเดียวกับกระทรวงต่างประเทศของอียิปต์ที่ปฏิเสธการละเมิดสิทธิที่ไม่อาจโอนให้ใครได้ของชาวปาเลสไตน์

ด้านสถานการณ์ตัวประกัน สำนักงานของเนทันยาฮูแถลงล่าสุดว่า ได้บรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คนในวันพฤหัสบดี และอีก 3 คนในวันเสาร์ ซึ่งกลุ่มฮามาสยืนยันข้อตกลงดังกล่าวเช่นกันในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์

ในช่วงแรกของการสงบศึกซึ่งเริ่มในวันที่ 19 มกราคม ตัวประกัน 33 คนควรจะได้รับการปล่อยตัวแบบสลับกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ประมาณ 1,900 คนที่ถูกอิสราเอลควบคุมตัวไว้

การแลกเปลี่ยนครั้งที่สองเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเป็นการแลกเปลี่ยนผู้หญิงชาวอิสราเอล 4 คน ซึ่งเป็นทหารทั้งหมด กับนักโทษ 200 คน ซึ่งเป็นชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด รวมทั้งจอร์แดนหนึ่งคน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เดวิด เมนเซอร์ โฆษกรัฐบาลอิสราเอล กล่าวว่าตัวประกัน 8 คนที่มีกำหนดจะได้รับการปล่อยตัวในระยะแรกนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อของพวกเขา แต่ได้แจ้งให้ครอบครัวและญาติได้รับรู้แล้ว

ทั้งนี้ ตัวประกัน 251 คนที่ถูกจับระหว่างการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นั้น คงเหลืออยู่ในฉนวนกาซา 87 คน โดย 34 คนในจำนวนนี้อิสราเอลระบุว่าเสียชีวิตไปแล้ว

ในฉนวนกาซาตอนใต้ สหภาพยุโรปตกลงเมื่อวันจันทร์ที่จะเริ่มภารกิจตรวจสอบใหม่ที่จุดผ่านแดนราฟาห์ระหว่างฉนวนกาซาและอียิปต์อีกครั้ง โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อการประสานงานและอำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมาระหว่างผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย.

เพิ่มเพื่อน