รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเตือนสหรัฐ "หยุดแทรกแซง" โอลิมปิกฤดูหนาว พร้อมเน้นย้ำว่าสหรัฐควรรับฟังข้อวิตกด้านความมั่่นคงของรัสเซียในยุโรปอย่างจริงจัง อีกด้านสหรัฐตอบกลับรัสเซียว่าไม่อาจยอมตามเงื่อนไขงดรับยูเครนเข้านาโต

รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2565 กล่าวว่า หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน และแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ โดยกระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยในแถลงการณ์จากกรุงปักกิ่งว่า รัฐมนตรีหวังได้เตือนสหรัฐเกี่ยวกับการแทรกแซงโอลิมปิกฤดูหนาวและประเด็นไต้หวัน
"สิ่งสำคัญเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้คือ สหรัฐควรหยุดแทรกแซงโอลิมปิกฤดูหนาว" แถลงการณ์อ้างคำพูดของหวัง ที่บอกด้วยว่า สหรัฐควร "หยุดเล่นกับไฟ" ในประเด็นไต้หวันด้วยเช่นกัน
กรุงปักกิ่งของจีนกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดทั้งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ แต่รัฐบาลสหรัฐนำขบวนชาติพันธมิตรบอยคอยทางการทูตมหกรรมกีฬานี้ โดยอ้างการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน โดยเฉพาะต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตซินเจียง
คำแถลงของจีนเปิดเผยอีกว่า รัฐมนตรีทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในยุโรปกรณียูเครนด้วย โดยหวังได้กล่าวกับบลิงเคนว่า ความวิตกกังวลของรัสเซียควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง
"ทุกฝ่ายควรละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น และสร้างกลไกด้านความมั่นคงของยุโรปที่สมดุล, มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ผ่านการเจรจา" หวังกล่าวกับบลิงเคน "ข้อกังวลด้านความมั่นคงที่สมเหตุสมผลของรัสเซียควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังและแก้ไข"
คำแถลงของทางสหรัฐเกี่ยวกับการสนทนาของทั้งคู่ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นโอลิมปิก แต่เน้นประเด็นยูเครนเป็นหลัก โดยกล่าวว่า รัฐมนตรีบลิงเคนได้เน้นย้ำเรื่องความมั่นคงของโลกและความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากการรุกรานเพิ่มเติมของรัสเซียต่อยูเครน และว่า การลดระดับความรุนแรงและการทูตเป็นหนทางที่จะเดินหน้าอย่างรับผิดชอบ
รัสเซียทำให้ทั่วโลกวิตกกังวลจากการวางกำลังทหารกว่า 100,000 นายพร้อมอาวุธหนักไว้ตามแนวชายแดนยูเครนมานานหลายเดือน ทำให้สหรัฐและชาติพันธมิตรระบุว่ารัสเซียมีแผนรุกราน รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธคำกล่าวหานี้ แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา รัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องหลักประกันด้านความมั่นคง โดยขอให้นาโตงดรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก
บลิงเคนและเซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้พบปะเจรจากันที่นครเจนีวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อวันพุธ รัฐบาลสหรัฐได้ตอบชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรต่อข้อเรียกร้องของรัสเซียที่ต้องการให้นาโตปฏิเสธการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกว่า จากมุมมองของสหรัฐ มีความชัดเจนว่า ประตูของนาโตเปิดกว้างอยู่เสมอ และสหรัฐยึดมั่นในการธำรงหลักการดังกล่าว
รัฐมนตรีทั้งสองจะได้สนทนากันอีกครั้งในไม่กี่วันข้างหน้า โดยบลิงเคนเผยด้วยว่า สหรัฐเชื่อว่ารัสเซียพร้อมจะรุกรานยูเครน แต่ในสารตอบกลับของสหรัฐ ได้เสนอหนทางการทูตเพื่อออกจากวิกฤตินี้ให้รัสเซียเลือกด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงการเสนอมาตรการ "ต่างตอบแทน" ที่แก้ไขข้อกังวลด้านความมั่นคงของกันและกัน รวมถึงการลดจำนวนมิสไซล์ในยุโรป และความโปร่งใสด้านการฝึกทหารและความช่วยเหลือที่ตะวันตกมอบให้ยูเครน
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ทำเนียบเครมลินไม่ประทับใจนักกับการตอบกลับของสหรัฐ ซึ่งดูเหมือนไม่ได้รับฟังหรือแสดงออกซึ่งความใส่ใจต่อข้อห่วงกังวลของรัสเซีย ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้อยู่กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แล้ว และต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์
ด้านลัฟรอฟกล่าวว่า ข้อห่วงกังวลหลักของรัสเซีย กรณียูเครนเข้าร่วมนาโต ถูกละเลย แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเดินหน้าในประเด็นอื่นๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปูตินพบกับวิตคอฟฟ์และคุชเนอร์ในมอสโก ผู้นำเครมลินขู่ยุโรป
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้การต้อนรับ สตีฟ วิตคอฟฟ์-ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ที่กรุงมอสโกเมื่อเย็นวันอังคาร ภาพที่ออกอากาศทางทีวีของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า จาเร็ด คุชเนอร์-ลูกเขยและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าร่วมการประชุมที่เครมลินด้วย
ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ
"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง
เซเลนสกีและแอร์โดอัน พยายามจะรื้อฟื้นการเจรจา
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรเกีย ประชุมหารือกันเมื่อวันพุธ เพื่อพยายามรื้อฟื้นการเจรจาหยุดยิงในสงครามยูเครน
กระแสชื่นชม สมเด็จพระราชินี จากชาวจีนสะท้อนอะไร
ความคิดเห็นของชาวจีนจำนวนมากพูดตรง ๆ เลยว่า “งดงาม สง่างาม มีความสูงศักดิ์” และ “ดูจริงใจ ไม่ใช่การแสดง”
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!


