จีนเตือนสหรัฐเลิกแส่โอลิมปิก แนะรับฟังข้อกังวลรัสเซียกรณียูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเตือนสหรัฐ "หยุดแทรกแซง" โอลิมปิกฤดูหนาว พร้อมเน้นย้ำว่าสหรัฐควรรับฟังข้อวิตกด้านความมั่่นคงของรัสเซียในยุโรปอย่างจริงจัง อีกด้านสหรัฐตอบกลับรัสเซียว่าไม่อาจยอมตามเงื่อนไขงดรับยูเครนเข้านาโต

แฟ้มภาพ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน (ขวา) พบกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นอกรอบการประชุมจี 20 ที่อิตาลี เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2564 (Photo by Tiziana FABI / POOL / AFP)

รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2565 กล่าวว่า หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน และแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ โดยกระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยในแถลงการณ์จากกรุงปักกิ่งว่า รัฐมนตรีหวังได้เตือนสหรัฐเกี่ยวกับการแทรกแซงโอลิมปิกฤดูหนาวและประเด็นไต้หวัน

"สิ่งสำคัญเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้คือ สหรัฐควรหยุดแทรกแซงโอลิมปิกฤดูหนาว" แถลงการณ์อ้างคำพูดของหวัง ที่บอกด้วยว่า สหรัฐควร "หยุดเล่นกับไฟ" ในประเด็นไต้หวันด้วยเช่นกัน

กรุงปักกิ่งของจีนกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดทั้งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ แต่รัฐบาลสหรัฐนำขบวนชาติพันธมิตรบอยคอยทางการทูตมหกรรมกีฬานี้ โดยอ้างการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน โดยเฉพาะต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตซินเจียง

คำแถลงของจีนเปิดเผยอีกว่า รัฐมนตรีทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในยุโรปกรณียูเครนด้วย โดยหวังได้กล่าวกับบลิงเคนว่า ความวิตกกังวลของรัสเซียควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง

"ทุกฝ่ายควรละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น และสร้างกลไกด้านความมั่นคงของยุโรปที่สมดุล, มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ผ่านการเจรจา" หวังกล่าวกับบลิงเคน "ข้อกังวลด้านความมั่นคงที่สมเหตุสมผลของรัสเซียควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังและแก้ไข"

คำแถลงของทางสหรัฐเกี่ยวกับการสนทนาของทั้งคู่ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นโอลิมปิก แต่เน้นประเด็นยูเครนเป็นหลัก โดยกล่าวว่า รัฐมนตรีบลิงเคนได้เน้นย้ำเรื่องความมั่นคงของโลกและความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากการรุกรานเพิ่มเติมของรัสเซียต่อยูเครน และว่า การลดระดับความรุนแรงและการทูตเป็นหนทางที่จะเดินหน้าอย่างรับผิดชอบ

รัสเซียทำให้ทั่วโลกวิตกกังวลจากการวางกำลังทหารกว่า 100,000 นายพร้อมอาวุธหนักไว้ตามแนวชายแดนยูเครนมานานหลายเดือน ทำให้สหรัฐและชาติพันธมิตรระบุว่ารัสเซียมีแผนรุกราน รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธคำกล่าวหานี้ แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา รัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องหลักประกันด้านความมั่นคง โดยขอให้นาโตงดรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก

บลิงเคนและเซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้พบปะเจรจากันที่นครเจนีวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อวันพุธ รัฐบาลสหรัฐได้ตอบชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรต่อข้อเรียกร้องของรัสเซียที่ต้องการให้นาโตปฏิเสธการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกว่า จากมุมมองของสหรัฐ มีความชัดเจนว่า ประตูของนาโตเปิดกว้างอยู่เสมอ และสหรัฐยึดมั่นในการธำรงหลักการดังกล่าว

รัฐมนตรีทั้งสองจะได้สนทนากันอีกครั้งในไม่กี่วันข้างหน้า โดยบลิงเคนเผยด้วยว่า สหรัฐเชื่อว่ารัสเซียพร้อมจะรุกรานยูเครน แต่ในสารตอบกลับของสหรัฐ ได้เสนอหนทางการทูตเพื่อออกจากวิกฤตินี้ให้รัสเซียเลือกด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงการเสนอมาตรการ "ต่างตอบแทน" ที่แก้ไขข้อกังวลด้านความมั่นคงของกันและกัน รวมถึงการลดจำนวนมิสไซล์ในยุโรป และความโปร่งใสด้านการฝึกทหารและความช่วยเหลือที่ตะวันตกมอบให้ยูเครน

รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ทำเนียบเครมลินไม่ประทับใจนักกับการตอบกลับของสหรัฐ ซึ่งดูเหมือนไม่ได้รับฟังหรือแสดงออกซึ่งความใส่ใจต่อข้อห่วงกังวลของรัสเซีย ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้อยู่กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แล้ว และต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์

ด้านลัฟรอฟกล่าวว่า ข้อห่วงกังวลหลักของรัสเซีย กรณียูเครนเข้าร่วมนาโต ถูกละเลย แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเดินหน้าในประเด็นอื่นๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยูเครนป่วนสหภาพยุโรป ด้วยการแฉรายชื่อผู้สนับสนุนสงครามฝ่ายรัสเซีย

การเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องสงสัยว่า “ให้การสนับสนุน” สงครามการรุกรานของรัสเซียล่าสุด ทำให้เกิดความปั่นป่วนในยุโรป หนึ่งในนั้นมีบริษัทใหญ่ของเยอรมนีอยู่ในลิสต์ด้วย

นายกฯ ปลื้ม 'ทุเรียนไทย' ฮอตต่อเนื่องในจีน ลุยส่งออกผ่านรถไฟจีน-ลาว

นายกฯ ยินดี “ทุเรียนไทย” ได้รับความนิยมต่อเนื่องในจีน หน่วยงานภาครัฐ – เอกชน นำเสนอทุเรียนไทย 5 สายพันธุ์ พร้อมส่งเสริมการส่งออกผ่านทางรถไฟจีน - ลาว คงคุณภาพทุเรียนไทย

โอกาส ความท้าทาย และแนวทางปรับตัวของไทย หลังสหรัฐฯ-จีนเปิดศึกแยกห่วงโซ่อุปทาน

สนค. เผยผลระดมสมองผลการแยกห่วงโซ่อุปทานหลังเกิดความขัดแย้งสหรัฐฯ กับจีน ต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ พบไทยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ห่วงกลุ่มวัยรุ่นไทย ซ้ำรอย ‘Gang of 4’ จีน ยุคปี 1966-1976 

น่าเป็นห่วงต่อแนวความคิดของกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกอ้างว่าเป็นมวลชนของคนก้าวหน้า ที่นิยมความรุ่นแรง ชอบการข่มขู่ ขยันลงถนน แถมชื่นชมแนวคิดพ่อแม่มีหน้าทึ่เลี้ยงลูก ไม่ถือเป็นบุญคุณที่จะต้องตอบแทน