ผู้พิพากษาสหรัฐฯ สั่งยกเลิกการอายัดเงินทุนชั่วคราวสำหรับโครงการช่วยเหลือ (USAID)

ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้ยกเลิกการอายัดเงินทุนชั่วคราวสำหรับโครงการช่วยเหลือและการพัฒนาของสหรัฐฯ ที่สั่งโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

โลโก้ขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ที่สำนักงานในเตกูซิกัลปา เมืองหลวงของประเทศฮอนดูรัส (Photo by Orlando SIERRA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารตัดงบประมาณ 'องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID)' รวมทั้งสั่งหยุดปฏิบัติงานและให้ปิดหน่วยงานทันทีภายในระยะเวลา 90 วัน จนสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศโลกที่สามที่พึ่งพาองค์กรนี้เพื่อความอยู่รอด

ล่าสุด ศาลสหรัฐเข้าแทรกแซงคำสั่งของประธานาธิบดี โดยผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางได้สั่งยกเลิกการอายัดเงินทุนชั่วคราวสำหรับหน่วยงานดังกล่าวแล้ว

อามีร์ อาลี ผู้พิพากษาซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยโจ ไบเดนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ออกคำสั่งห้ามรัฐบาลของทรัมป์ระงับ, หยุดชั่วคราว หรือป้องกันด้วยวิธีอื่นใดต่อกองทุนความช่วยเหลือต่างประเทศ ตามคำตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดี

รัฐบาลทรัมป์ได้ระงับการให้เงินช่วยเหลือต่างประเทศ, สั่งการให้เจ้าหน้าที่จากต่างประเทศหลายพันคนเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา และเริ่มลดจำนวนพนักงานของสำนักงานองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) จาก 10,000 คน เหลือเพียง 300 คนเท่านั้น

เรื่องนี้ทำให้การทำงานของ USAID ในประเทศยากจนที่สุดบางประเทศของโลกอยู่ในภาวะไม่แน่นอน เพราะหน่วยงานนี้มีงบประมาณมากถึง 42,800 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งคิดเป็น 42% ของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ใช้จ่ายไปทั่วโลก

คำสั่งศาลฉบับล่าสุดยังห้ามรัฐบาลออกคำสั่ง, ดำเนินการ, บังคับใช้ หรือให้ผลในลักษณะอื่นใดต่อการยุติ, ระงับ หรือคำสั่งหยุดงาน ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาที่มีอยู่ ณ วันที่ 19 มกราคม 2025

คำตัดสินระบุว่า "จุดประสงค์ที่ระบุในการดำเนินการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดคือเพื่อให้มีโอกาสทบทวนโครงการต่างๆ ว่ามีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับลำดับความสำคัญหรือไม่อย่างไร"

"อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยจนถึงปัจจุบัน จำเลยยังไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆ ว่าเหตุใดการระงับความช่วยเหลือต่างประเทศที่รัฐสภาจัดสรรให้ทั้งหมด ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นความตกตะลึงและพลิกกลับผลประโยชน์ของข้อตกลงหลายพันฉบับกับธุรกิจ, องค์กรไม่แสวงหากำไร และองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สมเหตุสมผลในการทบทวนโครงการ" แถลงการณ์ระบุ

โจทก์ในคดีนี้เป็น หรือเป็นตัวแทนของกลุ่มธุรกิจและสุขภาพขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมทั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านการสื่อสารมวลชนที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางเพื่อดำเนินงานช่วยเหลือต่างประเทศ

ทรัมป์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งวาระที่สองในเดือนที่แล้ว ได้เริ่มรณรงค์ลดขนาดหรือยุบหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยมอบหมายให้อีลอน มัสก์ ผู้บริจาคเงินรายใหญ่ที่สุดของเขาและมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก เป็นผู้กำกับดูแล

และเป้าหมายการโจมตีสำคัญนั้นเกิดขึ้นกับ USAID ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่กระจายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐฯ ทั่วโลก ด้วยโครงการด้านสุขภาพและความฉุกเฉินในประมาณ 120 ประเทศ

ทรัมป์กล่าวว่า USAID ถูกบริหารโดยพวกหัวรุนแรง และมัสก์ได้อธิบายว่าเป็น "องค์กรอาชญากรที่ต้องถูกบดขยี้"

โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการรับรอง กล่าวว่า USAID ซึ่งก่อตั้งโดยจอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีผู้ถูกลอบสังหารและเป็นลุงของเขา ได้กลายเป็น "แหล่งเผยแพร่ลัทธิเผด็จการเบ็ดเสร็จที่ชั่วร้าย"

สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า ทรัมป์เพิ่งสั่งปลดพอล มาร์ติน ผู้ตรวจการอิสระของ USAID ในสัปดาห์นี้

การไล่มาร์ตินออกเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่สำนักงานของเขาออกรายงานวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการยุบหน่วยงานนี้ ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์, ซีเอ็นเอ็น และสำนักข่าวอื่นๆ.

เพิ่มเพื่อน