ทรัมป์ไล่เซเลนสกีออกจากทำเนียบขาว หลังโต้เถียงกันจนดีลล่ม

โดนัลด์ ทรัมป์และโวโลดีมีร์ เซเลนสกีโต้เถียงเดือดใส่กันระหว่างเจรจา จนผู้นำสหรัฐโกรธจัดและไล่ผู้นำยูเครนออกจากทำเนียบขาว ส่อแววล้มข้อตกลงสันติภาพรวมทั้งข้อตกลงการเข้าถึงแร่หายาก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน (ซ้าย) โต้เถียงกันที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ (Photo by SAUL LOEB / AFP)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน (ซ้าย) ต่างแสดงอาการไม่สบอารมณ์ หลังการโต้เถียงที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ (Photo by SAUL LOEB / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางมาเยือนทำเนียบขาวตามกำหนดการ และได้เข้าเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในประเด็นสงครามกับรัสเซีย รวมทั้งข้อตกลงการเข้าถึงแร่หายากเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ

แต่การเจรจาจบลงด้วยการที่ผู้นำทั้งสองตะคอกใส่กัน จนโดนัลด์ ทรัมป์โกรธจัด และไล่เซเลนสกีออกจากทำเนียบขาว พร้อมยกเลิกทั้งการลงนามข้อตกลงการเข้าถึงแร่หายากและการแถลงข่าวร่วมกัน

ความขัดแย้งที่น่าตกตะลึงนี้ทำให้บรรดาผู้นำยุโรปต้องรีบออกมาแสดงการสนับสนุนยูเครน ในช่วงเวลาข้างหน้าที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากการรับมือการรุกรานของรัสเซีย

มีรายงานว่า การปะทะคารมได้ปะทุขึ้นที่ห้องทำงานรูปไข่ โดยทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ตะโกนใส่เซเลนสกี พร้อมกล่าวหาว่าเขาไม่แสดงทีท่า "ขอบคุณ" สำหรับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในสงครามที่กินเวลามานานกว่า 3 ปี

ทรัมป์บอกกับเซเลนสกีว่าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ยูเครนคงถูกรัสเซียยึดครอง และผู้นำในช่วงสงครามก็ไม่อยู่ในสถานะที่จะเจรจาใดๆได้

"ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ในมือ คุณต้องทำข้อตกลงหรือไม่ก็ให้เราถอนตัวออกไป และถ้าเราออกไป คุณก็คงต้องสู้ และผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์พูดใส่เซเลนสกี

เซเลนสกีเดินทางออกจากทำเนียบขาวไม่นานหลังจากนั้น โดยทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า "เซเลนสกีจะกลับมาได้เมื่อเขาพร้อมสำหรับสันติภาพ"

สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทรัมป์บอกให้เซเลนสกีกลับไปซะ ทำให้ข้อตกลงแร่ธาตุไม่ได้รับการลงนามและการแถลงข่าวร่วมกันถูกยกเลิก

ต่อมาประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวหาเซเลนสกีว่าเล่นใหญ่เกินตัวและแสดงทีท่าคัดค้านการหยุดยิง พร้อมยืนยันว่าสหรัฐต้องการให้การสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียยุติลงในทันที

ด้านเซเลนสกีเองได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ในภายหลัง ซึ่งเขาปฏิเสธที่จะขอโทษทรัมป์

เซเลนสกีกล่าวกับพิธีกรข่าวของฟ็อกซ์ว่า เขาเคารพทรัมป์และชาวอเมริกัน แต่ก็ยืนยันว่าตัวเขาไม่ได้ทำอะไรผิด

พันธมิตรของสหรัฐฯ ในยุโรป ซึ่งกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าทรัมป์จะบังคับให้ยูเครนต้องมอบชัยชนะให้กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ต่างรีบออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี

"คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว" โดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์กล่าวในสารแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ซึ่งเพิ่งเยือนทำเนียบขาวไม่นาน กล่าวว่าเขาได้โทรศัพท์พูดคุยกับทั้งทรัมป์และเซเลนสกี หลังจากเกิดการปะทะกัน และให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนยูเครนอย่างไม่ลดละ

จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีฝ่ายขวาจัดของอิตาลีเรียกร้องให้มีการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และพันธมิตรในเรื่องยูเครนโดยเร็ว เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์บานปลาย

ขณะที่การเมืองฝั่งตรงข้ามในสหรัฐเองก็ออกมาตำหนิทั้งทรัมป์และแวนซ์ โดยชัค ชูเมอร์ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า ทั้งสองคนกำลังทำงานสกปรกให้ปูติน

และแน่นอนว่าฝั่งรัสเซียตีปีกยินดีกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเคียฟและวอชิงตันที่พังทลายลง

ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เรียกเซเลนสกีว่าเป็น "หมูหน้าด้านที่ถูกตบหน้าอย่างรุนแรงในห้องทำงานรูปไข่"

ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า "การที่ทรัมป์และแวนซ์ยับยั้งตัวเองไม่ให้ทำร้ายไอ้สารเลวคนนั้นได้ ถือเป็นปาฏิหาริย์แห่งความอดทน"

พรรครีพับลิกันของทรัมป์เองก็กล่าวเหมือนกับที่รัสเซียประณามเซเลนสกี โดยวุฒิสมาชิกลินด์เซย์ เกรแฮม กล่าวว่า "หลังจากสิ่งที่เห็นในวันนี้ ผมไม่เชื่อว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ จะยังต้องการเป็นหุ้นส่วนกับเซเลนสกีต่อไป"

อย่างไรก็ตาม ยูเครนดูเหมือนจะยังคงสนับสนุนเซเลนสกี โดยผู้บัญชาการกองทัพให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดเคียงข้างเขา ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศยกย่องความกล้าหาญของเขา

วิวาทะดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่ายูเครนจะต้องประนีประนอมในการสงบศึกกับรัสเซีย ซึ่งยึดครองพื้นที่บางส่วนของประเทศไป แต่เซเลนสกีตอบกลับว่า "ไม่ควรมีการประนีประนอมกับฆาตกรในดินแดนของเรา"

หลังจากที่เซเลนสกีชี้ให้เห็นว่าความพยายามสร้างสันติภาพก่อนหน้านี้ไม่สามารถหยุดยั้งการรุกรานของรัสเซียได้ แวนซ์ก็ขัดจังหวะด้วยความโกรธและตำหนิเขาว่า "ไม่ให้เกียรติ"

จากนั้นการประชุมก็กลายเป็นการที่ทรัมป์และแวนซ์ตำหนิผู้นำยูเครนอย่างเสียงดังต่อหน้าสื่อมวลชนทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ทำให้ยูเครนและพันธมิตรในยุโรปตกใจด้วยการเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐฯ อย่างกะทันหัน โดยอ้างว่าตัวเองเป็นคนกลางระหว่างปูตินกับเซเลนสกี และปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานของรัสเซีย

ทรัมป์กล่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ว่า เขาได้พูดคุยกับปูตินหลายครั้ง มากกว่าที่ปรากฏเป็นรายงานต่อสาธารณะ และก่อนเกิดการโต้เถียง ทรัมป์บอกกับเซเลนสกีว่าการสงบศึกใกล้จะบรรลุแล้ว

ทั้งนี้ ข้อตกลงแร่ธาตุที่ยูเครนเสนอนั้นมีขึ้นเพื่อให้สหรัฐได้รับผลประโยชน์ทางการเงินสำหรับการช่วยเหลือยูเครนในการสงบศึก แม้ว่าทรัมป์จะปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะส่งกองกำลังทหารสหรัฐฯ ไปสนับสนุนกองกำลังรักษาสันติภาพของยุโรปก็ตาม

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เรียกเซเลนสกีว่า "เผด็จการ" และกล่าวว่าเขาเชื่อมั่นปูตินว่าเป็นคนรักษาคำพูด ในเรื่องข้อตกลงหยุดยิง

ขณะเดียวกัน การโจมตีในยูเครนยังคงดำเนินต่อไป โดยทหารราบของรัสเซียบุกเข้าโจมตีชายแดนยูเครนจากเขตเคิร์สก์ของรัสเซียเมื่อวันศุกร์ ใกล้กับพื้นที่ที่กองกำลังยูเครนยึดครองไว้เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว.

เพิ่มเพื่อน