ตำรวจโซลเตรียมรับมือสถานการณ์ปะทะ ก่อนศาลตัดสินคดีถอดถอนประธานาธิบดียุน

ตำรวจเกาหลีใต้เตรียมระดมอุปกรณ์ทั้งหมดที่มี เพื่อใช้ป้องกันสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจเกิดภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล

บ้านพักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ผู้อยู่ระหว่างกระบวนการถอดถอนโดยศาลรัฐธรรมนูญ ในกรุงโซล (Photo by Jung Yeon-je / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568 กล่าวว่า ตำรวจเกาหลีใต้เตรียมระดมกำลังพร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดที่มี เพื่อใช้ป้องกันสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจเกิดภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล

ศาลฯจะประกาศคำตัดสินกรณีถอดถอนประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ในเดือนนี้ โดยทั้งผู้สนับสนุนและฝ่ายต่อต้านผู้นำที่เสื่อมเสียชื่อเสียงได้รับการคาดหมายว่าจะรวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงโซล

ในเดือนธันวาคม ยุนประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ และทำให้เกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยต้องตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมือง จากนั้นเขาถูกควบคุมตัวในเดือนมกราคมด้วยข้อหาก่อกบฏ และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักขังในช่วงสุดสัปดาห์จากคำตัดสินของศาลที่ระบุว่ากระบวนการจับกุมตัวประธานาธิบดีมิชอบในทางเทคนิค

ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนของยุนเคยบุกเข้าไปในศาลแขวงกรุงโซลแล้วครั้งหนึ่ง โดยทุบประตูและหน้าต่างของศาล หลังจากผู้พิพากษาในศาลได้ขยายเวลาการคุมขังยุนออกไป และทางการได้เตือนว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นในช่วงที่คำตัดสินถอดถอนกำลังจะเกิดขึ้น

ปาร์ค ฮย็อนซู รักษาการหัวหน้าสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซลกล่าวว่า "เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันทั้งในและรอบๆ ศาลรัฐธรรมนูญ"

"เราวางแผนที่จะระดมอุปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมด รวมทั้งเครื่องกีดขวาง และกำหนดให้พื้นที่ภายในระยะ 100 เมตรจากศาลรัฐธรรมนูญเป็นเขตปลอดการประท้วง ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างสุญญากาศในพื้นที่นั้น" ปาร์คกล่าวในการแถลงข่าว และเสริมว่า "เราต้องปกป้องผู้พิพากษา ขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันกรณีปะทะกันระหว่างกลุ่มที่ขัดแย้งในประเด็นการถอดถอนดังกล่าว"

ปาร์คกล่าวว่าตำรวจกำลังเข้ารับการฝึกเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการใช้สเปรย์พริกไทยและกระบองตำรวจ และเสริมว่าหน่วยงานยังพิจารณาส่งกองกำลังพิเศษตำรวจไปรับมือกับภัยคุกคามจากระเบิด

มีรายงานว่าโรงเรียนใกล้เคียงกำลังพิจารณาปิดทำการในวันตัดสิน โดยไซต์ก่อสร้างและปั๊มน้ำมันใกล้เคียงจะถูกปิดด้วยเช่นกัน เนื่องจากกังวลว่าวัสดุที่อาจใช้ในการชุมนุมประท้วงจะถูกนำมาซุกซ่อนไว้ในสถานที่เหล่านั้น

นอกเหนือจากคำตัดสินเรื่องการถอดถอนแล้ว ยุนยังต้องเผชิญการพิจารณาคดีอาญาในข้อหาก่อกบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกในเดือนธันวาคม ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกที่ต้องขึ้นศาลในคดีอาญาขณะยังอยู่ในตำแหน่ง

อัยการสูงสุดกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า อัยการจะดำเนินคดีต่อไป แม้ว่ายุนจะได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักขังแล้วก็ตาม.