อดีตประธานาธิบดีของบราซิล อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีฐานพยายามทำรัฐประหาร

ฮาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีของบราซิล ให้สัมภาษณ์สื่อหลังจากออกจากอาคารวุฒิสภาในบราซิเลียเมื่อวันพุธ ศาลฎีกาของบราซิลออกหมายเรียกให้เขาต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในข้อหาวางแผนรัฐประหาร ภายหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งใหม่เมื่อปี 2022 – Photo by Sergio Lima / AFP

ฮาอีร์ โบลโซนาโร-อดีตประธานาธิบดีของบราซิลกำลังถูกพิจารณาคดีในข้อหาวางแผนรัฐประหาร ศาลฎีกาของประเทศตัดสินเมื่อวันพุธว่า มีหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวหานักการเมืองหัวรุนแรงฝ่ายขวาเพื่อเปิดการพิจารณาคดี สืบเนื่องจากโบลโซนาโรพยายามขัดขวางผู้สืบทอดตำแหน่งฝ่ายซ้ายอย่าง ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ไม่ให้เข้ารับตำแหน่งหลังจากที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนตุลาคม 2022 อดีตประธานาธิบดีวัย 70 ปีผู้นี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า “ไม่มีมูลความจริง”

สำนักงานอัยการตั้งข้อหาโบลโซนาโรอย่างเป็นทางการในข้อหาพยายามก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ข้อหาทั้งห้ายังรวมถึงการจัดตั้ง “องค์กรอาชญากรรมติดอาวุธ” ซึ่งว่ากันว่ามีความเชื่อมโยงถึงการวางแผนลอบสังหารลูลา รองผู้อำนวยการของเขา และผู้พิพากษาศาลฎีกา-อเล็กซานเดร เด โมราเอส

โมราเอสเป็นศัตรูตัวฉกาจของโบลโซนาโร และเป็นหนึ่งในผู้พิพากษาในคดีปัจจุบัน อีกข้อกล่าวหาคือ “พยายามใช้กำลังล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย”

คณะผู้พิพากษา 5 คนในศาลฎีกาได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีกับโบลโซนาโร และโมราเอสเป็นผู้พิพากษาคนแรกที่กล่าวเปิดการพิจารณาคดีที่ถ่ายทอดสดทางทีวี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง โบลโซนาโรอาจถูกจำคุกมากกว่า 40 ปี

โดยรวมแล้วมีผู้ถูกตั้งข้อหาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 34 คน รวมทั้งอดีตรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสหลายคน ฐานสมรู้ร่วมคิดกันขัดขวางไม่ให้ประธานาธิบดีลูลาคนปัจจุบันกลับสู่ตำแหน่ง สำนักงานอัยการระบุ การรัฐประหารไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากผู้นำทหารขาดการสนับสนุนที่จำเป็นในท้ายที่สุด

โบลโซนาโร ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของบราซิลตั้งแต่ปี 2019-2022 พูดถึงข้อกล่าวหาที่มีต่อเขาเมื่อวันพุธว่า “ร้ายแรงมากและไม่มีมูลความจริง ทั้งหมดดูเหมือนพวกเขามีเรื่องส่วนตัวกับผมมากกว่า” เมื่อวันก่อนนักการเมืองหัวรุนแรงฝ่ายขวาผู้นี้ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดในแถลงการณ์ “พวกเขากำลังกล่าวหาว่าผมก่ออาชญากรรมทั้งที่ผมไม่ได้ก่อ” โบลโซนาโรกล่าว เขาเป็นเหยื่อของ “การประหัตประหารทางการเมืองและทางกฎหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบราซิล”

โบลโซนาโรหวังว่าจะได้กลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับความสำเร็จของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใกล้ชิดสนิทสนมในอุดมคติ และต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในประเทศบ้านเกิดของเขาในปี 2026 แต่ในขณะที่สิ่งต่างๆ ยังคงเป็นอุปสรรค เขาจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ศาลเลือกตั้งของบราซิลได้กีดกันโบลโซนาโรออกจากตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2030 เนื่องจากเขาปรักปรำความน่าเชื่อถือของระบบลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีหลักฐาน

ลูลา นักการเมืองฝ่ายซ้าย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือโบลโซนาโรเมื่อเดือนตุลาคม 2022 และเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มกราคม 2023 หนึ่งสัปดาห์ต่อมาบราซิลต้องเผชิญกับการจลาจลครั้งรุนแรง เมื่อผู้สนับสนุนโบลโซนาโรบุกโจมตีสภาคองเกรส ตลอดจนที่พำนักของประธานาธิบดี และศาลฎีกา ก่อให้เกิดความเสียหายนานหลายชั่วโมง

ฮาอีร์ โบลโซนาโรเป็นอดีตประธานาธิบดีบราซิลคนที่สองที่ต้องเผชิญข้อหาทางอาญาในเวลาไม่ถึงสิบปี ในเดือนกรกฎาคม 2017 อดีตประธานาธิบดีลูลาเคยถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานทุจริต เขาใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งในคุก แต่ต่อมาศาลฎีกาได้กลับคำพิพากษาให้เขาพ้นผิด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตผู้พิพากษา เล่าประสบการณ์พิจารณาพิพากษาคดีที่มีเอกสารจำนวนมาก

นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กว่า.....ข่าวเรื่องดิไอคอนที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วมีจำนวนเป็น 10,000 คน ถ้าเฉลี่ยคำให้การคนละ 3-4