มือปืนสังหารพลเรือนหลายสิบรายในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของแคชเมียร์

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 รายในแคว้นแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย หลังเหตุมือปืนกราดยิงนักท่องเที่ยว ถือเป็นการโจมตีพลเรือนที่นองเลือดที่สุดในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการก่อความไม่สงบตั้งแต่ปี 2000

เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินและตำรวจอินเดียกำลังนำนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอนันตนาค ทางตอนใต้ของเมืองศรีนาคาซึ่งเป็นนครหลวงของแคว้นจามมู-แคชเมียร์ เมื่อวันที่ 22 เมษายน (Photo by Tauseef MUSTAFA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2568 กล่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ซึ่งเป็นเขตการปกครองของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย และให้คำมั่นว่าผู้ก่อเหตุจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน

เหตุการณ์สังหารดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตรีโมดีพบกับรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ ของสหรัฐฯที่กรุงนิวเดลี

คำให้การของไกด์นำเที่ยวในเมืองพาฮาลแกมระบุว่า เขาไปถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้ยินเสียงปืน และได้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บบางส่วนออกไปโดยใช้ม้าเป็นพาหนะ

พยานคนหนึ่งกล่าวว่าเขาเห็นผู้ชายหลายคนนอนตายอยู่บนพื้น ขณะที่พยานอีกคนระบุว่าผู้ก่อเหตุเลือกไว้ชีวิตเหยื่อผู้หญิงอย่างชัดเจน

เมืองพาฮาลแกมอยู่ห่างจากเมืองศรีนาคาซึ่งเป็นนครหลวงของแคว้นจามมู-แคชเมียร์ราว 90 กิโลเมตร

แหล่งข่าวความมั่นคงรายหนึ่งกล่าวว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหนึ่งในผู้ถูกยิงเสียชีวิตด้วย แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการ

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่คาดว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏในภูมิภาคแห่งนี้ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และก่อเหตุไม่สงบมาตั้งแต่ปี 1989

พวกเขากำลังแสวงหาอิสรภาพหรือการผนวกดินแดนกับปากีสถานซึ่งควบคุมพื้นที่เล็กๆ ในภูมิภาคแคชเมียร์ และเช่นเดียวกับอินเดีย พวกเขาก็อ้างสิทธิ์อย่างเต็มที่

แวนซ์แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้ผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า "สหรัฐฯ ยืนหยัดเคียงข้างอินเดียในการต่อต้านการก่อการร้าย"

ขณะที่นายกฯอินเดียซึ่งอยู่ในซาอุดีอาระเบีย ได้ยุติการทำภารกิจและเดินทางกลับประเทศทันที

พยานผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อให้ข้อมูลว่า "ผมไม่สามารถบอกได้ว่ากลุ่มก่อการร้ายมีกี่คน แต่พวกเขาโผล่ออกมาจากป่าใกล้ทุ่งหญ้าโล่งๆ และเริ่มกราดยิง"

"พวกเขาเลือกไว้ชีวิตผู้หญิงอย่างชัดเจน และมุ่งมั่นยิงแต่ผู้ชาย บางครั้งก็ยิงทีละนัด บางครั้งก็ระดมยิงหลายนัดอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุ" พยานซึ่งเป็นผู้ดูแลม้าในพื้นที่ท่องเที่ยวระบุ

พยานยังบอกอีกว่าผู้คนจำนวนมากวิ่งไปมาด้วยความตื่นตระหนก เพื่อหลบหนีหลังการเปิดฉากยิง

โอมาร์ อับดุลลาห์ หัวหน้าคณะรัฐมนตรีของจามมู-แคชเมียร์กล่าวว่า "การโจมตีครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งใดๆ ที่เราเคยประสบมา และถือเป็นการโจมตีพลเรือนที่นองเลือดที่สุดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อความไม่สงบตั้งแต่ปี 2000"

"การโจมตีนักท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ผู้ก่อเหตุเป็นพวกไร้มนุษยธรรมและควรได้รับการดูแคลน" เขากล่าวเสริมในแถลงการณ์

แพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอนันตนาคกล่าวว่าพวกเขาได้รับผู้บาดเจ็บบางส่วนแล้ว รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนด้วย

ทั้งนี้ อินเดียมีทหารประมาณ 500,000 นายที่ประจำการอย่างถาวรในพื้นที่ดังกล่าว แต่การสู้รบลดลงนับตั้งแต่รัฐบาลของโมดีเพิกถอนอำนาจปกครองตนเองของแคชเมียร์ในปี 2019

"แผนชั่วร้ายของพวกแบ่งแยกดินแดนจะไม่มีวันประสบผลสำเร็จ ความมุ่งมั่นของเราในการต่อสู้กับการก่อการร้ายนั้นมั่นคงและจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น" โมดีกล่าวในแถลงการณ์

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางการได้ส่งเสริมให้ภูมิภาคภูเขาแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อน และสำหรับการเล่นสกีในฤดูหนาวเพื่อหลีกหนีจากความร้อนระอุของฤดูร้อนในพื้นที่อื่นๆ ของอินเดีย

มีนักท่องเที่ยวประมาณ 3.5 ล้านคนมาเยือนแคชเมียร์ในปี 2024 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ

ในปี 2023 อินเดียเป็นเจ้าภาพการประชุมการท่องเที่ยว G20 ในเมืองศรีนาคา ภายใต้การรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพื่อแสดงให้เห็นว่าความปกติและสันติภาพกำลังกลับมาสู่พื้นที่แห่งนี้ หลังจากการปราบปรามครั้งใหญ่

อินเดียมักกล่าวโทษปากีสถานว่าชักใยอยู่เบื้องหลังการก่อความไม่สงบ

รัฐบาลอิสลามาบัดปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่าพวกเขาเพียงแค่สนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนเพื่อการกำหนดชะตากรรมของแคชเมียร์ด้วยตนเองก็เท่านั้น

การโจมตีพลเรือนที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในเดือนมีนาคม ปี 2000 เมื่อมีชาวอินเดียเสียชีวิต 36 รายจากการโจมตีที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการเยือนของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐฯในขณะนั้น เพียงไม่นาน.

เพิ่มเพื่อน