ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงการค้ากับอังกฤษ ซึ่งถือเป็นดีลแรกนับตั้งแต่เขาเริ่มดำเนินการขึ้นภาษีศุลกากรกับทั้งโลก
แฟ้มภาพ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ (ซ้าย) และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (Photo by CARL COURT / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศว่ารัฐบาลของเขาบรรลุข้อตกลงการค้ากับอังกฤษได้แล้ว ซึ่งจะเป็นดีลแรกนับตั้งแต่เขาเริ่มดำเนินการขึ้นภาษีศุลกากรกับหลายประเทศทั่วโลก
ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับขอบเขตของข้อตกลงดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากที่เขากำหนดภาษีศุลกากรครั้งใหญ่กับคู่ค้าของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเขาเรียกว่า "วันปลดปล่อย"
"ข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์และครอบคลุมซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรไปอีกหลายปีข้างหน้า" ประธานาธิบดีโพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของตนเอง
"ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและความจงรักภักดีร่วมกันของเรา จึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สหราชอาณาจักรเป็นชาติแรกที่บรรลุข้อตกลงกับเรา ขณะที่ข้อตกลงอื่นๆ อีกมากมายซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเจรจาอย่างจริงจังกำลังตามมา!" ทรัมป์กล่าวเสริม
ทรัมป์เตรียมพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวซึ่งกำหนดไว้เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
วอลล์สตรีทเจอร์นัลอธิบายว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงข้อตกลงในการวางกรอบความร่วมมือ ซึ่งไม่ใช่ข้อตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมแบบที่สหราชอาณาจักรต้องการหลังถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษเตรียมรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
"การเจรจากับสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป และคุณจะได้ยินจากผมเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมในวันนี้" สตาร์เมอร์กล่าวในการประชุมด้านการป้องกันประเทศที่กรุงลอนดอน
"แต่จงอย่าเข้าใจผิด ผมจะทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติเสมอ เพื่อคนงาน, ธุรกิจ และครอบครัว เพื่อส่งมอบความมั่นคงและการฟื้นฟูให้กับประเทศของเรา" นายกรัฐมนตรีฯกล่าวเสริม
ทั้งนี้ ผู้นำพรรคแรงงานได้ผลักดันให้มีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐตั้งแต่ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากอังกฤษและประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ทรัมป์ได้กำหนดมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก 10% รวมถึงอังกฤษ แต่เขาได้ระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายสิบประเทศเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจากัน
ทรัมป์กล่าวถึงสตาร์เมอร์ว่าเป็นนักเจรจาที่แข็งกร้าว หลังจากที่ผู้นำอังกฤษได้ไปเยือนกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
การบรรลุข้อตกลงหลังเบร็กซิตกับสหรัฐฯ ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของอังกฤษ นับตั้งแต่ที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปเมื่อช่วงต้นทศวรรษ
รัฐบาลลอนดอนมีความกระตือรือร้นที่จะบรรลุข้อตกลงบางรูปแบบกับรัฐบาลวอชิงตันก่อนการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-อังกฤษในวันที่ 19 พฤษภาคมที่มุ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศ 27 ประเทศ
ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-อังกฤษอาจสร้างปัญหาให้กับสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าที่ยอมรับได้กับสหรัฐฯ
อังกฤษบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับอินเดียในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หลังจากการเจรจากลับมาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ภายหลังจากสหรัฐฯ ขู่ที่จะขึ้นภาษีนำเข้า
ขณะที่สหภาพยุโรปยังคงเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา
ทรัมป์อ้างมาซักพักแล้วว่าหลายประเทศกำลังเตรียมที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
มีรายงานระบุว่ารัฐบาลวอชิงตันอาจลดภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการของอังกฤษ เพื่อแลกกับการบรรเทาภาษีบริการดิจิทัลของอังกฤษที่จ่ายโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลลอนดอนไม่ได้ตอบโต้การที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอังกฤษ 10% หรือภาษีนำเข้าเหล็ก, อลูมิเนียม และยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น 25%
สกายนิวส์รายงานว่ารัฐบาลลอนดอนได้ตกลงผ่อนปรนภาษีนำเข้าอาหารและเกษตรกรรมกับวอชิงตัน เพื่อแลกกับการผ่อนคลายภาษีส่งออกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
ไฟแนนเชียลไทม์สกล่าวเสริมว่ารัฐบาลลอนดอนพยายามที่จะหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรในอนาคตของสหรัฐฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมหลักๆ รวมถึงยา, การบินและอวกาศ รวมทั้งอุตสาหกรรมภาพยนตร์.
