กองทัพอิสราเอลประกาศปฏิบัติการที่เข้มข้นขึ้นในฉนวนกาซาเพื่อปราบกลุ่มฮามาส โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 32 รายจากการโจมตีครั้งใหม่เมื่อวันเสาร์

รถถังและรถปราบดินของอิสราเอลกำลังเคลื่อนพลในขณะที่กลุ่มควันลอยเหนืออาคารที่ถูกทำลายในฉนวนกาซา ระหว่างการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม (Photo by Jack GUEZ / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลประกาศเดินหน้าปราบปรามกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาด้วยปฏิบัติการที่เข้มข้นขึ้น ในขณะที่สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซายังคงเลวร้ายท่ามกลางการปิดล้อมความช่วยเหลือของอิสราเอล โดยโรงพยาบาลที่ยังเปิดดำเนินการอยู่แห่งหนึ่งในพื้นที่เตือนว่าไม่สามารถรักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้อีกต่อไปเนื่องจากขาดแคลนเสบียงและถูกโจมตีในบริเวณใกล้เคียงจนทำให้สถานที่ได้รับความเสียหาย
กองทัพฯประกาศว่าได้เริ่มต้นปฏิบัติการใหม่ไปแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่การสู้รบในฉนวนกาซา โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมดของสงคราม รวมถึงการปล่อยตัวผู้ที่ถูกลักพาตัวและการปราบกลุ่มฮามาส
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวต่อที่ประชุมสันนิบาตอาหรับในกรุงแบกแดดว่า เขารู้สึกวิตกกังวลกับแผนการของอิสราเอลที่จะขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินในกาซา และสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้มีเพียงการหยุดยิงถาวรเท่านั้น
มาห์มูด บาสซาล โฆษกสำนักงานป้องกันพลเรือนกาซา กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 32 รายหลังการโจมตีของอิสราเอลในวันเสาร์ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก
นอกจากนี้ยังมีผู้คนบางส่วนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังหลังจากการโจมตี และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในที่อื่นๆ ด้วย แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ดังกล่าวได้เนื่องจากการยิงถล่มอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานดังกล่าวระบุว่าการโจมตีของอิสราเอลคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 100 รายในวันก่อนหน้า
อิสราเอลกลับมาเปิดฉากโจมตีในฉนวนกาซาอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ถือเป็นการยุติการสงบศึก 2 เดือนในสงครามกับกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นฝ่ายโจมตีก่อนในเดือนตุลาคม 2023
การกลับมาสู้รบอีกครั้งทำให้เกิดการประณามจากนานาชาติ โดยโวลเกอร์ เติร์ก เลขาธิการหน่วยงานสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ประณามการโจมตีและสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็นการผลักดันให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาต้องอพยพออกจากถิ่นฐานอย่างถาวร ซึ่งถือเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
กลุ่มรณรงค์หลักของอิสราเอลซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวตัวประกันกล่าวว่าการที่ขยายการสู้รบออกไปนั้น เนทันยาฮูได้พลาดโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่จะส่งตัวคนที่พวกเขารักกลับคืนมาผ่านการทูต
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฮามาสเรียกร้องสหรัฐฯ ช่วยกดดันอิสราเอลให้ยกเลิกการปิดกั้นความช่วยเหลือเพื่อแลกกับตัวประกันชาวอเมริกัน-อิสราเอลที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวโดยกลุ่มดังกล่าว
เอเดน อเล็กซานเดอร์ ตัวประกันสัญชาติอเมริกันคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้รับการปล่อยตัวหลังจากมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์
ทาเฮอร์ อัล-นูนู เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า กลุ่มฯกำลังรอและคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะกดดันอิสราเอลเพิ่มเติมเพื่อให้ฟื้นฟูความช่วยเหลือ ขณะที่การเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับการยุติสงครามได้เริ่มต้นขึ้นที่กรุงโดฮา โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ จากทั้งสองฝ่าย
ทั้งสองฝ่ายยืนกรานเงื่อนไขบางประการในการเจรจาที่ผ่านมา โดยฮามาสกล่าวว่าการปลดอาวุธเป็นเส้นแบ่งที่ชัดเจน และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลไม่เต็มใจจะทำข้อตกลงใดๆที่จะทำให้กลุ่มฮามาสยังคงอยู่
อิสราเอลระบุว่าการตัดสินใจตัดความช่วยเหลือแก่ฉนวนกาซามีจุดมุ่งหมายเพื่อบีบให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลหลายสิบคน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูกลับเผชิญกับแรงกดดันที่มากขึ้นให้ยกเลิกการปิดล้อม ขณะที่หน่วยงานของสหประชาชาติเตือนว่ากำลังขาดแคลนอาหาร, น้ำสะอาด, ยา และเชื้อเพลิง
การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,218 รายในฝั่งอิสราเอล
จากตัวประกัน 251 คนที่ถูกจับระหว่างการโจมตีนั้นยังมีอีก 57 คนอยู่ในฉนวนกาซา รวมถึง 34 รายที่กองทัพระบุว่าเสียชีวิตแล้ว
กระทรวงสาธารณสุขในเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 3,131 รายนับตั้งแต่ที่อิสราเอลกลับมาโจมตีอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากสงครามอยู่ที่ 53,272 ราย.