ปิดจบเจรจาการเงินกลุ่ม G7 สมาชิกย้ำไม่แตกแยก แม้ปัญหาภาษีศุลกากรยังไม่ลงตัว

รัฐมนตรีคลังของกลุ่ม G7 เสร็จสิ้นการเจรจาที่แคนาดาด้วยการแสดงความสามัคคี, เชื่อมั่นว่าความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจที่แผ่ขยายไปทั่วโลกกำลังคลี่คลายลง และให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าต่อไปเพื่อความมั่นคง

ทิฟฟ์ แม็กเคลม ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา (ซ้าย) และฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญ รัฐมนตรีคลังแคนาดา แถลงข่าวปิดการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G7 ที่เมืองแบนฟ์ รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม (Photo by Cole Burston/ / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า แคนาดาแถลงปิดการประชุมรัฐมนตรีคลังจากประเทศกลุ่ม G7 อย่างเป็นทางการที่เมืองแบนฟ์ รัฐอัลเบอร์ตา พร้อมย้ำเตือนว่าความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจกำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก แต่บรรดาชาติสมาชิกจะจับมือเดินหน้าต่อไปเพื่อความมั่นคง

นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำให้เกิดความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจทั่วโลก และการประชุมในสัปดาห์นี้ถือเป็นการทดสอบว่ากลุ่ม G7 จะสามารถเอาชนะความตึงเครียดต่อจากนี้ได้หรือไม่

ผู้นำในการเจรจา ซึ่งรวมถึงผู้ว่าการธนาคารกลาง ยอมรับว่าการหารือดังกล่าวเผชิญกับความท้าทาย รวมถึงความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับภาษีศุลกากร

อย่างไรก็ตามในแถลงการณ์สุดท้าย กลุ่มประเทศ G7 ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "เรายอมรับว่าความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจได้ลดลงจากจุดสูงสุดแล้ว และเราจะทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความคืบหน้าต่อไป"

ฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญ รัฐมนตรีคลังแคนาดาในฐานะเจ้าภาพการประชุม ระบุว่าการเจรจาครั้งนี้เป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ และที่ประชุมเห็นพ้องว่ามีความจำเป็นต้องลดความไม่แน่นอนเพื่อเพิ่มการเติบโต

สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากชาติสมาชิกในกรณีภาษีศุลกากรของทรัมป์ ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย

ทิฟฟ์ แม็กเคลม ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดากล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวปิดการประชุมว่า "เห็นได้ชัดว่าภาษีศุลกากรอยู่ในความคิดของพวกเราทุกคน แม้แถลงการณ์ของกลุ่มฯเน้นย้ำว่าความไม่แน่นอนลดลงแล้ว แต่ยังไงก็มีงานอีกมากที่ต้องทำ"

ขณะที่เบสเซนต์กล่าวกับเอเอฟพีขณะออกจากการประชุมสุดยอดว่า "ผมไม่คิดว่าจะมีความขัดแย้งสำคัญใดๆ ผมคิดว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี"

ลาร์ส คลิงเบล รัฐมนตรีคลังเยอรมนีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแก้ไขข้อพิพาททางการค้าในปัจจุบันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากภาษีศุลกากรได้สร้างภาระหนักให้กับเศรษฐกิจโลก และเรากำลังยื่นมือเข้ามาแก้ไข"

เอริก ลอมบาร์ด รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกล่าวกับเอเอฟพีว่า "บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความอบอุ่น เราพูดคุยกันในทั้งในฐานะเพื่อนและพันธมิตร แม้เราไม่ได้เห็นด้วยในทุกเรื่อง แต่เราได้พูดคุยกันในทุกเรื่อง"

โจชัว เมลต์เซอร์ นักวิจัยอาวุโสของสถาบันบรูคกิ้งส์เรียกแถลงการณ์ร่วมนี้ว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกอย่างยิ่งที่อาจกำหนดทิศทางสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำในเดือนมิถุนายน ซึ่งทรัมป์จะเข้าร่วม

เซอร์ฮี มาร์เชนโก รัฐมนตรีคลังยูเครนเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ด้วย และเรียกร้องให้กลุ่มประเทศ G7 รักษาแรงกดดันที่มีต่อรัสเซีย

ในแถลงการณ์ ผู้นำด้านการเงินของกลุ่ม G7 เห็นพ้องกันว่า รัสเซียอาจเผชิญกับการคว่ำบาตรเพิ่มเติมหากต่อต้านการผลักดันข้อตกลงหยุดยิง

"หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงดังกล่าว เราจะยังคงสำรวจทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดต่อไป รวมถึงทางเลือกในการเพิ่มแรงกดดันให้สูงสุด เช่น การคว่ำบาตรเพิ่มเติม" แถลงการณ์ระบุ

ความพยายามทางการทูตเพื่อยุติความขัดแย้งได้เร่งตัวขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ของรัสเซียและยูเครนได้จัดการหารือแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในอิสตันบูล

อย่างไรก็ตามรัสเซียกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการเจรจาสันติภาพครั้งใหม่กับยูเครนนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งขัดแย้งกับรายงานที่ระบุว่าทั้งสองประเทศจะจัดการเจรจากันอีกครั้งในเร็วๆ นี้ที่นครวาติกัน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติการนองเลือด แต่ทั้งการติดต่อของเขาและการเจรจาครั้งก่อนในอิสตันบูลไม่ได้ส่งผลให้รัสเซียตอบรับใดๆ

แถลงการณ์ของกลุ่ม G7 ประณามสงครามอันโหดร้ายของรัสเซียที่ยังคงดำเนินต่อไป และระบุว่าหน่วยงานใดๆ ที่สนับสนุนรัสเซียในช่วงความขัดแย้งจะถูกห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับกระบวนการฟื้นฟูยูเครน

"เราตกลงที่จะทำงานร่วมกันกับยูเครนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีประเทศหรือหน่วยงานใด ๆ หรือหน่วยงานจากประเทศที่สนับสนุนเงินทุนหรือจัดหาเครื่องจักรสงครามของรัสเซียจะมีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นฟูยูเครน" แถลงการณ์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน