ผู้นำชาติอาเซียนกำลังมองหาวิธีปกป้องเศรษฐกิจที่พึ่งพาการค้าของตนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในการหารือกับนายกรัฐมนตรีจีนและบุคคลระดับสูงของประเทศอ่าวเปอร์เซียที่กัวลาลัมเปอร์

(จากซ้ายไปขวา) จาเซม อัลบูไดวี เลขาธิการคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ, ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา, นายกรัฐมนตรีลาว, นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์, เจ้าชายไฟซอล บิน ฟาร์ฮาน อัล-ซาอูด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย, นายกรัฐมนตรีไทย, ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์, นายกรัฐมนตรีเวียดนาม, ชีค ซาบาห์ คาเลด อัล-ฮาหมัด อัล-ซาบาห์ มกุฎราชกุมารแห่งคูเวต, นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย, ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์, ชีค ซาอูด บิน ซัคร์อัล กาซิมี เจ้าผู้ครองนครรัฐราสอัลไคมาห์แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สุลต่านแห่งบรูไน, เจ้าชายซัลมาน บิน ฮาหมัด อัล-คาลิฟา มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีของบาห์เรน, นายกรัฐมนตรีกัมพูชา, ซายิด อาซาด ทาริคไทมูร์ อัล ซาอิด รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความสัมพันธ์และกิจการระหว่างประเทศของโอมาน, นายกรัฐมนตรีติมอร์ตะวันออก และเกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน ถ่ายรูปร่วมกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี) ครั้งที่ 2 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม (Photo by Jam STA ROSA / AFP)

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย (ขวา) ถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ-จีน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม (Photo by MOHD RASFAN / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า บรรดาผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ร่วมประชุมสุดยอดที่มาเลเซีย กับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน และบุคคลระดับสูงของประเทศอ่าวเปอร์เซีย
เวทีประชุมอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี)-จีน (ASEAN - Gulf Cooperation Council (GCC)- China) จะถูกใช้เป็นทางออกในการหาวิธีปกป้องเศรษฐกิจที่พึ่งพาการค้าของกลุ่มสมาชิกจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะประเด็นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทำลายบรรทัดฐานการค้าโลกในเดือนเมษายน เมื่อเขาประกาศจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ครั้งใหญ่ต่อประเทศต่างๆ รวมถึงพันธมิตรของสหรัฐฯเอง
แม้ในเวลาต่อมาเขาได้ระงับการบังคับใช้เป็นเวลา 90 วัน สำหรับประเทศส่วนใหญ่ แต่ประเด็นดังกล่าวได้กระตุ้นให้ชาติอาเซียนเร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับเครือข่ายการค้า
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพการประชุมในกัวลาลัมเปอร์กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงในระเบียบภูมิรัฐศาสตร์กำลังเกิดขึ้น"
หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดหรูเมื่อคืนก่อนหน้า การประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างอาเซียน, จีน และคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับซึ่งประกอบด้วยบาห์เรน, คูเวต, โอมาน, กาตาร์ ,ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันอังคาร
นักวิเคราะห์กล่าวว่า โดยปกติแล้ว อาเซียนทำหน้าที่เป็น "คนกลาง" ระหว่างประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯและจีน แต่เนื่องจากรัฐบาลวอชิงตันขาดความน่าเชื่อถือในปัจจุบัน ประเทศสมาชิกอาเซียนจึงมองหาวิธีเพิ่มความหลากหลาย และการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนระหว่างอ่าวเปอร์เซียกับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นแง่มุมหนึ่งของการเพิ่มความหลากหลายนั้น โดยมาเลเซียซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนแบบหมุนเวียนและได้เปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 เมื่อวันจันทร์ เป็นกำลังหลักเบื้องหลังความคิดริเริ่มนี้
อาเซียนจะหารือกับชาติอาหรับในช่วงเช้า และจีนจะเข้าร่วมในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน โดยผู้นำมาเลเซียกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายมีวิธีการและความรับผิดชอบที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักแห่งเสถียรภาพและเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต
รัฐบาลปักกิ่งซึ่งต้องแบกรับภาระภาษีศุลกากรของทรัมป์ ก็กำลังมองหาทางที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดอื่นๆ เช่นกัน
กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า พวกเขาคาดหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับทั้งอาเซียนและจีซีซี
จีนและอาเซียนเป็นหุ้นส่วนการค้าที่ใหญ่ที่สุดของกันและกันอยู่แล้ว และการส่งออกของจีนไปยังไทย, อินโดนีเซีย และเวียดนามพุ่งสูงขึ้นถึงสองหลักในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนเส้นทางสินค้าที่เคยมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเข้าร่วมของนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงนั้นทันเวลาและมีการคำนวณไว้แล้ว
"จีนมองเห็นโอกาสในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของตนในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับความพยายามแยกตัวของชาติตะวันตก"
ก่อนหน้านี้รัฐบาลปักกิ่งและวอชิงตันได้ดำเนินการตอบโต้กันอย่างรุนแรงจนกระทั่งการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ได้มีข้อตกลงที่จะลดภาษีระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน
อย่างไรก็ตาม สินค้าจีนยังคงเผชิญกับภาษีที่สูงกว่าสินค้าส่วนใหญ่ในตลาดสากล
อาเซียนในฐานะองค์กรประชาชาติได้หลีกเลี่ยงการเลือกข้างระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนมาโดยตลอด
ทั้งนี้ จีนเป็นเพียงแหล่งการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ จีนยังมีข้อพิพาทเรื่องดินแดนกับประเทศสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ โดยจีนและฟิลิปปินส์เผชิญหน้ากันมาหลายเดือนในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งมีรายงานว่านายกฯมาเลเซียได้หารือเรื่องทะเลจีนใต้กับนายกฯจีนแบบตัวต่อตัวไปแล้ว
ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลมะนิลาและปักกิ่งนั้นอาจไม่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในฐานะประเด็นแต่จะไม่จางหายไปในฉากหลัง อย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องแบกรับสถานการณ์ไปก่อนในช่วงเวลาที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องการเน้นในประเด็นเศรษฐกิจเป็นหลัก.