กองกำลังรักษาความปลอดภัยปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงนอกศูนย์กักกันในลอสแองเจลิส ขณะที่กองกำลังป้องกันประเทศที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งไปประจำการได้กระจายกำลังไปทั่วเมือง

กลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนสิทธิผู้อพยพเผชิญหน้ากับทหารกองกำลังป้องกันประเทศและเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ด้านนอกศูนย์กักขัง Metropolitan Detention Center (MDC) ใจกลางนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน (Photo by Frederic J. Brown / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า หลังจากเกิดการประท้วงอย่างดุเดือดเป็นเวลา 2 วัน กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบุกค้นและจับกุมผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารอนุญาตอย่างถูกต้องในพื้นที่พาราเมาต์ของลอสแองเจลิส ล่าสุดเหตุการณ์บานปลายจนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องส่งกองกำลังป้องกันประเทศไปประจำการด้วยการกระจายกำลังทั่วเมือง
ทรัมป์ให้คำมั่นว่ากองกำลังฯจะรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มแข็ง ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ กล่าวว่าทหาร 300 นายจากกองพลรบทหารราบที่ 79 ถูกส่งไปยังสถานที่แยกกัน 3 แห่งในเขตมหานครลอสแองเจลิส และดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและบุคลากรของรัฐบาลกลาง
ทหารในชุดลายพรางพร้อมปืนประจำการอยู่ที่ศูนย์กักกันของรัฐบาลกลางในตัวเมืองลอสแองเจลิส ซึ่งพวกเขาเข้าร่วมกับกองกำลังของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
มีรายงานการใช้สเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตายิงใส่ฝูงชนจำนวนหนึ่งรวมทั้งนักข่าว บริเวณหน้าศูนย์กักกัน
เมื่อถามถึงการใช้กำลังทหาร ทรัมป์ดูเหมือนจะเปิดทางให้มีการเคลื่อนพลไปยังพื้นที่อื่นๆ ของประเทศด้วยเช่นกัน
"มีคนใช้ความรุนแรง และเราจะไม่ยอมให้พวกเขาลอยนวล" ผู้นำสหรัฐกล่าวกับนักข่าว และเสริมว่า "แล้วพวกคุณจะได้เห็นกฎหมายและระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น"
การเคลื่อนพลในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ว่าการรัฐต้องเผชิญหน้านับตั้งแต่หมดยุคสิทธิพลเมือง ถูกระบุว่าเป็นการปลุกปั่นโดยเจตนา
เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งทหารหน่วยป้องกันชาติ 2,000 นายเข้าไปในเขตลอสแองเจลิส ไม่ใช่เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ แต่เพื่อสร้างวิกฤตการณ์ขึ้น
"เขาหวังว่าจะเกิดความโกลาหล เพื่อที่เขาจะได้หาเหตุผลมาสนับสนุนการปราบปรามเพิ่มเติม ขอทุกคนจงสงบสติอารมณ์ และอย่าใช้ความรุนแรง"
คำเตือนของนิวซัมมีขึ้นหลังเกิดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ชุมนุมตลอด 2 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางได้ยิงระเบิดแสงวาบและแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชนที่โกรธแค้นต่อการไล่จับกุมผู้อพยพจำนวนมาก
สมาชิกพรรครีพับลิกันออกมาให้การสนับสนุนทรัมป์เพื่อปัดป้องการตอบโต้ของนิวซัมและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนอื่นๆ ต่อการส่งกองกำลังป้องกันประเทศไปประจำการในพื้นที่ปะทะ
"ผมไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย" ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันกล่าว พร้อมประณามว่านิวซัมไม่สามารถหรือไม่เต็มใจมากพอที่จะทำในสิ่งจำเป็น
ส่วนการขู่ของพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯที่จะส่งนาวิกโยธินประจำการไปควบคุมกองกำลังรักษาการณ์นั้น จอห์นสันกล่าวว่าเขาไม่ได้มองว่านั่นเป็นเรื่องตื่นตูมเกินกว่าเหตุ และโต้แย้งว่า "เราต้องเตรียมพร้อมที่จะทำในสิ่งที่จำเป็น"
ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงบอกกับเอเอฟพีว่า จุดประสงค์ของกองกำลังรักษาการณ์นั้นไม่น่าจะใช่เรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่เป็นกลวิธีข่มขู่
"การประท้วงครั้งนี้เป็นไปอย่างสันติ ไม่มีใครพยายามสร้างความเสียหายใดๆ ในตอนนี้ แต่กลับมีกองกำลังรักษาการณ์พร้อมปืนและกระสุนยืนคอยขู่ชาวอเมริกันไม่ให้ใช้สิทธิที่พึงมี" ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประท้วงโกรธแค้นที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองใข้กำลังบังคับจับกุมผู้อพยพซึ่งไม่ได้ทำอะไรผิด
วุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอร์สแห่งรัฐเวอร์มอนต์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจเผด็จการของทรัมป์
"การบุกจู่โจมอย่างผิดกฎหมายครั้งใหญ่, ยั่วยุให้เกิดการตอบโต้, ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และนำทหารเข้ามาใช้ปราบประชาชน เป็นสิ่งที่รับไม่ได้" แซนเดอร์สระบุ
กองกำลังป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นกองกำลังสำรอง มักถูกใช้ในเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ และบางครั้งใช้ในกรณีความไม่สงบทางการเมือง แต่ส่วนใหญ่มักจะได้รับความยินยอมจากทางการท้องถิ่น
การบุกจับผู้อพยพเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามผู้อพยพที่ไร้เอกสาร ซึ่งเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ให้คำมั่นในตอนหาเสียงเลือกตั้งว่าจะปราบปรามการเข้าเมืองและการเข้าอยู่อาศัยของผู้อพยพที่ไร้เอกสาร ซึ่งเขาเปรียบเทียบคนเหล่านั้นว่าเป็นสัตว์ประหลาด
การบุกเข้าตรวจค้นโดยหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) ในเมืองอื่นๆ ของสหรัฐฯ ได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ความไม่สงบในลอสแองเจลิสเป็นความไม่สงบครั้งใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดต่อนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของทรัมป์จนถึงขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของ CBS News ที่ดำเนินการก่อนการประท้วงในลอสแองเจลิสแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปราบปรามผู้อพยพอย่างจริงจัง.