อิสราเอลอนุมัติโครงการตั้งถิ่นฐานที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง – ข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับเวสต์แบงก์

เบซาเลล สโมทริช-รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝ่ายขวาจัดของอิสราเอล ถือแผนที่แสดงพื้นที่ใกล้กับนิคมมาอาเล อาดูมิม ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่รู้จักกันในชื่อ E1 นอกเยรูซาเล็มในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง หลังจากการแถลงข่าวในสถานที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม รัฐมนตรีกระทรวงการคลังยังได้สนับสนุนแผนการสร้างบ้าน 3,400 หลังในพื้นที่ที่มีการโต้แย้งในเขตเวสต์แบงก์ด้วย โดยเรียกร้องให้ผนวกดินแดนดังกล่าวเพื่อตอบโต้ที่หลายประเทศประกาศแผนการที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ – Photo by Menahem Kahana / AFP

แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ แต่อิสราเอลก็อนุมัติโครงการตั้งถิ่นฐาน E1 ในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งเป็นโครงการที่ถูกระงับมานานหลายปี

แผนดังกล่าวจัดทำโดย เบซาเลล สโมทริช-รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝ่ายขวาจัดของอิสราเอล มุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงเมืองเยรูซาเล็มและมาอาเล อาดูมิมเข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันแผนนี้ยังทำลายโอกาสที่จะมีดินแดนปาเลสไตน์ที่ต่อเนื่องกันระหว่างเบธเลเฮม เยรูซาเล็มตะวันออก และรามัลลาห์ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานทางอาณาเขตสำหรับรัฐปาเลสไตน์อิสระ ภายใต้กรอบแนวทางการแก้ปัญหาแบบสองรัฐ – ทีนี้มาดูข้อเท็จจริงสำคัญเกี่ยวกับเวสต์แบงก์…

ประชากรและการยึดครอง

เขตเวสต์แบงก์ตั้งอยู่ระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน ครอบคลุมพื้นที่ 5,655 ตารางกิโลเมตร มีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 3 ล้านคน และชาวอิสราเอล 500,000 คนอาศัยอยู่ที่นั่น

อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์ เยรูซาเล็มตะวันออก และฉนวนกาซาในสงครามหกวันปี 1967 โดยเปิดฉากโจมตีแบบกะทันหันเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางทหารจากประเทศอาหรับเพื่อนบ้านหลายประเทศ ก่อนหน้านั้นจอร์แดนเคยยึดครองเวสต์แบงก์ ขณะที่ฉนวนกาซายังอยู่ภายใต้การควบคุมของอียิปต์

การตั้งถิ่นฐาน

ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ การสร้างนิคมของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์เหล่านี้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อิสราเอลถอนตัวออกจากฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ในปี 2005 หลังจากทำการยึดครองมานาน 38 ปี ในปี 2007 กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นองค์กรอิสลามปาเลสไตน์ได้เข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าวแต่เพียงฝ่ายเดียว และขับไล่พรรคฟาตาห์-พรรคการเมืองคู่แข่งฝ่ายฆราวาสของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ซึ่งปกครองเขตเวสต์แบงก์ ออกจากพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ในเขตเวสต์แบงก์ องค์กรพัฒนาเอกชนของอิสราเอล Peace Now ซึ่งรณรงค์ต่อต้านขบวนการตั้งถิ่นฐาน ได้นับจำนวนการตั้งถิ่นฐานที่ทางการอิสราเอลลงทะเบียนไว้ 147 แห่งเมื่อสิ้นปีที่แล้ว Peace Now ยังระบุว่ามีการจัดตั้งฐานปฏิบัติการ 60 แห่งในเขตเวสต์แบงก์ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปี 2023 และมากกว่าในทศวรรษที่ผ่านมามาก

สามโซน

ตามข้อตกลงสันติภาพออสโลปี 1993 ที่ลงนามโดยอิสราเอลและปาเลสไตน์ ระบุ เวสต์แบงก์แบ่งออกเป็น 3 โซน
พื้นที่โซน A อยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายบริหารปาเลสไตน์ โซน B อยู่ภายใต้เขตอำนาจร่วมของอิสราเอลและฝ่ายบริหารปาเลสไตน์ ส่วนโซน C ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของเวสต์แบงก์นั้น อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลทั้งหมด นิคมของอิสราเอลและหุบเขาจอร์แดน ซึ่งมีความสำคัญทางการเกษตรส่วนใหญ่ขยายเข้าไปในพื้นที่ C

การเจรจาทางออกสองรัฐ

แม้จะมีความพยายามไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศ แต่การเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์เกี่ยวกับประเด็นที่เรียกว่า “ทางออกสองรัฐ” ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ทางออกสองรัฐนี้มุ่งหวังที่จะสถาปนาปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระและอยู่ร่วมกันอย่างสันติเคียงข้างอิสราเอล ภายใต้พรมแดนที่ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับ

โครงการตั้งถิ่นฐาน E1

รัฐบาลอิสราเอลเคยต้องการสร้างนิคมในพื้นที่ทางตะวันออกของเยรูซาเล็มเมื่อหลายปีก่อน แต่แล้วก็ล้มเลิกแนวคิดนี้ไปเพราะแรงกดดันจากนานาชาติ ซึ่งต่างมีความวิตกว่าการสร้างนิคมใหม่ในพื้นที่รกร้างระหว่างเยรูซาเล็มและมาอาเล อาดูมิม ที่ส่วนใหญ่ไม่มีผู้อยู่อาศัย จะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เบซาเลล สโมทริช-รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล ได้นำเสนอแผน E1 โดยอ้างถึงการประกาศล่าสุดของหลายประเทศว่ามีเจตนาที่จะรับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐ ดังนั้น “ผู้ที่ต้องการรับรองรัฐปาเลสไตน์ในวันนี้ จะได้รับคำตอบจากเราโดยตรง ในรูปแบบของข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรม เช่น บ้านเรือน ชุมชน ถนนหนทาง และครอบครัวชาวยิวที่กำลังสร้างชีวิตความเป็นอยู่”

ความรุนแรงทวีขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023

นับตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 และสงครามในฉนวนกาซาที่เกิดขึ้นตามมา ความรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ก็ทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน ทางการปาเลสไตน์ระบุว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์แล้วอย่างน้อย 971 คน ซึ่งรวมถึงผู้ก่อเหตุติดอาวุธด้วย

ในห้วงเวลาเดียวกัน แหล่งข่าวอิสราเอลระบุว่า มีชาวอิสราเอลอย่างน้อย 36 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของชาวปาเลสไตน์ และองค์กรสิทธิมนุษยชนยังร้องเรียนถึงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวหัวรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทรัมป์เตือนอิสราเอล อย่าแทรกแซงซีเรีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิสราเอลไม่ให้แทรกแซงซีเรีย “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องรักษาการเจรจาที่มั่นคงและจริงใจกับซีเรีย และต้องไม่มีการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางการพัฒนาซีเรียให้กลายเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาเมื่อวันจันทร์ เขายังเสริมด้วยว่า “ยังมีโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”

เนทันยาฮู ประณามความรุนแรงจากกลุ่มหัวรุนแรงในเวสต์แบงก์

เนื่องด้วยการโจมตีหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ที่เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จึงประณามผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ก่อเ

ตำรวจอิสราเอลจับกุมผู้ตั้งถิ่นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีชาวปาเลสไตน์

หลังจากการโจมตีอย่างรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลได้จับกุมผู้ก่อตั้งถิ่นฐานชาวยิวหัวรุนแรงหลายคนที่เกี่ยวข้อง

ข้อตกลงหยุดยิงส่อล้มเหลว อิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกัน

อิสราเอลระงับการส่งความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซาชั่วคราว ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลเพิ่มขึ้นเป็น 33 ราย ตามรายงาน

'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิ โจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย

'ฟูอาดี้' ให้กำลังใจ 'สว.อังคณา' ยืนยันการใช้เสียงเป็นอาวุธ ละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดเจน เหตุเป็นการโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมาย ชี้สงครามยุคนี้คือการช่วงชิงเครือข่าย ยก 'อิสราเอล' มีอำนาจ-กำลังทหาร แต่พ่ายแพ้บนเวทีระหว่างประเทศ มองบวก สิ่งที่ปลอบใจ 'ไทย' ได้คือ 'กัมพูชา' ไม่สามารถสร้างความชอบธรรมเวทีโลกได้ เหตุอาชญากรรมข้ามชาติ

หลังปล่อยตัวประกัน แผนตะวันออกกลางของทรัมป์จะดำเนินต่อไปอย่างไร?

หลังจากการปล่อยตัวประกันกลุ่มสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่จากฉนวนกาซา ยังคงมีคำถามยากๆ เกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพของการหยุดยิงระ