คิรินโฮลดิงส์ บริษัทผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทตัดสินใจถอนตัวจากการทำธุรกิจและการร่วมทุนกับบริษัทในเมียนมาที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ
สำนักข่าวเอพีและรอยเตอร์รายงานว่า คิรินโฮลดิงส์ บริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ของญี่ปุ่น เจ้าของเบียร์แบรนด์ดังหลายแบรนด์ที่จำหน่ายทั่วโลก แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าคณะกรรมการบริหารของบริษัทตัดสินใจที่จะ “ยุติอย่างเร่งด่วน” ในการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบริษัท เมียนมาอีโคโนมิกโฮลดิงส์ (เอ็มอีเอชแอล) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกองทัพเมียนมา หลังจากพบว่าเป็นเรื่องยากลำบากที่จะยุติการร่วมลงทุนกับบริษัทนี้อย่างรวดเร็วตามวิถีทางที่บริษัทคิรินต้องการ
"เราจะสะสางเรื่องนี้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร" โยชิโนริ อิโซซากิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริการของคิริน กล่าว
ก่อนหน้านี้ บริษัทคิรินมีข้อโต้เถียงกับเอ็มอีเอชแอล เนื่องจากคิรินหาทางยุติการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในบริษัทผลิตเบียร์กับเอ็มอีเอชแอล หลังจากทหารเมียนมาก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว โดยคิรินต้องการให้เอ็มอีเอชแอลขายหุ้นออกไป
โฆษกของคิรินโฮลดิงส์แถลงว่า ขณะนี้บริษัทจะขายหุ้นที่ถืออยู่ในสัดส่วนร้อยละ 51 ในบริษัทผลิตเบียร์เมียนมา 2 บริษัทคือ เมียนมา บริวเวอรี และมัณฑะเลย์ บริวเวอรี โดยจะไม่ขายหุ้นให้กับเอ็มอีเอชแอล
ในการถอนตัวจากการทำธุรกิจในเมียนมา บริษัทให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของพนักงานท้องถิ่น ซึ่ง 2 บริษัทมีพนักงานรวมกันราว 1,450 คน
บริษัทเมียนมา บริวเวอรี ก่อตั้งในปี 2538 ผลิตเบียร์ภายใต้แบรนด์เมียนมาเบียร์, คิรินอิจิบัน, อันดามันโกลด์ และแบล็กชีลด์ ยังไม่แน่ชัดว่าบริษัทแห่งนี้จะยังคงผลิตเบียร์อิจิบันอีกต่อไปหรือไม่ หลังจากยุติการร่วมทุนกับบริษัท คิรินโฮลดิงส์
บริษัท คิรินโฮลดิงส์ แถลงก่อนหน้านี้ว่า ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ในการทำธุรกิจในเมียนมาในปี 2564 อยู่ที่ 68,000 ล้านเยน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมช.' แจงไทยมี 3 จุดยืนในสถานการณ์เมียนมา
'สมช.' เข้าแจง 'กมธ.มั่นคงฯ' เพื่อรายงานการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ย้ำ 3 จุดยืน รักษาอธิปไตยไทย-ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดน-ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรมสากล
'ทบ.' เปิดแผนรับมือ สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา
รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เปิดเผยแนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา กรณีการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย
เตือนแรงงาน 3 สัญชาติ MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับปท. ภายใน 30 เม.ย. นี้
‘คารม’ เตือนแรงงาน MOU ครบ 4 ปี ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางภายใน 30 เม.ย นี้ แนะนายจ้าง/ผู้ประกอบการยื่นคำร้อง นจ. 2 ล่วงหน้า หากประสงค์จะนำแรงงานกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง
‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด 23 เม.ย. เกาะติดสถานการณ์สู้รบในเมียนมา
‘สุทิน’ เผยสถานการณ์สู้รบเมียนมาเข้มข้นขึ้น คนหนีภัยมาไทย ยอมรับกระทบเราแต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ขอสบายใจกองทัพปกป้องอธิไตย-ดูแลประชาชนเต็มที่
'เศรษฐา' เตรียมบินไปแม่สอด 23 เม.ย. หลังปะทะเดือดใกล้ชายแดนเมียนมา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน x ว่า “จากสถานการณ์การปะทะกันบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมา
นายกฯเศรษฐา กังวลสถานการณ์สู้รบในเมียนมา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใช้เวลาช่วงวันหยุดติดตามงาน รวมถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมทวิตข้อความผ่าน x ว่า “ผมติดตาม