เบลเยียมเตรียมรับมือการปิดโรงเรียน รวมทั้งการเดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินที่หยุดชะงัก จากเหตุประท้วงหยุดงาน 3 วันที่เริ่มขึ้นในวันจันทร์ เพื่อประท้วงแผนรัดเข็มขัดของรัฐบาลที่มุ่งลดหนี้สาธารณะ
(แฟ้มภาพ) รถแทรกเตอร์ติดธงชาติเบลเยียมจอดขวางถนนระหว่างการประท้วงของเกษตรกร ณ ทางแยกต่างระดับ Daussoulx ระหว่างทางหลวง E40 และ E411 ใกล้เมืองนามูร์ ประเทศเบลเยียม (Photo by Simon Wohlfahrt / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า สหภาพแรงงานเบลเยียมนัดหยุดงานทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน เพื่อประท้วงแผนรัดเข็มขัดของรัฐบาลที่มุ่งลดหนี้สาธารณะ
การเคลื่อนไหวนี้วางแผนไว้เป็น 3 ระลอก ขั้นแรกรถไฟและระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ เริ่มหยุดงานประท้วงในวันจันทร์ โดยบริษัทรถไฟแห่งชาติ SNCB คาดว่าจะสามารถให้บริการรถไฟได้หนึ่งหรือสองขบวนจากทั้งหมดสามขบวน ขณะที่รถไฟยูโรสตาร์หลายขบวนที่เชื่อมต่อบรัสเซลส์กับปารีสจะถูกยกเลิก
ในวันอังคาร บริการสาธารณะต่างๆ เช่น โรงเรียน, สถานรับเลี้ยงเด็ก และโรงพยาบาลจะหยุดให้บริการ สุดท้ายในวันพุธ สหภาพแรงงานได้เรียกร้องให้มีการหยุดงานประท้วงทั่วไปเต็มรูปแบบครอบคลุมทุกประเภท
คาดว่าจะไม่มีเที่ยวบินในวันพุธที่สนามบินหลักสองแห่งของประเทศ ได้แก่ บรัสเซลส์-ซาเวนเทม และชาร์เลอรัว
การประท้วงนี้เกิดขึ้นจากสหภาพแรงงานหลักของเบลเยียม ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับนายกรัฐมนตรีบาร์ต เดอ เวเวอร์ เกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรัฐบาลในการลดหนี้ของประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในหนี้ที่มูลค่าสูงสุดในยุโรป รองจากกรีซ, อิตาลี และฝรั่งเศส
เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประท้วงจะเริ่มต้นขึ้น พรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรคของเดอ เวเวอร์ ได้ยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์ ด้วยการบรรลุข้อตกลงข้ามคืนเกี่ยวกับแผนงบประมาณหลายปีของประเทศ
ข้อตกลงนี้คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มเงินออมของรัฐบาลและช่องทางรายได้ใหม่ๆ หลายช่องทาง รวมถึงการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีการลงทุนบางรายการ
"ทำงานวันนี้ แล้วเก็บเกี่ยวผลพรุ่งนี้" เดอ เวเวอร์ โพสต์ข้อความบน X ขณะแสดงความยินดีกับข้อตกลง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ส่วนหนึ่งเพื่อชดเชยงบประมาณทางทหารที่เพิ่มขึ้นของประเทศ
"เรามีอุปสรรคใหญ่ที่ต้องฝ่าฟัน" เขากล่าวกับสถานีวิทยุ RTBF พร้อมยอมรับว่าทุกคนจะได้รับผลกระทบบางส่วน
นักการเมืองอนุรักษนิยมผู้นี้ซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ กำลังพยายามบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหญ่ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลายชุด ครอบคลุมถึงการเปิดเสรีตลาดแรงงาน, สวัสดิการว่างงาน และเงินบำนาญ
แต่มาตรการที่เดอ เวเวอร์เสนอมานั้น ได้ถูกนำไปปฏิบัติจริงเพียงไม่กี่มาตรการเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะความแตกแยกภายในรัฐบาลผสมที่ไม่ลงรอยกัน
การประท้วงครั้งนี้ของสหภาพแรงงานจึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อกดดันให้พรรคการเมืองต่างๆ เจรจาต่อรองกันเอง
"นี่คือคำร้องขอต่อนายกรัฐมนตรีเดอ เวเวอร์ และรัฐบาลทั้งหมดให้ยุติการรื้อถอนโครงการสวัสดิการสังคม" สหภาพแรงงานระบุในข่าวประชาสัมพันธ์
สหภาพแรงงานสังคมนิยมกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่าแสดงความดูถูกและไม่เคารพต่อขบวนการทางสังคมนี้
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานเคยหยั่งเชิงประท้วงไปแล้วครั้งก่อนหน้า โดยผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนเดินขบวนไปตามท้องถนนในกรุงบรัสเซลส์เมื่อกลางเดือนตุลาคม เพื่อประท้วงสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าการตัดงบประมาณอย่างเหี้ยมโหด.
