เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา “ปักธงธรรม” ฉบับนี้ ยังคงเขียนเล่าเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจต่อเนื่องใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม .. อันสืบเนื่องมาจากคอลัมน์ที่แล้วที่เขียนเล่าเรื่อง “เหตุเกิดที่.. เบตง” ซึ่งยังคงประทับใจในเรื่องราวต่างๆ อันเนื่องมาจากการจัดงานประกอบศาสนกิจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในภาคค่ำ ณ วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา... ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา
..โดยในช่วงเช้าของวันดังกล่าว ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ นอกจากการเดินบิณฑบาตของพระสงฆ์ ๒๙ รูปในกลางเมืองเบตงแล้ว
ยังได้มีการประชุมสงฆ์เพื่อกระทำอุโบสถ ในการฟังสวดพระปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบท บนภูเขาสวนสาธารณะใต้สุดสยาม ใจกลางเมืองเบตง ในยามเช้าที่บรรยากาศเป็นใจ ดุจหน้าหนาวตามฤดูกาล ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิศาสตร์แห่งเมืองเบตง ที่ตั้งอยู่ในความสลับซับซ้อนด้วยขุนเขามีระดับสูงเหนือน้ำทะเล จึงทำให้การประกอบสังฆกรรมเป็นครั้งแรกบนยอดภูเขาสวนสาธารณะกลางเมืองเบตงแห่งนี้เต็มไปด้วยสัปปายธรรม.. ยังให้เกิดความรื่นเริงในการปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์และคณะศรัทธาสาธุชนทั้งหลาย โดยมี ดร.อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำคณะข้าราชการผู้ใหญ่ของกรมราชทัณฑ์ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาร่วมงานการกุศลในครั้งนี้จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ดังภาพหมู่ชนจำนวนมากได้มายืนใส่บาตรในยามเช้ารับอรุณใกล้วงเวียนหอนาฬิกา อันเป็นภาพที่สวยงามมาก.. ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนับเป็น landmark ของเมืองเบตง อีกแห่งหนึ่ง.. ที่ทุกคนเมื่อมาเยือนเบตงจะต้องแวะมาถ่ายรูปบันทึกภาพบริเวณสถานที่ดังกล่าวนั้น
การประกอบสังฆกรรมของคณะสงฆ์ เนื่องในวันพระใหญ่ เพื่อประชุมฟังสวดศีลปาฏิโมกข์ นับเป็นมงคลกับบ้านเมืองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความสงบสุขใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้.. ที่มีวิกฤตการณ์ก่อการร้ายมายาวนาน
หากจะกล่าวถึงอานิสงส์ของการลงอุโบสถฟังสวดพระปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบทนั้น คงจะเกินกว่าที่พรรณนาได้จบทุกมิติ แต่หากจะให้สรุปเพื่อความเข้าใจแบบจับต้องมองเห็นได้ตามวิสัยพระปฏิบัติ ก็คงพอจะสรุปได้ว่า...
การที่คณะสงฆ์จะเลือกสถานที่ใดอันเหมาะควรต่อการสวดประกาศเป็นเขตอุโบสถ เพื่อการกระทำสังฆกรรมที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย อันเป็นไปตามพระบรมพุทธานุญาตนั้น คงจะต้องพิจารณาถึงความเป็น สัปปายสถาน อันสมบูรณ์ด้วย สัปปายธรรม ของสถานที่นั้นๆ ที่ควรต่อการจะสวดประกาศสมมติเขตอุโบสถ...
สถานที่ดังกล่าว.. จึงต้องมีความเป็น ภูมิสถานธรรม.. เป็น มงคลธรรม อย่างแน่นอนที่ควรแก่การกระทำ สังฆอุโบสถ.. เป็น ปาริสุทธิอุโบสถ.. ถูกต้องตามพระธรรมวินัย...
ภูมิสถานธรรมดังกล่าวย่อมเป็นที่น่ายินดีสืบตลอดไป ด้วยได้รองรับการกระทำสังฆกรรมของคณะสงฆ์ ที่ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการเลือกสถานที่ดังกล่าวเป็นภูมิมงคลสถานในการกระทำสังฆกรรม.. เพื่อ ลงอุโบสถ
เมื่อคณะสงฆ์.. ได้กระทำการชำระอาบัติต่างๆ ตามวิถีอริยประเพณี เพื่อให้เป็น สังฆปาริสุทธิอุโบสถ บนพื้นที่ใด.. พื้นที่นั้น.. แผ่นดินนั้นย่อมมีคุณอันไม่มีประมาณ ในการรองรับกำลังของคณะสงฆ์ที่พร้อมเพรียงร่วมกันกระทำสังฆอุโบสถ ฟังสวดปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบท เพื่อตรวจสอบตนเองว่า.. ประพฤติปฏิบัติถูกต้องตามพระวินัยนิยม พระบรมพุทธานุญาตหรือไม่..
โดยมีวิธีการสวดปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบท ที่ต้องอาศัยความอุตสาหะและกำลังความเพียรอย่างมีสติปัญญา ในการท่องบ่นจดจำ จนคล่องปากขึ้นจิตและเข้าใจในพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถและมีจริยาวัตรที่ถูกต้อง จึงสวดสมมติตนขึ้นเป็น ภิกขุปาฏิโมกข์.. ทั้งนี้จะมีพระภิกษุอีกรูปหนึ่งช่วยตรวจทาน เพื่อมิให้สวดผิดเพี้ยนไปจากพุทธบัญญัติเป็นมคธภาษาในสิกขาบทแต่ละข้อนั้นๆ
ผู้สวดปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบทและผู้ช่วยตรวจทาน จึงต้องใส่ใจ ตั้งใจ ด้วยความนอบน้อมในการปฏิบัติศาสนกิจอันศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว ที่ถือปฏิบัติอย่างมีระเบียบแบบแผนสืบเนื่องมายาวนานมากกว่าสองพันปี ที่คณะสงฆ์เถรวาทยังได้ถือประพฤติปฏิบัติกันมาอย่างไม่ขาดสาย
เมื่อผู้สวด..ผู้ช่วยตรวจทาน มีความตั้งใจแน่วแน่ในการสวด.. ผู้ฟังก็จะต้องตั้งใจนอบน้อมในการฟัง.. เป็นการฟังอย่างมีสติปัญญา.. เพื่อการตรวจตราให้ละเอียดแยบคายว่า.. เรามีความผิด.. มีอาบัติใดๆ ในข้อใด หมวดใดบ้าง.. หากไม่มีก็เปล่งวาจาหรือระลึกที่จิตว่า.. “..ปริสุทเธตถาหัง เราบริสุทธิ์แล้วในข้อหาเหล่านี้..”
แต่หากตรวจตราแล้วพบว่า.. ได้มีความผิดเป็นอาบัติอยู่.. ก็ให้ทำความอาลัยไว้ในใจ.. เมื่อเสร็จสิ้นการฟังสวดปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบทแล้ว.. ก็ให้แสดง.. เปิดเผยในอาบัตินั้นๆ ตามธรรมวิธี.. ต่อเพื่อนสหธรรมิก.. พระภิกษุ หรือต่อคณะสงฆ์ แล้วแต่กรณี.. เพื่อทำการคืนกลับไป.. ชักคืนกลับเข้ามาในเส้นทางพระธรรมวินัยที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว...
เมื่อการสวดเสร็จสิ้น จึงมีการสวดบทท้ายพระปาฏิโมกข์ที่มีความหมายยิ่ง.. ตลอดจนพลีบุญอุทิศแด่ทวยเทพยดา สัตว์ทั้งหลายทุกภพภูมิ.. ด้วยอานิสงส์ของการปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยด้วยความเคารพมาโดยตลอด ซึ่งย่อมมีผลยิ่ง.. มีอานิสงส์ยิ่ง ในบุคคลผู้ตั้งใจปฏิบัตินั้นๆ และเมื่อยกเป็นกำลังของสงฆ์.. หมายถึง หมู่คณะตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปที่ร่วมสังฆกรรม จึงย่อมเป็นกำลังธรรมอันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ ที่จะก่อให้เกิดคุณานุประโยชน์ต่อหมู่ชน สังคม และประเทศชาติ โดยจะสัมฤทธิผลอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะเมื่อคณะสงฆ์ได้พร้อมใจกัน ร่วมใจกัน กระทำสัตยาธิษฐาน.. เพื่อความสงบสุขของแผ่นดิน
ผลานิสงส์ดังกล่าวย่อมเผื่อแผ่ไปถึงทวยเทพยดา หมู่สัตว์ทั้งหลายน้อยใหญ่.. รวมถึงมนุษย์ที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมช่วยจัดดูแลอำนวยความสะดวกให้เกิดสถานที่อันเหมาะควร.. เพื่อการประชุมของพระสงฆ์ในการทำสังฆกรรมนั้นๆ .. เพียงแค่เปล่งวาจา สาธุการ ต่อการประกอบศาสนกิจของคณะสงฆ์.. ด้วยใจชื่นชมอนุโมทนายินดีในความพร้อมเพรียงของสงฆ์.. ก็ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุข อันพึงหวังได้จริงในบุคคลที่มีจิตศรัทธาที่กระทำการเปล่งวาจา “สาธุการ” นั้นๆ
การประชุมของคณะสงฆ์รวม ๒๙ รูป ณ ยอดภูเขาสวนสาธารณะใต้สุดสยาม กลางเมืองเบตง จึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอันควรมองผ่านไป.. ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวกว่าจะเกิดมีขึ้นได้นั้น ต้องถึงความพร้อมตามเหตุปัจจัย จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ดังเรื่องโดยทั่วไป.. จึงเป็นธรรมดาที่หมู่สัตว์ที่เกี่ยวข้องต้องเพียรเฝ้ารักษาพื้นที่เพื่อรอคอยต่อการมาประกอบศาสนกิจของคณะสงฆ์.. และรอคอยต่อการมาเยือนของคณะสงฆ์... จนกว่าจะถึงวันที่เป็นจริง.. ที่ตรงกับวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗.. วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ ในครั้งนี้
จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นการประกอบศาสนกิจทุกอย่างในวันนั้น ที่ได้จัดมีขึ้นในภาคค่ำ ณ วัดพุทธาธิวาส คณะสงฆ์และศรัทธาสานุศิษย์รวมร่วม ๑๐๐ ชีวิต ได้กำหนดเดินทางโดยเร่งด่วน เพื่อให้ทันเวลาบิณฑบาตยามเช้า ๐๖.๓๐ น. กลางเมืองยะลา ที่มี ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นำข้าราชการ ทหาร.. ตำรวจ และพลเรือน ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า รอรับคณะสงฆ์ เพื่อเข้าสู่เส้นทางบิณฑบาตในใจกลางเมืองยะลา.. ที่มุ่งหน้าไปสู่ศาลาศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
ดังนั้นการออกเดินทางจากอำเภอเบตง สู่ อำเภอเมืองยะลา ในเวลาตี ๔ (๐๔.๐๐ น.) ของวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ จึงเกิดขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่มีวิกฤตการณ์ก่อการร้าย เพราะบนเส้นทางสายดังกล่าว.. จะมีเหตุการณ์ดักซุ่มยิง วางระเบิด เจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ.. ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างบ่อยครั้ง การเดินทางไปบนเส้นทางอันคดเคี้ยวมากโค้งในยามค่ำคืน จึงต้องเป็นไปด้วยความไม่ประมาท แม้ว่าจะมีรถเจ้าหน้าที่ทหารนำหน้าขบวน ที่วิ่งฝ่าไปในท่ามกลางความมืดด้วยความเร็วของรถนำที่ไม่ค่อยผ่อนคันเร่งของพลขับเลย.. เพราะรู้ดีว่าเส้นทางสายดังกล่าวมีโอกาสพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดไว้ได้เสมอ ในท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายรับก่อนเข้าสู่เมืองยะลา.. ที่ต้องผ่าน อ.ธารโต อ.บันนังสตา.. และแลเห็นเส้นทางไปทาง อ.กรงปินัง... อันเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายความมั่นคงระบุว่าเป็นโซนสีแดง.. การเดินทางในยามยังไม่สว่างในครั้งนี้จึงเป็นการเดินทางครั้งที่สำคัญยิ่งอันควรจารึกอย่างยิ่ง.. ว่า... “วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕.. ได้เดินทางไปประกอบศาสนกิจ.. บิณฑบาต.. แสดงธรรม.. เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อประกาศอำนาจธรรมเหนือแผ่นดิน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ เมืองยะลา ที่.. (ไม่) บังเอิญตรงกับ วันชาติมลายูปัตตานี.. ซึ่งโจรก่อการร้ายกำหนดเป็นวันชาติของกลุ่มแบ่งแยกดินแดง.. ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้.. ที่คณะสงฆ์ได้สวดประกาศพระธรรมจักร.. เหนือแผ่นดิน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ จ.ยะลา.. ด้วยเจตนาเพื่อขออำนาจแห่งธรรม ปกปักรักษาแผ่นดินไทยให้สงบสุขสืบตลอดไป..... เอวัง!.
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024
อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้