จากน้ำพระทัย สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ สู่ความเป็นโครงการพัชรธรรม........

เจริญพรศรัทธาสาธุชนผู้มีจิตใจมั่นคงในพระพุทธศาสนา.. ย่างเข้าสู่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๖ ในปีใหม่ครั้งนี้... ชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างรวมจิตสามัคคีธรรม ประกอบคุณความดี ตามกำลังความศรัทธาในศาสนาของตน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมิ่งขวัญ สมเด็จเจ้าฟ้าของชาวไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่ชาวไทยถวายการเรียกขานแบบคุ้นเคยด้วยรักชื่นชมยินดีมาโดยตลอดตั้งแต่พระชันษาวัยเยาว์ว่า.. “พระองค์ภา” นับตั้งแต่ทรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าหลานเธอ .. ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี...

จากข่าวที่เกิดขึ้นในตอนเย็นวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๕ ในขณะที่อาตมากำลังขึ้นเครื่องบินเดินทางไปประกอบศาสนกิจที่เมืองนาสิก .. เมืองปูเน แห่งรัฐมหาราษฏระ อินเดีย ได้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจกันไปทั่วหมู่อาณาประชาราษฎร์ ที่เคารพรักในสถาบันพระมหากษัตริย์.. สืบเนื่องมาตั้งแต่บรรพชน

ด้วยความหวังของประชาราษฎร์นิกรชาวไทย ที่ฝากความหวังการสืบเนื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสถาพรสืบไป ด้วยพระปรีชาสามารถที่เพียบพร้อม ด้วยพระบารมีธรรมของพระองค์ร่วมกับพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

ร่วม ๑๐ ปีที่ผ่านมา.. ชาวไทยจะได้เห็นภาพพระกรณียกิจของ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในทุกด้าน เพื่อถวายงานสานสืบโครงการพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งพระมโนปณิธารสานต่อยอดจากโครงการพระราชดำริจากรัชกาลที่ ๙ โดยเฉพาะ “โครงการกำลังใจในพระดำริของพระองค์ท่าน” เพื่อการช่วยเหลือประชาชนทุกหมู่เหล่า.. โดยมีเป้าหมายในเด็ก สตรี และเยาวชน.. ที่ขาดโอกาส.. ด้อยโอกาส และสูญเสียโอกาสในสังคม

นอกจากนั้นยังมีโครงการที่แตกหน่อออกมาจากโครงการกำลังใจฯ อีกหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการพัชรธรรม.. และโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. โดยมี “มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย” เป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุนด้านเงินทุนปัจจัย เพื่อความสมบูรณ์ในทุกมิติแห่งการทำงานช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ ภายใต้พระปรมาภิไธยในรัชกาลที่ ๑๐ ที่ทรงสนับสนุนทุกโครงการอันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้ดำเนินไปได้ด้วยดี

โดยเฉพาะ โครงการพัชรธรรม และโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ที่กำกับดูแลโดยโครงการกำลังใจในพระดำริของพระองค์ท่านนั้น ได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อการทำงานอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี ซึ่งหลายแผนงาน เช่น โครงการน้ำดื่มพัชรธรรม เป็นปัจจัยจาก มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อการจัดตั้งสถานีผลิตน้ำดื่มพัชรธรรม มาตรฐานสาธารณสุข (อย.)

จึงทำให้โครงการพัชรธรรม.. และโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านจิตใจตามหลักวิถีพุทธ.. โดยอาศัยปรัชญา “พึ่งตน-พึ่งธรรม” สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพบรรลุเป้าหมายจนถึงทุกวันนี้ ที่สามารถช่วยชีวิตของอดีตผู้ต้องขัง.. ที่เคยพลั้งพลาดให้ได้มีจิตสำนึกกลับคืนมา.. เพื่อการอยู่ร่วมในสังคมประเทศชาติอย่างปกติ.. และเพื่อการมีส่วนช่วยเหลือสังคมประเทศชาติในการป้องกันภัยอันตรายจากปัญหาต่างๆ ... โดยเฉพาะจากประสบการณ์ตรงของอดีตผู้ต้องขังเหล่านั้น..

ในวันนี้จึงได้เห็น พระภิกษุจากโครงการพัชรธรรม.. เกิดขึ้นในแวดวงพระพุทธศาสนา โดยพำนักอยู่ตามวัดต่างๆ ในเครือข่ายการปกครองของ พระอาจารย์อารยวังโส ที่ปรึกษา โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม .. ที่ตั้งขึ้นตามพระดำริของพระองค์ท่าน ซึ่งโครงการดังกล่าวเกิดแตกหน่อมาจาก โครงการพัชรธรรม ด้วยเหตุผลที่ว่า...

 “..เมื่ออดีตผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิกในโครงการพัชรธรรมจากเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการอบรมจิตพัฒนาความสำนึกมาอย่างต่อเนื่องตามวิถีธรรม.. ในพระพุทธศาสนา มีความศรัทธาแห่กันเข้ามาขอ บรรพชา-อุปสมบทในโครงการพัชรธรรม กำกับดูแลโดยโครงการกำลังใจในพระดำริ มากขึ้น....

..จากความน่ายินดีในเบื้องต้น ได้เริ่มแปรเป็นความน่าวิตกกังวล ด้วยอดีตนักโทษเหล่านี้มีจำนวนหลายรายที่มาจาก คดีอุกฉกรรจ์ .. จากเรือนจำที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ เรือนจำเขาบิน ราชบุรี เรือนจำบางขวาง เรือนจำกลางคลองเปรม เป็นต้น

..จึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมแผนการตั้งรับที่มีมาตรการป้องปรามอย่างต่อเนื่อง.. จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะที่ปลอดภัย.. เชื่อถือได้.. มั่นใจได้.. ในพฤติกรรมของอดีตผู้ต้องขังนั้นๆ...

.. โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม .. จึงเกิดขึ้นในยามหลังเที่ยงคืนของวันหนึ่ง เมื่อได้มีการถวายการหารือกันในเรื่องดังกล่าว.. ที่สรุปรวมลงตรงความจำเป็นที่จะต้องมีแผนงานเตรียมพร้อมบุคคลเหล่านี้.. ก่อนเข้าสู่การบรรพชา-อุปสมบทตามโครงการพัชรธรรม ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลารวม ๓–๔ ปี มีอดีตผู้ต้องขังสมัครใจเข้ามาบวชในโครงการพัชรธรรมจำนวนไม่น้อย.. ทั้งระยะยาวและระยะสั้น... โดยโครงการพัชรธรรม.. จะรับภาระทั้งหมด โดยมีคณะศิษย์ศรัทธาในพระอาจารย์อารยวังโสร่วมกันช่วยเหลือ.. ด้วยจิตศรัทธายิ่งในโครงการดังกล่าว

จึงกล่าวได้ว่า.. โครงการพัชรธรรม.. ให้การดูแลทั้งที่พักกาย.. พักจิต.. เมื่ออดีตผู้ต้องขังในโครงการพัชรธรรม เดินทางมาพึ่งพิงตามพันธสัญญาทางใจ.. ว่า “จะไม่ถูกทอดทิ้งจากสังคม หากทุกคนตั้งใจทำความดี ถูกต้องตามวิถีธรรม ไม่ว่าจะมาจากศาสนาใด.. มิใช่เฉพาะพุทธศาสนา...”

การให้การดูแลอย่างดี.. มีที่พักอาศัย พร้อมข้าวปลาอาหารที่สมบูรณ์ เพื่อการใช้ชีวิตศึกษาปฏิบัติธรรม.. ประพฤติตนตามแนวทางธรรมอย่างจริงจังและจริงใจ.. จึงเป็นการยืนยันให้ผู้ต้องขังที่เป็นสมาชิกโครงการพัชรธรรม.. มีความศรัทธาเชื่อมั่นในโครงการ.. เมื่อออกจากเรือนจำ จึงสมัครใจเดินทางมาเข้าโครงการ เพื่อขอรับการบรรพชา-อุปสมบทในโครงการพัชรธรรมกันอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยขาดตอนในทุกปีจากเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ ณ วัดป่าอารยวังสาราม (ธ) บางไทร พระนครศรีอยุธยา..

จึงนำไปสู่.. ความวิตกกังวลในอดีตผู้ต้องขังเหล่านั้น ว่า.. หากเกิดภาวะซ่อนเร้นเข้ามาในโครงการพัชรธรรม เพื่อบังหน้าในการประกอบมิจฉาชีพ ค้ายาเสพติด.. ประพฤติทุจริตผิดกฎหมายแล้ว ย่อมก่อเกิดความเสียหายทั้งต่อโครงการพัชรธรรม โดยเฉพาะการส่งแรงกระทบต่อสถาบันสงฆ์.. ในพุทธศาสนา ซึ่งออกจะเป็นเรื่องใหญ่.. อันเกินกว่าจะแบกรับได้ ยิ่งถ้าส่งผลกระทบต่อ พระองค์ท่านและสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักของประชาชนชาวไทย

ที่สุด ด้วยพระกรุณาของพระองค์.. จึงได้เกิด “โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ในพระดำริของพระองค์” ขึ้นอีกโครงการ เพื่อรองรับอดีตผู้ต้องขังที่สมัครใจเข้าสู่การบรรพชา-อุปสมบทในโครงการพัชรธรรม จะได้ผ่านการฝึกฝน สรรค์สร้างความรู้และภาวะความสำนึกให้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมความดี.. โดยเฉพาะ การปลูกฝังความกตัญญูกตเวทิตา ในบุคคลเหล่านี้ ก่อนจะเข้าสู่การบรรพชา-อุปสมบทในพระพุทธศาสนา... โดยพระองค์ท่าน ได้ทรงแต่งตั้งอาตมาเป็นที่ปรึกษาโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม องค์ที่ ๑ ซึ่งก่อนหน้านั้น อาตมาได้ขอถวายพระพรลาจากการกำกับดูแลโครงการพัชรธรรมไปแล้ว คงเหลือเฉพาะให้การปรึกษาแนะนำ.. ด้วยเหตุผลทางสภาพสังขารที่ไม่อำนวยต่อการเดินทางไปบรรยายให้คำสั่งสอน แนะนำ แก่สมาชิกในโครงการพัชรธรรมตามเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ แต่เมื่อได้รับการถวายแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ที่มีแนวงานตรงใจ จึงยินดีในการช่วยเหลืองานโครงการดังกล่าว... ดังที่ได้มีการเปิดโครงการดังกล่าวครั้งแรกที่วัดป่าอารยวังสาราม (ธ) บางไทร พระนครศรีอยุธยา เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ .. โดยพระองค์ท่านเสด็จเปิด “โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม” ด้วยพระองค์เอง.. เพื่อให้การฝึกอบรมอดีตผู้ต้องขังที่ผ่านการคัดเลือกเข้าบรรพชา-อุปสมบทในโครงการพัชรธรรม ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จำนวนหนึ่ง ซึ่งนับเป็น รุ่นที่ ๑ ของโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ที่ต่อมาได้เข้าสู่ความเป็น พระภิกษุพัชรธรรม และเมื่อผ่านการศึกษาปฏิบัติธรรมไปตามลำดับแล้ว จึงได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดหนึ่งเดือน.. เพื่อร่วมสร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนในภาคใต้ โดยเฉพาะการให้กำลังใจแด่คณะสงฆ์ใน ๕ จังหวัดภาคใต้

จากการประเมินการปฏิบัติศาสนกิจของภิกษุพัชรธรรมในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ในครั้งนั้น ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายอย่างดียิ่ง.. ดังที่คณะสงฆ์ใน ๕ จังหวัดภาคใต้ ได้กรุณาสรุปประเมินผลและ ร้องขอให้มีพระภิกษุพัชรธรรม.. เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจอยู่ร่วมกับคณะสงฆ์วัดต่างๆ ใน ๕ จังหวัดภาคใต้ในทุกปี...

ในพระกรุณาของพระองค์ท่าน วันนี้ โครงการพัชรธรรม.. และโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. จึงยังดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และ ในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๖.. จะมีการบรรพชา-อุปสมบทภิกษุโครงการพัชรธรรม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จำนวน ๗ ราย ที่จะร่วมบวชครั้งใหญ่พร้อมกับ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทั่วประเทศ ที่จะได้จัดขึ้นในวันเดียวกัน รวมทั้งหมด ๗๙ ราย (นาคพัชรธรรม ๗ ราย)

โดยภาคเช้าของวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๖... อาตมาจะไปเป็นประธานสงฆ์ในพิธี ณ กรมราชทัณฑ์ เพื่อเทศนาธรรม อบรมสั่งสอน ผู้มุ่งบรรพชา-อุปสมบท ตามโครงการน้อมถวายเป็นพระราชกุศล.. ก่อนที่จะมีการมอบผ้าไตรให้กับทุกคนที่เข้าบวชในโครงการ.. และจะมี “การบรรพชา-อุปสมบทตามวัดวาอารามต่างๆ ทั่วประเทศ” โดยพร้อมเพรียงกัน... เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จักได้ทรงมีพระอายุยืน.. ปราศจากโรคาพยาธิ.. ผ่านพ้นภัยมารทั้งปวง ด้วยอำนาจแห่งกุศลธรรมในพระพุทธศาสนาที่สำเร็จด้วยดีแล้ว ในจิตใจของพสกนิกรชาวไทยที่พร้อมใจกันขอน้อมถวายพระพร.. “ขอจงทรงพระเจริญ”.

 

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“มิจฉาธรรม .. ในอสัตบุรุษที่น่ากลัวยิ่ง”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สงกรานต์ร้อนที่เข้าสู่จุลศักราช ๑๓๘๖ เถลิงศกตรงกับ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗ นับว่าร้อนแล้ง ตรงกับคำพยากรณ์ที่พร้อมเกิดพายุร้อนได้ในทุกพื้นที่ เป็นการแสดงสภาวะผันผวนที่เนื่องมาจากวิกฤตร้อนของโลก (Climate Change) ที่หลายฝ่ายเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า มนุษยชาติจะผ่านวิกฤตโลกร้อนไปได้หรือไม่..

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า น้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาที่อากาศร้อนจัด จนเข้าสู่วิกฤตการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า.. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในภาวะที่เข้าสู่วิกฤตการณ์โลกร้อน.. ด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงแบบผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติปกติ (Climate Change) อันเป็นผลจากการกระทำของมนุษยชาติ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม จึงได้ถือโอกาสคิดทำโครงการนำพระคืนสู่ป่า.. เพื่อศึกษาวงจรธรรมชาติของชีวิตที่เนื่องกับสิ่งแวดล้อม อันประกอบด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ที่เกาะเกี่ยวเนื่องกันอย่างมีความสมดุล (Nature Cycle in Balance)

ลัทธิผีบุญ .. ภัยร้ายต่อพระศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปัญหาของพุทธศาสนาในปัจจุบันที่ยังเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การยึดถือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระสัทธรรมดั้งเดิม...

คุณค่าแท้–คุณค่าเทียม ที่ชาวพุทธควรคำนึง..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำว่า “วิกฤตศรัทธา” เริ่มมีการพูดถึงกันมากในห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุปัจจัยในเรื่องนั้น ที่นำไปสู่ความสั่นคลอนในความเชื่อมั่น ที่เคยอบรมสั่งสมมานานในสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ บุคคลนั้นๆ.. ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์ทั้งหลายที่พยายามหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณ

บูชาพระโอวาทปาติโมกข์ .. ณ เวฬุวันมหาวิหาร ปี พ.ศ.๒๕๖๗

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. กลับมาจาก งานมาฆบูชาโลก ที่เวฬุวันมหาวิหาร พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ พร้อมกับติดเชื้อเป็นของแถม ด้วยมีไวรัสแพร่ระบาดในหมู่คณะที่มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสติดตามไปร่วมร้อยชีวิต