ทั่วไทยยังฉ่ำฝนต่อเนื่องตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายพื้นที่ก็เกิดอาการ น้ำท่วมขังและน้ำรอระบาย ถึงขนาด “โรงเรียนสตรีวิทยา 2” ต้องประกาศหยุดเรียนกันเลยทีเดียว จากที่เจอฝนเทในช่วงค่ำวันที่ 17 พ.ค. แบบว่าเปิดเทอมเต็มรูปแบบวันเดียวก็ต้องมาปิดกัน 1 วันเพราะสาเหตุน้ำเสียแล้ว ...๐
งานนี้ ตำบลกระสุนตกจึงพุ่งไปที่ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้สมัครฯ ผู้ว่าฯ กทม.อย่างหลีกไม่พ้น กันเลยทีเดียวเชียว โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ แต่เจ้าตัวก็รู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาสชี้แจงทันทีว่า กทม.มีจุดน้ำท่วมซ้ำซากอยู่ทั้งหมด 24 จุด ตอนเป็นผู้ว่าฯ แก้ปัญหาไปแล้ว 15 จุด ตอนนี้เหลือเพียง 9 จุดเท่านั้น จึงหวังว่าจะมาสานต่อในจุดที่เหลือ พร้อมระบุอีกว่า เมื่อค่ำวันที่ 17 พ.ค. ฝนตกหนักมากถึง 132 มิลลิเมตร ถ้าเป็นอดีตน้ำท่วมหนักแน่นอน แต่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ระบายได้ใน 1 ชั่วโมง ...๐
ก็ไม่รู้ว่าการชี้แจงแถลงไขกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จะทำให้ผู้มีสิทธิ์มีเสียงคิดอย่างไรในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้ แต่ที่ นอนมายิ่งกว่าแช่แป้งคือ กรณีการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง “กกต.” ภายใต้การนำของ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. เพราะเกิดเหตุซ้ำซาก อีกแล้ว เมื่อศาลปกครองกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยให้ กกต.รับ “ไกรเดช บุนนาค” เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 19 หลังจากที่ถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ไฮไลท์บันเทิง ซึ่งถือเป็นกรณีที่สอง เพราะก่อนหน้านี้ศาลก็มีคำสั่งให้รับ “พีรพล กนกวลัย” จากพรรคก้าวไกล เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท มาแล้วรอบหนึ่ง ...๐
ที่น่าสนใจนอกจากการทำหน้าที่ของ กกต.แล้ว คือ เรื่องของขอบเขตอำนาจศาลก็ควรนำมาพิจารณาให้สะเด็ดน้ำกันอีกวาระหนึ่ง เพราะไม่เช่นนั้นในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้หรือปีหน้าก็ตามที ได้เกิดปัญหาตามมาอีกพะเรอเกวียนแน่ หากใครถูกตัดสิทธิ์แล้วไปยื่นศาลปกครองเหมือน 2 กรณีดังกล่าวข้างต้น ...๐
หันมาเรื่องพ่อเมืองกรุงอีกระลอก วันอาทิตย์นี้รักใครชอบใครก็ไปเลือกได้ตามอารมณ์ เพียงอยากบอกว่า ควรดูในเรื่องนโยบายและการบริหารเป็นหลักมากกว่าในเรื่องทางการเมือง ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่า “ผู้ว่าฯ กทม.” นั้นไม่ใช่นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่จะมีอำนาจล้นฟ้าแต่อย่างใด เพราะแม้จะเป็นเขตปกครองพิเศษ แต่ก็อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลในการกำกับดูแลอยู่ดี บางนโยบายขายฝันเช่น การยกเลิกสัมปทานรถไฟฟ้าเอย การลดค่าโดยสารเหลือเท่านั้นเท่านี้เอยนั้น ไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าฯ กทม.แต่ประการใดนะพ่อคุณ ...๐
งานนี้เลยต้องบอกว่าฟังหูไว้หูโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่โลกออนไลน์ต่างมีการเสนอแนะแนวทางเลือก และเชียร์บรรดาผู้สมัครกันอย่างเมามัน แต่ที่น่าสนใจคือ ข้อเสนอของ “เทพไท เสนพงศ์” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่บอกไว้ให้คิดว่า ควรเลือกบรรดาผู้สมัครที่มีสังกัดพรรค เพราะหากในอนาคตเกิดความฉิบหายขึ้นมาก็จะได้ไล่เบี้ยกับพรรคและต้นสังกัดได้ แต่หากเป็นบรรดาผู้สมัครอิสระแล้วละก็ระวังจะเกิดอาการหายต่อมหรือหนีหายตามตัวไม่เจอก็เป็นได้ ซึ่งน่าคิดอย่างยิ่ง ...๐
หันมาเรื่องเศรษฐกิจกันบ้าง เมื่อล่าสุด “สุวรรณี เจษฎาศักดิ์” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลง ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ไทยในไตรมาสแรก ว่ามีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ 6.9% ที่สำคัญมีกำไรเพิ่มถึง 4.94 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 11.8% ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจเดียวในยุคโควิด-19 ที่โจมตีประชากรโลก แต่ยังเป็นเสือนอนกินได้อย่างสบายใจเฉิบ เพราะมีส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากแบบสูงลิบลิ่ว ที่สำคัญ ในช่วงโควิดอาละวาดหนักบรรดาธนาคารพาณิชย์ก็แทบจะไม่ได้ขยับหรือลงมาช่วยอะไรเลย แม้จะมีการยืดหนี้ออกไป แต่ดอกเบี้ยก็ยังเก็บเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงไม่น่าแปลกที่ธุรกิจจะทำกำไรมหาศาล ...๐
ขณะเดียวกัน ไทยยังมีผู้ว่าการแบงก์ชาติที่คนไทยแทบไม่รู้จักชื่อและรู้จักหน้าอย่าง “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในแวดวงสังคมไทยแบบไม่เคยเกิดขึ้นเลย ที่คนจะไม่คุ้นชื่อและหน้าตาของผู้ว่าการแบงก์ชาติ ทั้งที่ภาวะวิกฤตโควิด-19 นั้นมันพันทั้งปัญหาปากท้อง ปัญหาการเงิน ซึ่งในอดีตแบงก์ชาติต้องเข้ามาข้องมาช่วยไม่มากก็น้อย แต่ปัจจุบันกลับการเป็นหน่วยงานลอยตัวเป็นเอกเทศ ซ้ำร้ายรัฐบาลก็ดันไม่เรียกใช้เรียกหาอีก งานนี้เราจึงได้เห็นระบบธนาคารพาณิชย์ที่รวยเอาๆ ยิ่งกว่าความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนเสียอีก ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



