ข่าวเกี่ยวกับ “ฐานทัพเรือเรียม” ในกัมพูชาใกล้บ้านเราที่รัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประเด็นนี้กลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง
วอชิงตันโพสต์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ชาวตะวันตกว่า สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ที่ฐานทัพ Ream ของกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวไทย ทางยุทธศาสตร์ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ "เฉพาะ" ของกองทัพเรือจีน
แต่รัฐบาลทั้งกัมพูชาและจีนออกมาปฏิเสธ โดยพนมเปญกล่าวว่า การพัฒนาฐานทัพนี้ “ไม่เป็นความลับ” แต่ประการใด
เตีย บันห์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และหวัง เวนเทียน เอกอัครราชทูตจีนไปร่วมในพิธีที่ประกาศว่าพร้อมเริ่มก่อสร้างในสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ที่นั่น
ซึ่งรวมถึงโรงซ่อมบำรุงเรือ ท่าเรือ 2 แห่ง ท่าเรือแห้ง ทางลื่น และการขุดลอกทรายสำหรับเรือขนาดใหญ่
ทูตจีนบอกนักข่าวว่า “กิจกรรมนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศที่ 3 และความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้ง 2 จะเอื้อต่อการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และการจัดหาสินค้าสาธารณะระหว่างประเทศได้ดีขึ้น” หวังกล่าว
เตีย บันห์ แจ้งว่าโครงการนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากจีน รวมถึงการบริจาคยุทโธปกรณ์ทางทหารและการซ่อมแซมเรือรบกัมพูชา 8 ลำ รวมถึงการยกระดับและขยายโรงพยาบาล
“มีข้อกล่าวหาว่าฐานทัพ Ream สมัยใหม่จะถูกใช้โดยกองทัพจีนเท่านั้น ไม่จริง มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย” รัฐมนตรีกลาโหมเขมรบอกกับผู้คนหลายร้อยคน รวมถึงนักการทูตต่างประเทศที่มาร่วมพิธีวันนั้น
“อย่ากังวลมากไป ฐานทัพเรือแห่งนี้สั้นเกินไป…มันจะไม่เป็นภัยต่อใครไม่ว่าที่ไหนก็ตาม”
สเตฟานี อาร์เซต โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค “แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขาดความโปร่งใสในเจตนา ลักษณะและขอบเขตของโครงการนี้” รวมถึงบทบาทของจีนในการก่อสร้าง
“การปรากฏตัวทางทหารของจีนที่ฐานทัพเรียมอาจเป็นอันตรายต่อเอกราชของกัมพูชา และบ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาค” โฆษกมะกันกล่าว
หากย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้ก็มีข่าวแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนแล้ว
ปี 2019 Wall Street Journal รายงานเกี่ยวกับ “ร่างข้อตกลงลับ” ที่อนุญาตให้ปักกิ่งใช้ฐานทัพเรือของกัมพูชาแห่งนี้เพื่อกิจการด้านการทหาร
ที่เป็นประเด็นเพราะหลังจากมีข่าวเรื่องนี้ กัมพูชาก็ได้รื้อสิ่งอำนวยความสะดวกที่ฐานทัพแห่งนี้ที่สร้างด้วยเงินช่วยเหลือของสหรัฐฯ
คนไทยควรสนใจเรื่องนี้ เพราะในแง่ยุทธศาสตร์แล้วมีความใกล้ชิดกับประเทศไทยไม่น้อย
ดูแผนที่นี้แล้วจะเห็นว่าเส้นทางเดินเรือจากจีนจากฝั่งทะเลจีนใต้สู่มหาสมุทรอินเดียนั้นต้องผ่านช่องแคบมะละกาเป็นหลัก
หากเกิดอุบัติเหตุหรือความตึงเครียดทางการเมืองหรือทางทหาร และช่องแคบถูกปิด จีนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสแน่นอน
เป็นที่มาของสิ่งที่เรียกว่า
ยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมทางทะเล
และโครงการ “ท่าเรือน้ำลึกดาราสาคร” ที่สีหนุวิลล์ของกัมพูชา
นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อมโยงโครงการนี้กับ “EEC” และ "คลองไทย" ของไทยเรา เป็นหัวข้อที่คนไทยควรจะสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะกรณีฐานทัพเรือเรียมของกัมพูชาที่กำลังเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับกัมพูชานั้นโยงไปถึงบทบาทของจีนที่ช่วยปรับปรุงทั้งฐานทัพเรือเรียมและโครงการดาราสาครที่ตั้งอยู่ใกล้กัน
อีกทั้งยังอยู่ไม่ห่างจากจังหวัดตราดของไทย
ในแง่ภูมิรัฐศาสตร์นี่คือหัวข้อที่ควรแก่การศึกษาวิเคราะห์อย่างยิ่ง
คุณปรางทิพย์ ดาวเรือง นักวิจัยไทยได้ค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนี้ ผมมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกับเธอในเรื่องนี้ จึงขอนำเอาบางตอนที่เธอได้สรุปเนื้อหามาสาธยายให้ฟัง
รัฐบาลจีนยอมรับว่าวิกฤตโควิด-19 เป็นอุปสรรคที่ทำให้โครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ต้องชะงักงันทั่วโลก
ในเดือนมิถุนายน 2563 กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อร้อยละ 20-30 ของโครงการ BRI และร้อยละ 20 ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
แต่ปัญหานี้ดูเหมือนจะมีข้อยกเว้นสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โครงการ BRI โดยรวมเดินหน้าไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้อาเซียนขึ้นครองตำแหน่งภูมิภาคที่มีการลงทุน BRI ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปพร้อมๆ กับการเป็นภูมิภาคคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในปีเดียวกัน
BRI ในอาเซียนสำคัญต่อจีนอย่างไร หนึ่งในคำตอบนี้อยู่ที่ความสำคัญของน่านน้ำทะเลจีนใต้ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของจีนมานมนาน
เส้นทางการเดินเรือในทะเลจีนใต้ที่เริ่มต้นจากช่องแคบมะละกาเป็นเส้นทางการนำเข้าน้ำมันดิบสายหลักของจีน
โดยตัวเลขใน พ.ศ.2559 รายงานโดยเว็บไซต์ ‘Strait of Malacca’ ระบุว่า ราวร้อยละ 90 ของการนำเข้าน้ำมันดิบ และร้อยละ 64 การค้าทางทะเลของจีนใช้การขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียนในประเด็นทะเลจีนใต้จัดเป็นความสัมพันธ์ที่อีหลักอีเหลื่อและมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย
ด้วยข้อพิพาทช่วงชิงพื้นที่ในน่านน้ำระหว่างจีนกับประเทศอาเซียนอย่างน้อย 4 ประเทศ ที่บางครั้งถึงขั้นมีการเผชิญหน้าทางทหาร นำไปสู่วลี ‘Malacca Dilemma’
ที่สะท้อนความวิตกว่า เส้นทางการเดินเรือสายหลักนี้จะถูกปิดโดยประเทศบางประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาที่เป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงของประเทศสมาชิกอาเซียนยามที่ความขัดแย้งปะทุขึ้น
ในขณะที่จีนยืนยันว่า โครงการ BRI มีเป้าหมายที่ผลประโยชน์ร่วมทางเศรษฐกิจของตนและประเทศผู้รับโครงการ
แต่ปัญหาเฉพาะของทะเลจีนใต้ทำให้โครงการบางโครงการได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ
หนึ่งในนั้นคือโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกดาราสาคร (Dara Sakor) ที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา บริเวณฝั่งทะเลอ่าวไทยติดชายแดนจังหวัดตราดของประเทศไทย
โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกดาราสาครถูกจัดให้อยู่ในกรอบของยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ BRI
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘เขตทดลองการพัฒนาแบบบูรณาการระหว่างบริษัทเอกชนจีนกับรัฐบาลกัมพูชา’ ที่รู้จักกันในนามโครงการดาราสาคร
เป็นการลงทุนของบริษัทเอกชนจีน Union Development Group (UDG) ในเครือบริษัท Tianjin Wanlong Group ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนที่เซ็นสัญญาสัมปทานเช่าที่ดินกับรัฐบาลกัมพูชา เป็นเวลา 99 ปี
พื้นที่ดังกล่าวมีขนาดกว่า 270,000 ไร่ ครอบคลุมร้อยละ 20 ของชายฝั่งใน 2 อำเภอหลักของจังหวัดเกาะกง คือ อำเภอคีรีสาคร (Kiri Sakor) และบ่อธมสาคร (Botum Sakor)
ท่าเรือน้ำลึกดาราสาครกลายเป็นประเด็นจับตามองของนักวิเคราะห์และสื่อมวลชน
เพราะความเหมาะเหม็งของศักยภาพและจุดที่ตั้งทางยุทธศาสตร์
แม้จะไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าปัจจุบันมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างมากน้อยเพียงใด แต่โครงการนี้ก็ตกเป็นข่าวและข้อถกเถียงเป็นระยะในประเด็นว่าจีนมีเจตนาแอบแฝงในการใช้ประโยชน์ทางการทหารจากโครงการนี้ในอนาคตหรือไม่
หากสร้างเสร็จตามแผน ท่าเรือน้ำลึกดาราสาครจะมีศักยภาพเหนือกว่าท่าเรือน้ำลึกทั้งหมดในกัมพูชา และท่าเรือขนาดใหญ่ในภูมิภาคบางแห่ง รวมทั้งท่าเรือแหลมฉบังของประเทศไทย.
(วันจันทร์ : ท่าเรือน้ำลึกดาราสาครกับยุทธศาสตร์ความมั่นคงจีน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


