พอลิทัวเนียประกาศปิดด่านไม่ให้สินค้าเข้าออก Kaliningrad อุณหภูมิสงครามยูเครนก็ร้อนขึ้นทันที เพราะดินแดนเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างลิทัวเนียกับโปแลนด์นั้นเป็นของรัสเซีย
เป็นจุดที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีความเปราะบาง, อ่อนไหว และบางครั้งถูกเรียกว่าเป็น “จุดอันตรายที่สุด” ของยุโรป เพราะอาจจะเกิดสงครามจากความขัดแย้งเล็กๆ ที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
ลิทัวเนียบอกว่าที่ต้องปิดกั้นไม่ให้สินค้าเข้าออก Kaliningrad นั้นเป็นไปตามมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย
เมื่อดินแดนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และเมื่อลิทัวเนียเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปก็จำเป็นต้องทำตามมติ มอสโกโวยลั่น เรียกอุปทูตลิทัวเนียและทูตอียูประจำมอสโกไปที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเพื่อประท้วง
แต่ผู้นำลิทัวเนียยืนยันว่าไม่กลัวเสียงขู่จากรัสเซีย
รัสเซียย้ำว่าการกระทำของลิทัวเนียเป็นการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดรอบใหม่
ซ้ำร้าย อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีแห่งเบลารุส ในการพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศว่าการปิดล้อมการขนส่งสินค้าบางส่วนไปยังคาลินินกราดนั้น "คล้ายกับการประกาศสงคราม"
ข่าวมีมาจากสำนักข่าวทางการรัสเซีย RIA Novosti โดยอ้างอิงจากการประชุมระหว่าง Lukashenko กับ Putin
มีการอ้างคำพูดของผู้นำเบลารุสว่า "เรากังวลมากกับสถานการณ์และนโยบายที่เพื่อนบ้านของเราติดตามทิศทางของผู้นำของโปแลนด์และลิทัวเนีย ซึ่งดูเหมือนจะพยายามสร้างบรรยากาศเผชิญหน้ามากขึ้น...”
เขาอ้างว่าทหารรับจ้างส่วนใหญ่ในยูเครนมาจากโปแลนด์
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องการการเผชิญหน้าแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังและผลักดันเรื่องนี้ เป็นนโยบายที่น่ารังเกียจและเป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าว”
สื่อรัสเซียอ้างคำพูดของ Lukashenko ต่อว่า
“ลิทัวเนียก็ทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน มีข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับแผนระงับการเดินทางจากรัสเซียผ่านเบลารุสไปยังคาลินินกราด เพื่อโดดเดี่ยวเมืองคาลินินกราด...นี่มันเหมือนกับการประกาศสงคราม! เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในสภาวะปัจจุบัน"
ภายใต้บรรยากาศการสนทนาแบบนี้แหละที่ปูตินให้ความมั่นใจกับผู้นำเบลารุสว่ารัสเซียจะจัดหาอาวุธที่เหมาะสมสำหรับกองทัพเบลารุสเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการป้องกันที่เรียกว่า รัฐสหภาพ ของรัสเซียและเบลารุส กับภูมิหลังของการกระทำที่ก้าวร้าวโดยตะวันตก
Lukashenko ไปถึงมอสโกเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ในขณะที่ความตึงเครียดประเด็นคาลานินกราดถูกยกระดับขึ้นอย่างร้อนแรง
ปูตินบอกลูกาเชนโกว่ารัสเซียจะจัดหาระบบขีปนาวุธ Iskander-M ให้กับกองทัพเบลารุสพร้อมกระสุนทุกประเภท รวมถึงหัวรบนิวเคลียร์ด้วย
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น Gitanas Nauseda ประธานาธิบดีลิทัวเนียก็ประกาศสำทับว่าเขาจะไม่มีการยอมตามแรงกดดันของมอสโก
เพราะลิทัวเนียจะต้องเดินตามมติของสหภาพยุโรปว่าด้วยการจำกัดการขนส่งสินค้ารัสเซียไปยังคาลินินกราด
ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศ Josep Borrell ย้ำว่าสหภาพยุโรปจะทบทวนแง่มุมทางกฎหมายของแนวทางการคว่ำบาตรของคณะกรรมาธิการยุโรปในประเด็นนี้
แต่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือนลิทัวเนียว่า หากไม่ยอมถอยจากคำสั่งเดิม รัสเซียก็สามารถใช้ “มาตรการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ”
นั่นอาจจะหมายถึงการใช้ความรุนแรง
ซึ่งอาจจะนำไปสู่สงครามที่บานปลายและขยายวงออกจากยูเครนได้
นี่คือความน่ากลัวของสถานการณ์ที่อ่อนไหวอย่างยิ่งในวันนี้
ยูเครนอ้างว่ารัสเซียพยายามจะดึงเอาเบลารุสมาร่วมทำสงครามกับยูเครน
ยูเครนอ้างข่าวกรองทางทหารว่ารัสเซียได้ส่งอาวุธหนักไปให้กับเบลารุสแล้ว
หากมีการยิงโจมตีจากเบลารุสใส่เป้าหมายในยูเครน...ก็ย่อมจะกดดันให้ยูเครนต้องตอบโต้ด้วยอาวุธเช่นกัน
ไม่ว่าการยิงจากเบลารุสจะเป็นฝีมือของเบลารุสเอง หรือจะเป็นผลงานของทหารรัสเซียที่จงใจจะสร้างสถานการณ์ให้เกิดความบาดหมางระหว่างยูเครนกับเพื่อนบ้านทางเหนือก็ตาม
ก่อนหน้านี้ เบลารุสก็ได้มีความเคลื่อนไหวทางทหารอย่างคึกคัก
เช่น ประกาศซ้อมรบ, ระดมทหารจากหลายหน่วยไปประชิดติดชายแดนของตนกับทั้งยูเครนและโปแลนด์
อีกทั้งยังมีข่าวคราวการล่วงล้ำน่านฟ้าเป็นระยะๆ
หากเกิดการปะทะกันระหว่างยูเครน, เบลารุส, โปแลนด์ และทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ใน Kaliningrad ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ยั่วยุให้เกิดเรื่องก่อนก็ตาม
นั่นเท่ากับเป็นการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับสมาชิกของ NATO ทันที
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้ออกมาตอกย้ำถึงพันธกรณีของ NATO ที่จะต้องปกป้องสมาชิกขององค์กรทางทหารนี้หากถูกโจมตี
เท่ากับเป็นการขยับเข้าใกล้การเปิดศึกระหว่าง NATO กับรัสเซีย
คำว่า “สงครามในสมรภูมิยุโรป” จึงเริ่มจะถูกกล่าวขานบ่อยขึ้นและหนักขึ้น
ฟัง ส.ส.รัสเซียคนหนึ่งออกทีวี ประกาศว่าหากเกิดสงครามในระดับยุโรป รัสเซียคงจะใช้ขีปนาวุธทันสมัยใหม่ล่าสุดคือ Samart ที่สามารถยิงข้ามทวีปได้เพื่อเป็นการสั่งสอน NATO
และเป้าหมายการโจมตีจุดแรกนั้น...ส.ส.รัสเซียคนนี้บอกว่าก็คือกรุงลอนดอน
เพราะนายกฯ อังกฤษ บอริส ยอห์นสัน และรัฐมนตรีต่างประเทศ ลิซ ทรัสซ์ เป็นแกนสำคัญของยุโรปตะวันตกที่หนุนเนื่องยูเครนและต่อต้านรัสเซียอย่างออกนอกหน้าที่สุด
ก็ได้แต่เพียงหวังว่า “สงครามน้ำลาย” จะไม่แปรสภาพเป็นสงครามจริงๆ เท่านั้นเอง
แต่ไม่มีใครรับรองว่า “ฉากทัศน์เลวร้ายสุดๆ” จะไม่เกิดขึ้นถ้ายักษ์ใหญ่ที่กำลังจ้องตากันประเมินสถานการณ์ผิดพลาดเหมือนสงครามโลก 2 ครั้งก่อน!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


