เหล็กโลกผันผวน เอกชนปวดหัว

ท่ามกลางความโกลาหลของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง และกระทบมายังผู้บริโภคเกือบทุกกลุ่ม ที่เห็นได้ชัดที่สุดน่าจะเป็นราคาพลังงาน ที่ก่อนหน้านี้ประเทศไทยเองก็อ่วมเอาการ องค์กรระดับประเทศอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต้องแบกรับภาระราคาพลังงานเพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด แต่แม้ว่าจะมีการเยียวยาหรือช่วยเหลือแล้วในหลายส่วน ประชาชนก็ยังต้องมารับภาระจากผลกระทบของโลกอยู่ดี

ขณะที่อุตสากรรมอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบทางตรง แต่ผลกระทบทางอ้อมก็ตามไปหลอกหลอนอยู่ดี อย่างพวกราคาของต้นทุน-วัตถุดิบการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาค่าขนส่งและคมนาคมเพิ่มขึ้น รวมถึงการขาดแคลนคนงาน หรือแม้แต่ไม่มีตลาดในการขายสินค้า

ล้วนแล้วแต่เป็นผลกระทบที่ทุกคนต้องแบกรับไว้อย่างน่าเห็นใจ ขณะที่ล่าสุด! อุตสาหกรรมเหล็กเริ่มสะท้อนความต้องการหลังจากที่ผ่านมาเริ่มได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ออกมาชี้แจงว่า จากสถานการณ์เหล็กโลกที่ราคาได้ขึ้นไปสูงในช่วงต้นปี 2565 เนื่องจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนต่อวัตถุดิบและการผลิตเหล็ก ตลอดจนความกังวลว่าสินค้าเหล็กอาจขาดแคลนนั้น ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2565 เป็นต้นมา ราคาเหล็กโลกได้อ่อนตัวและตลาดมีแนวโน้มผันผวนลดลง เนื่องจากตลาดเหล็กโลกได้ปรับตัวในเชิงห่วงโซ่อุปทาน และเน้นการค้าในระดับภูมิภาคเป็นหลัก เตือนภัยสัญญาณเหล็กทุ่มตลาดชัดเจน

กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ส.อ.ท.มองว่า ทั่วโลกกำลังพาเหรดใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็ก โดยนายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก กล่าวถึงราคาตลาดเหล็กโลกว่า ได้ปรับลดลง โดยราคาสินค้าเหล็กสำเร็จรูปในภูมิภาคเอเชีย ปรับลดลง 3.2-4.9% ในเดือน มิ.ย.2565 และลดลงอีก 5.2-16.3% ในเดือน ก.ค.

ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่ประเทศจีนมีการล็อกดาวน์เมืองต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กในประเทศจีนชะลอตัว โดยครึ่งแรกของปี 2565 ความต้องการใช้เหล็กของประเทศจีนลดลง 6.9% เหลือ 501 ล้านตัน และมีการส่งออกสินค้าเหล็กรวม 34.25 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกในราคาต่ำมาก เพราะกำลังซื้อภายในประเทศจีนลดลง นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ประเทศรัสเซียมีการส่งออกสินค้าเหล็กสำเร็จรูปราคาต่ำเข้ามายังภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากถูกคว่ำบาตรไม่สามารถส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรปได้ 

สำหรับ ภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีปริมาณความต้องการใช้สินค้าเหล็กสำเร็จรูปทั้งหมด 8.78 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ประมาณ 13% จากภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนก่อสร้างในประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลให้การใช้กำลังการผลิตจริงของอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทยอยู่ที่เพียง 33.3% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำมากๆ 

ในขณะผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทยต้องเผชิญกับต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจาก 1.ราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น 39.97% และ 2.ราคาวัตถุดิบที่ผู้ผลิตได้สั่งซื้อไปเมื่อช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2565 แต่ก็ได้ปรับราคาขายสินค้าเหล็กให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดเหล็กโลกซึ่งอ่อนตัวลงแล้ว ดังนั้นประเทศต่างๆ ที่รู้ทันสถานการณ์ได้ออกมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศจากการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยการใช้มาตรการทางการค้าต่างๆ อาทิ การตอบโต้การทุ่มตลาด ซึ่งยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

ในปัจจุบันราคาสินค้าเหล็กได้ปรับลดลงแล้ว และปรากฏว่ามีการทุ่มตลาดที่ไม่เป็นธรรมจริง ดังนั้นประเทศไทยควรเร่งไต่สวนกรณีที่ยังค้างอยู่ และเร่งทบทวนเก็บอากรทุ่มตลาดอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันผลกระทบจากสินค้าเหล็กทุ่มตลาดที่ทะลักเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยอยู่ไม่ไกลจากประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กใหญ่สุดอันดับ 1 และ 2 ของโลก โดยสองประเทศนี้ผลิตเหล็กออกมาเกือบ 1,200 ล้านตันต่อปี 

อาจจะยังคงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวต่อไป แต่ก็เชื่อว่าหากมีการพิจารณาไตร่ตรองและเตรียมตัวให้ทันในกลุ่มผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล็ก เชื่อว่าจะสามารถรับมือกับปัญหาที่จะตามมาได้แน่นอน.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Digital Walletกระตุ้นค้าปลีกไม่แรง

“โครงการ Digital Wallet” เรียกว่ามีความชัดเจนจากฝั่งรัฐบาลพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไขทั้งในส่วนของประชาชนและร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ รวมไปถึงแหล่งเงินที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความชัดเจนในส่วนนี้ก็ยังมีการตั้งคำถาม ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะเร่งหาวิธีการเพื่อพิสูจน์ความชัดเจน และเดินหน้าโครงการตามขั้นตอนและวิธีการภายใต้กรอบของกฎหมายที่ได้ยืนยันมาโดยตลอด

อัปเกรดอุตฯเหล็กรับมาตรการCBAM

การเดินหน้ามาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป หรือ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) นั้น ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวอย่างมากของกลุ่มผู้ผลิต

'หนี้ครัวเรือน'แนวโน้มชะลอแต่สัดส่วนยังสูง

“หนี้ครัวเรือน” เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายจับตา โดยจากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่ระบุว่า ภาพรวมหนี้ครัวเรือนไทย ไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท

เศรษฐกิจไทยจะไปทางไหนต่อ

ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยเวลานี้เหมือนคนป่วยโรคเรื้อรัง ที่อาการแค่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่รักษายังไม่หายขาด ส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ยังคงติดๆ ขัดๆ นับตั้งแต่ผ่านพ้นจากวิกฤตโควิดมากว่า 2 ปี

ไทยจะเป็นฮับเอทานอล

ประเทศไทยหลังจากที่ผลัดเปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้ ก็ตั้งเป้าการทำงานที่หลากหลายและแปลกตามากขึ้น แน่นอนว่าหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล

เดินให้สุดทำอย่างจริงจัง

ปัจจุบันพบปัญหาถังก๊าซหุงต้มในท้องตลาดเสื่อมสภาพและหมดอายุตกค้างอยู่ในระบบจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการลักลอบนำถังก๊าซหุงต้มมาเติมในสถานีบริการ LPG เป็นระยะ ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว