ความหวังใหม่

การย้ายพรรคของ “วทันยา บุนนาค” จากพรรคพลังประชารัฐ ไปสังกัด “พรรคประชาธิปัตย์” มีข่าวกระเส็นกระสายออกมาเป็นระยะ

จนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ข่าวคอนเฟิร์มเจ้าตัวย้ายมาสวมเสื้อพรรคจริงๆ โดยก่อนแถลงข่าวเปิดตัวลือว่าเกิดดีลชั้นเลิศ ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าเธอผู้นี้จะได้เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่เกินลำดับที่ 10 

เมื่อถึงวันจริงเจ้าตัวใส่แจ็กเก็ตพรรค เดินมาคู่กันกับ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค เวลานั้นกองทัพสื่อเฝ้าติดตามการเปิดตัว ซึ่งแน่นอนว่าช่วงตอบคำถามมีหลายสำนักให้ความสนใจ

 หนึ่งในนั้นคือ ความชัดเจนการลงสมัครรับเลือกตั้งว่าจะลงในรูปแบบใด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หรือ ส.ส.แบ่งเขต???

ด้าน “มาดามเดียร์” บอกสั้นๆ ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะตัดสินใจ ส่วน “หัวหน้าจุรินทร์” ตอบแบบสงวนท่าทีต้องพิจารณาความเหมาะสมว่าจะลงสมัครแบบใด

เสียงภายนอกอาจวิพากษ์ว่า “เจ๊เดียร์” คิดผิด ที่เข้าพรรคในเวลาที่กระแสไม่ดีนัก ซึ่งก็นานาจิตตัง

แต่สำหรับพรรคนั้น เธอมาทำให้บรรยากาศภายในดีขึ้นและดูมีความหวัง

โดยเฉพาะการมาช่วยเสริมทัพกรุงเทพฯ ทำให้พรรคกับพื้นที่เมืองหลวงดูน่าสนใจขึ้น

ภาพ “องอาจ คล้ามไพบูลย์” ส.ส.รุ่นใหญ่ ในฐานะแม่ทัพ กทม. ควงแขนกับคนรุ่นใหม่อย่าง “มาดามเดียร์” และ  “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ตะลุยไปตามชุมชนเมือง ก็พอจะทำให้กระแสประชาธิปัตย์กลับคืนมาได้บ้าง

แต่ที่สำคัญ สิ่งที่แลดูเป็นความหวังใหม่พร้อมๆ กับการที่คนรุ่นใหม่ก้าวเข้าพรรค คือ การรีแบรนด์ด้านสื่อ

เพราะต้องยอมรับเคล็ดลับความสำเร็จการเลือกตั้งยุคนี้  ต้องมาพร้อมกับการรุกยุทธศาสตร์ด้านสื่อเหมือนกับที่พรรคใหม่ๆ ที่เกิดในช่วงหลังทำกัน

การทำให้พรรคเป็นที่นิยมของคนทุกรุ่น น่าจะดีกว่าการให้พรรคเป็นที่นิยมของคนเฉพาะรุ่นใดรุ่นหนึ่ง หนทางที่ดีที่สุด คือการเข้าถึงกลุ่มใหม่ๆ โดยอาศัยทั้งช่องทางทวิตเตอร์  ไอจี เฟซบุ๊ก และติ๊กต่อก

เมื่อการเมืองเปลี่ยน การหาเสียงย่อมต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน สู้ๆ จ้า.

                                                                                                              มินนี่เมาธ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้มีดีแค่ ‘เกษตร’

ถ้าใครเข้าไปรัฐสภา ถามหา มิสเตอร์เกษตร ตั้งแต่แม่บ้าน ตำรวจ ข้าราชการ ยัน สส. สว. รู้หมดว่าหมายถึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย

'ทำอะไรต่อ?'

หลัง "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีจะไม่ลงสมัคร สส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

'ไม่ตรงกับความจริง'

ช่วงนี้ภาคใต้บ้านเราน้ำท่วมหนักซะจนหาดใหญ่กลายเป็นเมืองบาดาลไปเลย ฝนเทลงมาแบบไม่ยั้งมือ จนชาวบ้านหลายคนบอกว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ใครจะไปคิดว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะในหาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของสงขลา

“ขอบคุณทุกน้ำใจ”

ช่วงนี้ถึงแม้ว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะลดลงในบางพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่หนักต่อมาคือผลกระทบหลังน้ำลด ที่ไม่ใช่มีแค่น้ำ แต่เป็นความสูญเสียทั้งเรื่องของสิ่งของและชีวิต รวมถึงจิตใจที่ต้องมีการฟื้นฟูด้วยเช่นกัน

ไม่ยอมป่วย

ช่วงนี้ภาระหนักเต็มมือ “นายกฯ หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย และมาเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่หัวหน้ารัฐบาลอย่างนายอนุทินต้องวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน

มีแต่คนรัก

ทุกๆ ครั้งที่กองทัพต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องใดๆ หากต้องมีเรื่องการสื่อสาร เสธ.เบิร์ด-พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องถูกเรียกใช้งานเสมอ