สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ทาง

หลังจากเกิดอุบัติเหตุใหญ่กรณีคานสะพานลอยกลับรถหล่นบนถนนพระราม 2 ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง แน่นอนว่าทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความไม่มั่นใจในการสัญจรเส้นทางดังกล่าว แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ออกมายอมรับในความผิดพลาด และได้ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและหาสาเหตุ รวมทั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น

เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ดังนั้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา กรมทางหลวงจึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรม กับสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรมให้ครอบคลุมในทุกมิติด้านงานวิศวกรรม

โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมได้ร่วมเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว และให้ข้อมูลความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เป็นการบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรมให้ครอบคลุมในทุกมิติด้านงานวิศวกรรม เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของตนตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2562 ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระเบียบ กฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล

สำหรับ ความร่วมมือในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่อุบัติเหตุคานสะพานกลับรถร่วงหล่นบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34+000 บริเวณสะพานกลับใกล้โรงพยาบาลวิภาราม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พังถล่ม เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2565 อาจสร้างความไม่มั่นใจในการเดินทางของประชาชน กระทรวงฯ จึงให้ความสำคัญกับโครงสร้างของสะพานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทล.ที่มีมากถึงกว่า 17,000 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสะพานที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปี จากที่จริงแล้วควรมีอายุ 25 ปี ที่จะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะบูรณาการร่วมกัน (Third Party) เพื่อตรวจสอบอย่างรัดกุม และโปร่งใส ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการ จนถึงโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามหลังจากความร่วมมือของ ทล.ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกในครั้งนี้แล้วนั้น กระทรวงคมนาคมจะขยายความร่วมมือไปยังอีก 18 หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงฯ เพิ่มเติมต่อไป พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดส่งบุคลากรมาร่วมดำเนินการด้วย

ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการช่วยกันในการดำเนินงานโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมที่ได้ดำเนินการอยู่ เช่น MR-MAP, รถไฟทางคู่, รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และเชื่อม 3 สนามบิน เป็นต้น ให้เป็นไปตามหลักวิชาชีพและหลักวิศวกรรม ถึงแม้ ทล.จะดำเนินการอย่างละเอียดอยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการตรวจสอบอย่างรัดกุม และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาคมอาเซียน เอเชีย และระดับโลก สอดรับกับตำแหน่งที่ตั้งของไทยที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาคอาเซียนทั้ง 4 มิติ คือ ทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ

ขณะที่ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ให้รายละเอียดว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้กรมทางหลวงจะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการทดสอบสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 จำนวน 16 แห่ง และขยายผลสู่สะพานอื่นๆ ในโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสะพานที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 30 ปีต่อไป ส่วนสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34+000 บริเวณสะพานกลับใกล้โรงพยาบาลวิภารามนั้น ทล.เตรียมปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวในวันที่ 31 ต.ค.-4 พ.ย.2565 รวมระยะเวลา 5 วัน เพื่อติดตั้งคานสะพาน จากนั้นจะนำรถบรรทุกมาวิ่งทดสอบน้ำหนัก ระยะเวลา 1 สัปดาห์ และจะเปิดให้บริการในวันที่ 11 พ.ย.2565

อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.2565-ก.ย.2566) จะว่าจ้างสถาบันอุดมศึกษาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ร่วมสำรวจสะพานขนาดใหญ่ จำนวน 1,000 สะพาน อาทิ จุดกลับรถ สะพานข้ามแยก สะพานข้ามทางรถไฟ รวมถึงสะพานที่มีอายุเกิน 30 ปี โดยจะตรวจสอบอย่างละเอียด อาทิ ความแข็งแรงของสะพาน การรับน้ำหนักและชิ้นส่วนของสะพาน ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการสำรวจเบื้องต้นภายใน 6 เดือน

ต่อจากนี้ไปก็ได้แต่หวังว่า การบูรณาการร่วมกันในครั้งนี้ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันวิชาชีพวิศวกรรมที่ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ซึ่งหลังจากนี้จะเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโครงการก่อสร้างสะพานและสะพานที่ให้เปิดใช้ในปัจจุบันของกรมทางหลวง ให้เกิดความอุ่นใจแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนยิ่งขึ้น.

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดินให้สุดทำอย่างจริงจัง

ปัจจุบันพบปัญหาถังก๊าซหุงต้มในท้องตลาดเสื่อมสภาพและหมดอายุตกค้างอยู่ในระบบจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการลักลอบนำถังก๊าซหุงต้มมาเติมในสถานีบริการ LPG เป็นระยะ ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว

ดันสงกรานต์ไทยสู่เทศกาลโลก

หลังจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทย จับมือจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567”

เน้นเชิงรับมากกว่าเชิงรุก

ก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas) หรือก๊าซ LPG ด้วยคุณสมบัติพิเศษของมันก็คือ การที่มีสารโพรเพนและบิวเทนอยู่ในตัว ซึ่งสารสองนี้เป็นสารที่ติดไฟง่าย

เจาะลึกพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทย

ในช่วงที่ผ่านมาได้มีผลการวิจัยของมินเทล (Mintel) พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยหันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้นในการหาแรงบันดาลใจด้านการท่องเที่ยว และแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวของตนเอง

วิกฤตเลวร้ายกว่าต้มยำกุ้ง?

ตกเป็นประเด็นอีกครั้ง สำหรับเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจของไทย เพราะล่าสุด 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรีได้มาพูดย้ำว่า ประเทศไทยตอนนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะมีความซับซ้อนและยากมากกว่า และมองว่าการแก้ไขมันต้องมีการเปลี่ยน เพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม

จับชีพจร“ท่องเที่ยวไทย”เริ่มฟื้นตัว

“ท่องเที่ยว” ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมสำคัญในการขับเคลื่อนและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ เรียกได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมหลักๆ ที่สร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศตลอดช่วงที่ผ่านมา