มีคนคิดขายชาติ

มีใครหมั่นไส้ "พี่ศรี" บ้างหรือเปล่าก็ไม่ทราบ?

ร้องแล้วครับ

ฟ้องคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต่อศาลปกครองสูงสุด โทษฐานแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือครองที่ดิน

ด่ายับเป็นมติอัปยศที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสิ้นไร้ความสามารถที่จะแสวงหารายได้เข้าแผ่นดิน ใช้อำนาจโดยไม่สอบถามเจ้าของประเทศที่แท้จริงเลยว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่

ขายชาติชัดๆ อันนี้เติมให้ครับ

ท้ายคำฟ้อง "พี่ศรี" ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนกฎ หรือคำสั่ง หรือสั่งห้ามการนำร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ.. .. ไปใช้ใดๆ

ถ้าศาลปกครองสั่งเพิกถอนก็จบครับ

แต่ถ้าไม่ รัฐบาลก็เดินหน้าต่อ

มี ๒ หน้าเท่านั้น

ใครไม่พอใจก็อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกับ "พี่ศรี"

ถือซะว่านี่คือหนึ่งในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ผู้ที่ได้ประโยชน์คือประชาชนทุกคน ไม่แบ่งแยกว่าขั้วไหน สีไหน หรือกี่นิ้ว

กรณีนี้อธิบายกันมาเยอะ มีทั้งเข้าใจ ไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจ

มีคำชี้แจงที่น่าจะชัดเจนที่สุดจาก "นิพนธ์ บุญญามณี" อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ที่เคยรับผิดชอบงานกรมที่ดิน           

๑.ความเป็นมาเรื่องนี้เริ่มจากเมื่อปี ๒๕๔๒ มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเพิ่มมาตรา ๙๖ ทวิ ขึ้นใหม่ โดยอนุญาตให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่ หากนำเงินมาลงทุนไม่น้อยกว่า ๔๐ ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไม่ต่ำกว่า ๓ ปี ทั้งนี้ เพราะปี ๒๕๔๐ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ประเทศต้องการเงินตราต่างประเทศ

๒.ต่อมาปี ๒๕๔๕ ครม.เห็นชอบกฎกระทรวงออกตามความใน ม.๙๖ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน วางแนวปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวนำเงินมาลงทุน ๔๐ ล้านบาทขึ้นไป จะขอซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่ และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า ๕ ปี

๓.นับแต่ปี ๒๕๔๕ ถึงปัจจุบัน มีคนต่างด้าวใช้สิทธิตามกฎกระทรวงฉบับปี ๒๕๔๕ ไป ๑๑ ราย ปัจจุบันขายต่อ ๑ ราย และ ๑ ราย แปลงสัญชาติเป็นไทยไปแล้ว คงเหลือ ๘ ราย

๔.เมื่อปี ๒๕๖๓ เกิดวิกฤตโควิด-๑๙ เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ต่อมาในปี ๒๕๖๔ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (ศบศ.) ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย โดยกำหนดรายละเอียดดังนี้

๔.๑ กำหนดประเภทการตรวจลงตรา (วีซ่า) สำหรับผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa: LTR) : มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาให้วีซ่าเป็นพิเศษแก่คนต่างด้าว ๔ กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีความมั่งคั่งสูง/ผู้เกษียณอายุ/ผู้ที่ต้องการทำงานจากไทย/ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

๔.๒ ให้สิทธิประโยชน์ด้านอสังหาริมทรัพย์ : มอบหมายให้กรมที่ดินศึกษาในรายละเอียดแล้วนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ.พิจารณา

๔.๓ ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี : มอบหมายให้กรมสรรพากรเตรียมร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ถือวีซ่า LTR

๔.๔ การปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสาร : มอบหมายให้กรมศุลกากรอำนวยความสะดวกการเดินทางพิเศษสำหรับผู้ถือวีซ่าประเภท LTR เป็นการเฉพาะ เทียบเคียงกับสถานะการเดินทางทางการทูต

๔.๕ จัดตั้งศูนย์บริการผู้พำนักระยะยาว (LTR-Service center) : มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานหลัก

๕.ปี ๒๕๖๕ กรมที่ดินเสนอร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่มีหลักการคล้ายกับกฎกระทรวงปี ๒๕๔๕ เดิม ที่ให้ต่างด้าวเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับ LTR Visa เท่านั้น ที่นำเงินมาลงทุน ๔๐ ล้านบาท สามารถซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่ และต้องดำรงการลงทุนนั้นไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๓ ปี (ลดระยะเวลาการดำรงการลงทุนจาก ๕ ปี เหลือเพียง ๓ ปี แต่ยังคงเป็นระยะเวลาภายในกรอบของมาตรา ๙๖ ทวิ ป.ที่ดิน) เพราะของเดิมไม่ดึงดูดคนมาลงทุน ซึ่ง ครม.เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงฉบับนี้เมื่ออังคารที่ผ่านมา

๖.ต่อไปกรมที่ดินต้องนำร่างกฎกระทรวงนี้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามกฎกระทรวงกำหนดร่างกฎที่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ พ.ศ.๒๕๖๕ (มีผลใช้บังคับ ๘ ต.ค.๒๕๖๕) ที่ออกตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.๒๕๖๒ เสียก่อนที่จะดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ครับ...รายละเอียดตามนี้ ไม่มีอะไรพิสดาร

ที่บอกว่าขายชาติ ต้องกลับมาพิจารณากันใหม่ เพราะที่ดินเอกชนขายให้เอกชนที่เป็นต่างชาติ บางคนยังโอนสัญชาติทีหลัง

กฎหมายนี้ไม่มีการซื้อขายที่ดินที่เป็นของรัฐแม้ตารางนิ้วเดียว

ปัจจุบันกฎหมายนี้ค่อนข้างเป็นสากล เพราะไม่มีประเทศใดอยู่ได้อย่างโดดเดี่ยวในโลกใบนี้

หากบอกว่า ขายชาติ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ขายชาติมากที่สุดในโลก เพราะเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้แบบไม่อั้น

ขอให้มีเงินแล้วกำมา

ความแตกต่างของกฎหมายในแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไปบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย เช่น การเสียภาษี ระยะเวลาการครอบครอง

อย่างออสเตรเลีย เปิดให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ แต่มีเงื่อนไขที่ต่างจากไทย อาทิ ต้องเป็นบ้านในโครงการจัดสรรใหม่ๆ เท่านั้น

ห้ามซื้อบ้านมือสอง เพราะเกรงว่าจะทำให้ราคาบ้านขึ้นกระฉูด กระทบต่อประชาชนในประเทศ

คอมมิวนิสต์อย่าง เวียดนาม ยังให้ต่างชาติเช่าระยะ ๗๐ ปี

ขณะนี้มีการปล่อยข่าว วิพากษ์วิจารณ์กันไปเยอะพอควร พอสรุปความได้ว่า กลัวต่างชาติจะยึดประเทศไทย ชาวนาจะไม่มีที่ทำกิน คนจนถูกกดทับซ้ำซ้อน ฯลฯ              

ที่จริง กฎหมายเขียนเอาไว้ค่อนข้างชัดว่า ให้ต่างชาติซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่เท่านั้่น

เฉพาะที่อยู่อาศัย ไม่ใช่มาแย่งคนไทยทำการเกษตร

แต่ถามว่าในอดีตเคยคิดให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินทำการเกษตรแปลงใหญ่หรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าเคยมีความพยายาม

ช่วงรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช "ทักษิณ ชินวัตร" ชักชวนนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประกอบด้วย วาลิด อาเหม็ด จัฟฟาลี รองประธานบริษัท ซาอุดีซีเมนต์ (SCC) ซึ่งเป็นบริษัทซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบีย และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่มบริษัท EA Juffali & Brothers กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมและพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลาง เข้ามาลงทุนทำนา หรือเช่าที่ดินทำนา หรือการส่งข้าวออกขายต่างประเทศ

มีการจัดตั้งบริษัทรวมใจชาวนาขึ้นมาเพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย

ถามว่าน่ากลัวมั้ย

"ทักษิณ" มีความเชี่ยวชาญในการจัดตั้งบริษัทนอมินี ฉะนั้นหากดีลกันสำเร็จ การเข้ามาของต่างชาติ เราแทบจะมองไม่ออก

โชคดีว่าอายุรัฐบาลสมัครสั้นเกินไป จึงไม่ได้ไปต่อ

ครับ...เมื่อพูดกันเรื่องขายชาติ ก็นี่แหละครับ

ขายชาติ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยแบบไทยๆ

นักการเมืองคนไหนที่บอกว่า "รวยพอแล้ว" อย่าไปเชื่อ เพราะถ้าพอจะไม่แสวงอำนาจการเมือง

นายทุนก้าวไกล

เริ่มต้นด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ วานนี้ (๑๗ เมษายน) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปยอดเงินบริจาคของพรรคการเมือง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ทั้งสิ้น ๑๓ พรรคการเมือง

รวยแล้วไม่โกงไม่มี

นายกฯ เศรษฐาเปิดใจวานนี้ (๑๕ เมษายน) ฟังแล้วเหมือนเดจาวู "...มั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามต้องพูดเรื่องทรัพย์สิน เรื่องของชีวิตส่วนตัว ส่วนตัวของผมลงตัวแล้ว มีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ