40 ปีที่รอคอย

เรียกว่ายกทัพไปที่ไหนมีแต่การพัฒนา และชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับพรรคภูมิใจไทยที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้า

นอกจากผลงานรัฐบาลแล้ว ในส่วนพรรคยังมุ่งเน้นการทำงานเชิงบูรณาการภายใต้ความรับผิดชอบ 3 คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  

ล่าสุดได้มอบหมายให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรค และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ระนอง ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล 

รวมทั้งเรื่องสำคัญคือ การส่งมอบพื้นที่แขวงทางหลวงระนอง 16 ไร่ของกระทรวงคมนาคม ให้โรงพยาบาลระนองในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นที่เรียบร้อย เพื่อเพิ่มศักยภาพการดูแลสุขภาพของประชาชนจังหวัดระนองและกลุ่มประชากรต่างด้าว ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวระนองรอคอยมากว่า 40 ปี 

สำหรับเบื้องหลังสำเร็จ โต้โผสำคัญคือ "ส.ส.เอ” นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ส.ส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย ที่พยายามผลักดันเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยทำการเมืองระดับท้องถิ่น จนมาสำเร็จได้ในระดับชาติภายใต้สีเสื้อคนภูมิใจไทย

ปะหน้า “ส.ส.เอ” บอกว่า นอกจากโรงพยาบาลระนองจะช่วยดูแลและรักษาพี่น้องประชาชนแล้ว ยังรองรับการเติบโตของเมือง โดยจะพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และเป็นประตูเศรษฐกิจของภาคใต้ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

ด้วยอัตลักษณ์ของเมืองระนอง ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวทั้งธรรมชาติ เช่น บ่อน้ำแร่อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ท้องทะเลอันดามัน ท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปเกาะต่างๆ ของเมียนมา รวมทั้งแผนการพัฒนาของภาครัฐ อาทิ ท่าเรือน้ำลึกจากอ่าวไทยสู่ระนอง ด้วยระบบรถไฟรางคู่ และเส้นทางมอเตอร์เวย์ เป็นต้น 

 “อีกไม่นาน ระนองจะไม่เป็นรองใคร แต่จะเป็นเมืองหลักที่ครบเครื่องมีทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย เชื่อว่าเป็นจุดหมายของทุกๆ คน” 

เมื่อมีโอกาสได้ทำงานและมีผลงานประจักษ์ถูกใจชาวระนองเช่นนี้ เลือกตั้งครั้งหน้านับ "ส.ส.เอ" เข้าสภาสมัยที่สองได้เลยใช่ไหม 555.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัดไม่ปล่อย

ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ