ลำดับที่ 99

"ยามศึกร่วมรบ ยามสงบเรารบกันเอง" ยังคงเป็นประโยคที่ใช้ได้กับ "พรรคประชาธิปัตย์" เสียจริง ไม่ว่าจะสมัยใด ประโยคนี้คือจริงที่สุด ล่าสุด เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว รอบนี้กะผลัก "อู๊ดด้า" จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตกเก้าอี้หัวหน้าพรรค

มีกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) บางส่วน วางแผนลับว่า จะรวบรวมชื่อกก.บห. ให้ได้ครึ่งหนึ่งของคณะกก.บห. เพื่อบีบให้เปลี่ยนตัวแม่ทัพกลางศึก!!!

โทษฐานสำคัญคือคะแนนนิยมน้อย สู้หัวหน้าพรรคอื่นไม่ได้ ซ้ำไม่สามารถซื้อใจสมาชิกพรรคได้ เนื่องจากบริหารงานเอาแต่พวกพ้องตนเอง

ด้วยเหตุฉะนี้ จึงควรโดนปลด! ทว่า "จุรินทร์" ยังดวงแข็งหรือใครมาช่วยไว้ไม่ทราบ ขีดเส้นใต้ว่า ณ เพลานี้ยังดวงแข็ง ฝ่ายตรงข้ามจึงยังรวบรวมเสียงไม่ได้กึ่งหนึ่ง

จากข่าวนี้ ทำเอาภายในพรรคอลเวง กลายเป็น Topic เม้าท์มอย คว้านหาตัวใครคือคนบงการ และใครบ้างที่เป็นคนในขบวนการ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าแผนการซับซ้อนวกวนยิ่งกว่าเขาวงกต แต่การต่อสู้ทั้งหมดก็เกิดขึ้นจากการบริหารงานของผู้บริหารพรรคบางส่วนนั่นแหละ

กระแสข่าวนี้นอกจากจะเป็นที่สนใจของสมาชิกพรรคแล้ว กระจอกข่าวประจำพรรคก็เกาะติดอย่างยิ่ง จำเป็นต้องทราบว่าเบื้องลึกเบื้องหลังคืออะไร หลายคนบ่นอุบ กก.บห. และส.ส.หลายคนกล้อมแกล้ม รวมถึง "พนิต วิกิตเศรษฐ์" ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แม้จะไม่ได้เป็น กก.บห. กับใครเขา แต่ก็ไม่ยอมปริปากถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตาม สำหรับ "..หนุ่ม"-พนิต แม้จะไม่ยอมคุยกรณีแผนปลดหัวหน้า แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่อัพเดทได้ โดยเฉพาะประเด็นอนาคตทางการเมือง เพราะต้องยอมรับที่ผ่านมามักชอบทำอะไรๆ สวนทางมติพรรค ซึ่งเจ้าตัวบอกเองว่า "ผมคือแกะดำ" ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้อาจโดนทำโทษให้ไปอยู่ในส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับลึกๆ ก็เป็นได้

"พนิต" เหมือนจะรู้โชคชะตาตัวเอง และบอกติดตลกว่า "เรื่องจัดบัญชีรายชื่อคงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง แต่ผมไม่ขออะไรมาก ขออยู่ลำดับที่ 99 แล้วกัน เลขสวยดี" และจากการพูดคุยพอประมาณการได้ว่าเจ้าตัวจะอยู่รอคนๆหนึ่งกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมลั่นว่า "ผมอยู่ได้ ผมอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่เหมือนใครหลายคนที่ต้องแบมือขอ....ใคร"

อืม การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาของพรรคที่มีอายุยาวนาน หุหุ

                                                                                                                                        มินนี่เม้าธ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เป็นมิตรต่อกัน

ก่อนหน้านี้คอการเมืองเห็นบท เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น นักการเมืองดังเมืองชลบุรี โดยสื่อขนานนามว่าเป็น “หัวหน้าซุ้มมังกรน้ำเค็ม” ในบทบาท ใจถึง พึ่งได้ ห้าวหาญ ปะฉะดะไม่สนหน้าไหน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ

“หวานเจี๊ยบ”

รัฐมนตรี 17 สมัยไม่ใช่เพราะโชคช่วยสำหรับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข แต่มาจากการทำงานหนัก ฝีมือ และยังมองการเมืองทะลุ จึงสามารถพาพวกพ้องและตัวเองไปอยู่ในจุดที่มีความสำคัญ สามารถเป็นรัฐบาลได้เสมอ

ครอบครัวธาตุน้ำ

ขอส่งกำลังใจไปยังผู้ประสบภัยชาว จ.เชียงราย, หนองคาย, อุบลราชธานี, มุกดาหาร และขอขอบคุณจิตอาสาประชาชนคนทั่วไป ทหาร และหน่วยงานภาครัฐ ที่จริงใจช่วยเหลือ

“นายกฯสายมู”

ช่วงนี้อะไรๆก็เริ่มที่จะเข้าที่เข้าทาง เพราะมรสุมช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าการเมืองของไทยดุเดือดมาก เพราะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนยาวมาถึงเดือนก.ย. เหล่าคนการเมืองก็ตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ทุกวัน ต้องรอลุ้นว่าในแต่ละวันจะมีเรื่องอะไรบ้าง

โชว์ลูกคอ

คึกคักไม่หยุด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของงาน “รวมไทยสร้างชาติแฟร์” ที่จัดขึ้นโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ นำโดย “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีแนวคิดจัดกิจกรรมดังกล่าว

มาวันเดียวหายเลย

แม้เป็นฝ่ายค้าน และแม้จะเหลือ สส.อยู่ในฝั่ง ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพียง 20 คน แต่ดูเหมือนอดีตพรรคใหญ่ในรัฐบาลชุดที่แล้วยังมีเรื่องป่วนๆ ไม่รู้สิ้น