สมรภูมิยูเครน: หลังรถถัง Leopard เครื่องบินรบ F-16 ก็จะตามมา?

เป็นภาพของการเพิ่มความตึงเครียดอย่างน่ากลัว เพราะรัสเซียย่อมจะไม่อยู่เฉย ๆ เมื่อเห็นทางตะวันตกระดมสรรพกำลังเพื่อเสริมแสนยานุภาพทางทหารของยูเครน

รัสเซียมีทั้งเครื่องบินรบ, รถถังและขีปนาวุธที่มอสโกเชื่อว่าไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้เหมือนกัน

ยิ่งถ้าหากต่างฝ่ายต่างขนอาวุธยุทโธปกรณ์หนักเข้าสู่สมรภูมิโอกาสของการเจรจาเพื่อหาทางกลับสู่สันติภาพก็จะยิ่งแคบลงอย่างแน่นอน

 นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์เยอรมนียืนยันจะส่งรถถัง Leopard 2 (อ่านว่า “เล็ปเพิร์ด 2”) ชุดแรก 14 คันให้ยูเครน 

หลังจากที่มีอาการลังเลมาหลายสัปดาห์ในบรรยากาศที่มีแรงกดดันจากหลายประเทศทางตะวันตก

และคำขู่จากรัสเซียว่าหากเบอร์ลินส่งรถถังหนักไปให้ยูเครนก็เท่ากับเป็นการส่งอาวุธเข้ามาเผชิญหน้ากับรัสเซียในสมรภูมิรบยูเครนโดยตรง

ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ก็ประกาศจะส่งรถถัง M1 Abrams (เอ็ม1 เอบรามส์) ให้กองทัพของยูเครน 31 คัน

ยูเครนหวังว่าการได้รถถังหนักจากตะวันตกรอบนี้จะเป็น “ตัวพลิกเกม” (game-changer) ในสนามรบที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ 12 แล้วในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายกฯเยอรมันบอกว่านอกจากรัฐบาลจะส่ง Leopard 2 จำนวน 14 คันให้แก่ยูเครนแล้วก็จะยังเปิดไฟเขียวให้ประเทศอื่น ๆ ส่งรถถังชนิดนี้ให้แก่ยูเครนได้ด้วย 

แต่ผู้นำเยอรมันย้ำว่าจะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินเข้าร่วมสงครามนี้อย่างแน่นอน 

เป็นแนวทางเดียวกับของ NATO ที่เคยประกาศจุดยืนว่าจะไม่ส่งทหารเข้าร่วมรบเช่นกัน

ก่อนหน้าโฆษกรัฐบาลรัสเซียออกมาพูดทำนองปรามาสว่ารถถังที่ชาติตะวันตกส่งให้ยูเครนจะถูกเผาเหมือนกับรถถังก่อนหน้านี้

นายดมิทรี เปสคอฟ บอกว่ากองทัพยูเครนไม่ได้มีความสามารถเพียงพอที่จะใช้กองทัพรถถังเหล่านี้ในการสู้รบ

ไป ๆ มา ๆ รัสเซียมองว่าการที่ตะวันตกระดมรถถังให้ยูเครนก็จะกลายเป็น"แผนการที่ล้มเหลว"

แต่ทางการยูเครนยืนกรานว่านักรบของเขาต้องได้อาวุธหนัก เพราะมั่นใจว่าหากได้รถถังประจัญบานมามากและเร็วเพียงพอก็จะช่วยให้กองทัพยูเครนยึดดินแดนกลับคืนมาจากฝ่ายรัสเซียได้

การเปิดทางให้ประเทศอื่นที่มี Leopard 2 ในครอบครองส่งต่อไปให้ยูเครนก็มีความสำคัญในการเสริมกำลังของนักสู้ยูเครนได้อย่างเต็มที่

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกว่านับถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศตะวันตกต่าง ๆ ได้รับปากที่จะส่งรถถัง “เสือดาว” นี้มาให้รวมได้ 321 คันแล้ว

ประธานาธิบดีเซนเลนสกีของยูเครนประเมินว่าทหารของเขาจะต้องมีรถถังหนักประมาณ 300-500 คันจึงจะอยู่ในสภาพที่จะสู้กับรัสเซียในสมรภูมิรบได้

เขาประเมินว่ารัสเซียมีรถถังทั้งหมดในสนามรบยูเครนถึง 1,000 คัน

แม้ว่า Leopard 2 และ M1 Abrams จะมีความสามารถในสนามรบมากกว่ารถถังรุ่น T ต่าง ๆ เช่น T-72 ของรัสเซียก็ตาม แต่เมื่อมีจำนวนมากกว่าเป็นเท่าตัวก็ยังดำรงความได้เปรียบในการสู้รบอยู่ดี

อีกทั้ง เซเลนสกียังย้ำว่าแม้จะได้รถถังมาจำนวนหนึ่งแล้ว แต่หัวใจสำหรับความสำเร็จในสนามรบก็คือความเร็ว

“ถ้ารถถังมาถึงเราในเดือนสิงหาคมก็จะสายเกินไปเสียแล้ว” เซเลนสกีแถลง...หลังจากมีข่าวว่ากว่ารถถังสองรุ่นนี้จะมาถึงมือของกองทัพยูเครนก็อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน

เพราะปัญหาการขนส่งและการฝึกฝนทหารยูเครนให้มีความคล่องแคล่วในการใช้รถถังรุ่นต่าง ๆ จากทางตะวันตก

สหราชอาณาจักรเตรียมจะส่งรถถัง Challenger และฝรั่งเศสก็แสดงความพร้อมที่จะส่งมอบรถถัง Leclerc ของตนให้กรุงเคียฟเช่นกัน

รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า การใช้รถถังAbrams ที่มีความทันสมัยนั้นจำเป็นต้องมีการซ่อมบำรุงเป็นอย่างดีและมีการฝึกอบรมการใช้งานหลายอย่างพร้อม ๆ กัน

ในแวดวงการเมืองและการทหารของเยอรมันนีนั้นมีการถกแถลงกันมาหลายเดือนว่าด้วยความกังวลการส่งรถถังให้ยูเครนเพราะหวั่นวิตกว่าจะเป็นการยกระดับความขัดแย้ง 

หรือไม่ก็เท่ากับทำให้ NATO เข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงในการทำสงครามกับรัสเซีย

แม้ว่าจะมีการนำเสนอว่ารถถังประจัญบานที่ทันสมัยของชาติตะวันตกจะเป็นตัว “พลิกเกม” สงครามได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามก็เตือนว่าลำพังรถถังอย่างเดียวไม่ใช่ “อาวุธมหัศจรรย์”แต่อย่างใด

เพราะท้ายที่สุดแล้วปัจจัยที่จะพลิกผันสถานการณ์สงครามได้นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่ส่งให้ยูเครนจะพร้อมมากับรถถังด้วย

สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายประเทศตะวันตกได้ประกาศส่งอาวุธหนักให้ยูเครนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยานหุ้มเกราะ, ระบบปืนใหญ่ และกระสุน

ล้วนเป็นอาวุธที่ยูเครนจำเป็นต้องมีเพื่อตีฝ่าแนวป้องกันของรัสเซียและยึดดินแดนทางด้านตะวันออกและทางใต้ของตนกลับคืนมา

เรื่องของจังหวะเวลากลายเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์วันนี้สำหรับยูเครน

เพราะถ้าทหารยูเครนได้รับการฝึกและมีการส่งอาวุธต่าง ๆ เหล่านี้เข้ามาทันเวลา ก็จะเป็ฯแรงหนุนเนื่องอันสำคัญต่อการบุกเดินหน้าในช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังการสิ้นสุดของฤดูหนาวประมาณต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

แต่สิ่งที่ยังคงขาดไปในการเสริมกำลังปฏิบัติการโจมตีคือ อานุภาพทางอากาศ

เป็นที่มาของคำร้องขอของยูเครนต่อชาติตะวันตกให้ส่งเครื่องบินรบที่ทันสมัยมาให้

แม้ว่าเสียงเรียกร้องนี้จะมีมาตั้งแต่สงครามเริ่มต้น แต่ก็ยังไม่มีชาติใดส่งเครื่องบินรบมาให้

เพราะกลัวว่าจะเป็นการถลำตัวลึกลงไปสู่สงครามเต็มรูปแบบที่จะทำให้รัสเซียประกาศสงครามกับ NATO และขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้

นายอนาโทลี อันโทนอฟ ทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐฯ เขียนทางเทเลแกรมว่า ถ้าสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งรถถัง ก็แสดงให้เห็นว่า อาวุธที่ใช้ในการตั้งรับ ใช้ไม่ได้ผล

"นี่จะเป็นการยั่วยุที่ชัดแจ้งอีกครั้งต่อสหพันธรัฐรัสเซีย"

นี่ขนาดส่งรถถังยังทำให้มอสโกเต้นขนาดนี้ หากชาติตะวันตกส่งเครื่องบินรบทันสมัยเช่น F-16 และอื่น ๆ เข้ามาเสริมทัพของยูเครน ภาพของสงครามขยายวงอย่างจริงจังก็จะเด่นชัดขึ้นอย่างแน่นอน