โพสท่า Y2K

เก็บตกสีสันวัยรุ่น Y2K ในกิจกรรมของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ได้จัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาแกนนำเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นยุวทูตคุณธรรมในศตวรรษที่ 21 เป็นการส่งเสริมและพัฒนาให้กับแกนนำสภาเด็กและเยาวชน เครือข่ายเด็กและเยาวชนในการทำความดี เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นโยบายระหว่างประเทศ สถานการณ์โลก

และเพื่อเป็นยุวทูตคุณธรรมขับเคลื่อนกิจกรรมในการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก โดยกลุ่มเป้าหมายแกนนำสภาเด็กและเยาวชน เครือข่าย กลุ่มเด็กและเยาวชน รวม 100 คน  โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีนโยบายให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินการพัฒนากิจกรรมดังกล่าว

ซึ่งเด็กๆในโครงการนี้ได้มีโอกาสมาพบ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมรับฟังปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การเป็นยุวทูตคุณธรรมขับเคลื่อนกิจกรรมในการพัฒนาสังคมไทยและสังคมโลก” จากลุงตู่

ภายในงานเด็กๆได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ “ลุงตู่” แบบสุดๆ โดยลุงตู่เดินทักทายพูดคุยกับเด็กๆทุกคนอย่างเป็นกันเอง พร้อมเปิดโอกาสให้ถ่ายภาพเซลฟี่และถ่ายภาพหมู่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน และด้วยความฮิตของท่าโพส Y2K ในกลุ่มคน Gen Z อายุระหว่าง 11-26 ปี ท่าฮิตที่สื่อความหมายของวัยรุ่นในยุคที่เทคโนโลยีเบ่งบาน มีทั้งอินเทอร์เน็ตและสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ซึ่งเป็นช่วงวัยของกลุ่มเยาวชนที่มาพบลุงตู่ หลานๆจึงสอนลุงตู่ทำมือท่าสัญลักษณ์ Y2K

ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และน.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ร่วมทำท่า Y2K ตามที่เด็กๆสอนกันเป็นครั้งแรกในงานนี้ด้วยเช่นกัน

เรียกว่าพร้อมใจกันทำตามหลานๆ โดยเฉพาะ “ลุงตู่” ที่ตั้งใจโพสท่าอย่างยิ้มแย้มอารมณ์ดี แถมจบงานนี้แล้วลุงตู่ยังนำท่า Y2K นี้ไปใช้ต่ออีกงานด้วย บอกเลยว่าจำท่าได้เป๊ะเหมือนต้นฉบับที่เด็กๆสอน จนถูกนักข่าวแซวถามว่าวันนี้เห็นนายกฯทำท่าอะไรในช่วงถ่ายรูป นายกฯลุงตู่ ตอบทันทีว่าY2K” พร้อมโพสท่า Y2K โชว์สื่อ

งานนี้ถึง “ลุงตู่” จะไม่ใช่ Gen z แต่ก็ทำท่า Y2K ได้เป๊ะปังไม่แพ้หลานๆเลยจ้า ฮ่าๆๆ

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า

หนีแสงซะงั้น

ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม