การมาเยือนไทยของ นายกฯอันวาร์ อิบราฮิมในฐานะนายกรัฐมนตรีมีแง่มุมของบุคลิกและสาระแห่งการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ
สื่อมวลชนไทยมีความคุ้นเคยกับอันวาร์ไม่น้อยเพราะมีการสัมภาษณ์แลกเปลี่ยนกันมาหลายสิบปีนับตั้งแต่เขาเริ่มเล่นการเมืองในฐานะคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดและจุดยืนด้านเสรีนิยมและประชาธิปไตย
พออันวาร์เจอะเจอคนข่าวก็ทักทายตามประสาของคนหยอกล้อกันได้
อีกทั้งแม้ในการแถลงข่าวร่วมกับนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ไม่วายหยอดอารมณ์ขันเหมือนกัน
คุณเทพชัย หย่องแห่ง ThaiPBS ไปพบปะกับอันวาร์วันที่เขาให้สัมภาษณ์ และเขียนเล่าถึงบรรยากาศแลกเปลี่ยนกันวันนั้นว่า
“พวกคุณคงไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้ใช่มั๊ย” นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมถามผม ทันทีเราพบกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
กว่า 20 ปีที่อันวาร์ต้องอยู่ในห้วงเวลาที่มืดมนทางการเมืองที่ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะหลุดพ้นออกมาได้จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของมาเลเซีย...
“เราเคยสัมภาษณ์อันวาร์หลายครั้งในยุคที่อันวาร์ยังต้องดิ้นรนทางการเมืองจนต้องติดคุกติดตะรางอยู่หลายปี...
“นี่เป็นครั้งแรกที่พูดคุยกันในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี สองประเด็นสำคัญที่อันวาร์คุยกับในการสัมภาษณ์พิเศษ...”
อันดับแรกคือการแสดงความมุ่งมั่นที่จะช่วยประเทศไทยคลี่คลายสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ เมื่อเดือนที่แล้วอันวาร์ได้แต่งตั้งอดีตผู้บัญชาการกองทัพมาเลเซียมาเป็นผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุขในภาคใต้คนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่อันวาร์เชื่อมั่นว่ามีความเข้าใจปัญหาในพื้นที่เป็นอย่างดี
คุณเทพชัยบอกว่าประเด็นที่สองคืออันวาร์เรียกร้องให้อาเซียนช่วยกันหาหนทางใหม่ในการคลี่คลายความรุนแรงในเมียนมา เพราะอันวาร์เชื่อ “ฉันทามติ 5 ข้อ” ของอาเซียน และแนวปฏิบัติที่เรียกกันว่า constructive engagement ของอาเซียนไม่ได้ผลอะไรมากนัก
“นี่ถือได้ว่าเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากของผู้นำมาเลเซียที่พยายามบอกว่าตัวเองเป็นเพียง “น้องใหม่ (junior)” ในหมู่ผู้นำอาเซียน...
“ผมบอกกับอันวาร์ว่าผมไม่เคยลืมสิ่งที่ท่านเคยบอกผมไว้ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งเมื่อผมถามว่าอะไรเป็นบทเรียนทางการเมืองที่มีความหมายที่สุดของท่าน...
“อันวาร์ตอบผมว่า คุณต้องไม่อยู่ในตำแหน่งเบอร์สองนานเกินไป เพราะเบอร์หนึ่งจะระแวงคุณเสมอ และเบอร์สามก็พร้อมจะแทงคุณข้างหลังตลอดเวลา...
“ผมถามอันวาร์ว่าตอนนี้ท่านก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งแล้ว บทเรียนควรจะเป็นอะไร คำตอบของท่านเป็นสิ่งที่นักการเมืองไทยควรจะฟังไว้...
“อันวาร์ตอบว่า “ทำหน้าที่คุณให้ดี และทำทุกอย่างที่คุณสัญญาไว้กับประชาชน (you deliver)”
ข้อความนี้มีความหมายสำคัญมาก
เพราะอันวาร์กำลังบอกว่าเมื่อคุณขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งทางการเมืองของประเทศแล้ว ต้องลืมเรื่องการแก่งแย่งทางการเมืองและการดิ้นรนเพื่อจะอยู่ในอำนาจต่อไปนาน ๆ
ที่สำคัญที่สุดเมื่อคุณเป็นผู้นำของประเทศแล้วก็คือคุณต้องทำตามคำมั่นสัญญา
และ “ส่งมอบ” (deliver) ผลงานที่คุณรับปากเอาไว้ตอนหาเสียง
เพราะคุณเป็นคนอาสามาทำงานให้กับประชาชน เมื่อคุณได้โอกาสที่คุณร้องขอแล้ว คุณจะต้อง deliver ให้ได้
ไม่ใช่หาข้อแก้ตัวว่าทำไมจึงทำไม่ได้ตามที่คุณสัญญา แต่ต้องหาคำอธิบายให้ได้ว่าคุณจะทำอย่างไรจึงจะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงเพื่อที่จะสามารถทำให้คำมั่นสัญญาของคุณมีคามศักดิ์สิทธิ์และสร้างศรัทธากับประชาชนให้จงได้
ในแง่ของปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้นำไทยกับในฐานะเจ้าภาพและอาคันตุกะคนสำคัญจากเพื่อนบ้านทางใต้นั้นการต้อนรับขับสู้ก็เป็นไปในอย่างค่อนข้างอบอุ่นและเป็นกันเอง
รายงานจากทำเนียบรัฐบาลบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ให้การต้อนรับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และภริยา ในการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ระหว่างวันที่ 9-10 ก.พ.66 ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีพิธีต้อนรับตรวจแถวกองทหารเกียรติยศด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะลงนามในสมุดเยี่ยม และ เดินชมของที่ระลึกภายในห้องสีงาช้าง
จากนั้นผู้นำทั้งสองประชุมหารือทวิภาคีที่ตึกภักดีบดินทร์ ซึ่งมีหัวข้อหลัก ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะ 5 จังหวัดภาคใต้ของไทย กับ 4 รัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย
รวมถึงประเด็นการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และด้านคมนาคมขนส่ง และส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพระหว่างกัน
เช่น อุตสาหกรรมยางพารา อาหารฮาลาล พลังงาน และในมิติใหม่ ๆ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล และเทคโนโลยีสีเขียว
จากนั้น สองผู้นำร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแลกเปลี่ยนความตกลง 4 ฉบับ ได้แก่
1.บันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของข้อเสนอในการเสริมสร้างศักยภาพการเชื่อมต่อโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าระหว่างคาบสมุทรมาเลเซียและไทย
- บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับข้อเสนอในการร่วมมือสำรวจศักยภาพของเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนและการผลิตพลังงานในประเทศไทย
- บันทึกความตกลงเกี่ยวกับข้อเสนอในการแสวงหาโอกาสในการทำงานร่วมกัน การมีส่วนร่วม และการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- บันทึกความเข้าใจระหว่าง Malaysia Digital Economy Corporation SDN. BHD. (MDEC )และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ DEPA
ในการแถลงข่าวร่วมกัน ณ ตึกสันติไมตรีนั้นนายกฯประยุทธ์ กล่าวว่า เราเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด
“ดินแดนเราใกล้กัน หากเราแข็งแรงทั้งคู่ มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน การอยู่ร่วมกันก็สามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ”
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีการร่วมมือในการแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด
นายกฯไทยบอกว่าหวังว่าการพบปะกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเป็นการเริ่มต้นและกรุยทางให้มีการพบปะหารือระหว่างไทยกับมาเลเซียในทุกระดับให้มากยิ่งขึ้นอย่างใกล้ชิด ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ แก้ไขในสิ่งที่เป็นอุปสรรค และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองฝ่ายให้ก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนมาเลเซีย
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับว่า “ต้องรอเป็นปีถึงจะได้ไปเยือน” ทำให้นายอันวาร์ ตอบกลับว่า
“ไม่ต้องรอ มันไกลเกินไป เป็นเดือนเป็นปี ถ้ามีโอกาสมาได้ เพราะผมก็มาทุกปีอยู่แล้ว แม้แต่ช่วงโควิดก็เดินทางเข้ามา”
คำตอบของนายกฯอันวาร์ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับยิ้มกว้าง พร้อมกับกล่าวว่า
“ไทยกับมาเลเซียเปรียบเป็นแผ่นดินทองและเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เป็นความจริงที่ว่าอันวาร์มักจะแวะเวียนมาเยี่ยมไทยเป็นประจำทั้งในฐานะนักการเมือง, นักวิชาการและนักวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองและภูมิภาค
ผู้นำไทยในระดับต่าง ๆ ก็ควรจะต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านให้ครบทุกมิติเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


