'มรดกนายกฯ ประยุทธ์'

นายกฯ บอกใกล้ "ยุบสภา"

ความจริง ถึงวันนี้แล้ว "ไม่ยุบ" ก็เหมือนยุบ คือถึง ๒๔ มีนา.ก็ "สิ้นวาระ" ไปด้วยกัน ทั้งสภาและรัฐบาล

ประเทศชาติ เหมือน "ครอบครัวใหญ่" ครอบครัวหนึ่ง ที่มีรัฐบาลเป็นหัวหน้าครอบครัว

ต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตความเป็นอยู่สมาชิกในครอบครัวซึ่ง "เป็นมนุษย์" ไม่ใช่ "หมาในคอก" ร่วม ๗๐ ล้านคน!                  

เมื่อผู้นำครอบครัวบอก "ใกล้ยุบสภา" ก็หมายความว่า

นายกฯ จะพ้นหน้าที่ "ผู้นำครอบครัว" (ชั่วคราว) ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว

ฉะนั้น วันนี้ มา "ชำระบัญชี" คร่าวๆ ซิว่า

ประเทศภายใต้บริหาร ๘ ปี พลเอกประยุทธ์ สร้างอะไรที่เป็นความงอกเงยให้ "ครอบครัวประเทศไทย" นี้ไว้บ้างหรือไม่?

และสุทธิประเทศ "กำไร" หรือ "ขาดทุน"?

ยกรัฐบาล "ระบอบทักษิณ" นั่นแหละเป็น "คู่เทียบ" เพราะฐานตัวเลขบริหารประเทศพอๆ กัน

ต่อไปนี้ เป็นข้อมูลรวบรวมจากแต่ละผู้รู้โพสต์ไว้

...........................................

Natchapong Thaksinsalai

ข้อแตกต่างระหว่าง รบ.ยุคทักษิณ vs รบ.นายกประยุทธ์-GDP ยุคทักษิณ 8.8 ล้านล้าน

-GDP ปัจจุบัน 16 ล้านล้าน โตอันดับ 24 ของโลก

-ตอนรัฐประหาร เงินหมดคลัง ตอนนี้มี 9 ล้านล้าน อันดับ 12 ของโลก

-ส่วนหนี้ ปี 65 มีอยู่ 10 ล้านล้านบาท

ที่ใครๆ คิดว่า รบ.นี้ กู้ทั้งหมด 10 ล้านล้าน ความจริงคือ

เป็นมรดกหนี้ที่รับมาจากพรรคเพื่อไทยตอนรัฐประหารราว 6 ล้านล้าน

เท่ากับว่า รัฐบาลนี้ สร้างหนี้ราว 4 ล้านล้าน

ในนั้น เป็นงบจัดการโควิดราว 2 ล้านล้าน ที่เหลือ 2 ล้านล้าน ที่ใช้ไปคือ สิ่งปลูกสร้างรอบประเทศมากมายมหาศาล

เมื่อเทียบกับพรรคเพื่อไทย ใช้เงินราว 6 ล้านล้าน

ได้สนามบินมาอันเดียว และเป็นโครงการสมัย "นายกฯ ชวน" ไม่ใช่ทักษิณ

-ประยุทธ์ซื้อทองรวม 90 ตัน ไปค้ำประกันค่าเงินบาท (เพื่อลดความผันผวนค่าเงินบาท)

ปี 64 ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ซื้อทองคำเป็นค้ำประกันค่าเงินเยอะที่สุด 

ส่วนยุคทักษิณ ไม่เคยมีเงินไปซื้อของพวกนี้มาพยุงค่าเงินประเทศเลยสักครั้ง!!

-ประเทศมีถนนหนทางเต็มบ้านเต็มเมือง กูเกิลมาดูทั้งวันก็ไม่หมด

-ประเทศไทยมีเรือดำน้ำที่สร้างเอง (ชาละวันคลาส)

-ประเทศไทยสร้างตู้รถไฟเอง

-ประเทศไทยมีดาวเทียมเอง (ดาวเทียมนภา)

-ประเทศไทยมีเงินสำรองและทองคำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย อันดับ 1 ในอาเซียน อันดับต้นๆ ของโลก

-ประเทศไทยได้รับรางวัลเนลสันฯ  ด้านการสาธารณสุขที่ดีที่สุด อันดับต้นๆของโลก

-ประเทศไทยมีเงินใช้หนี้ 2.9 ล้านล้านบาท

-ประเทศไทยใช้หนี้ต่างประเทศที่คนเก่าก่อไว้ราว 6 แสนล้าน เหลือเพียง 1.7 แสนล้านในปัจจุบัน

-ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี

-ประเทศไทยมีงบพัฒนาภาคอีสานภาคเดียว มีงบพัฒนาถึงหลักล้านล้านบาท จากที่ไม่เคยมีใครพัฒนาภาคอีสานได้เท่านี้มาก่อน

-ประเทศไทยพัฒนาทุกอย่างในโครงสร้างพื้นฐาน จนพัฒนามากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยหลังยุคอดีต "นายกฯ เปรม" มา

-ประเทศไทยยุคประยุทธ์ มีเงินใช้หนี้คนปล้นเงินชาวนา ทุกปีๆ ปีละ 3 หมื่นกว่าล้านด้วยนะ พูดง่ายๆ คือตามล้างตามเช็ดนายกเก่าๆ ที่โกงชาติแล้วหนีไป

-ประเทศไทยยุคประยุทธ์ 8 ปี ผ่านไป การเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้น แตะอันดับที่ 24 ของโลก

https://www.worlddata.info/largest-economies.php

ตัวเลขทุกอย่างมีข้อมูลชี้วัดหมด ดูกูเกิลได้เลย

.......................................

ทีนี้ มาดูการลงทุนด้านอุตสาหกรรมนวัตกรรมสู่อนาคตใหม่ "โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก" ที่เรียก EEC ซึ่งรัฐบาลประยุทธ์ "ริเริ่ม-บุกเบิก" บ้าง

............................

ลงทุนแมน

โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC ช่วง ๖๑-๖๕

-จีน ลงทุน ๒๐๖,๙๗๙ ล้าน (รถยนต์, ส่วนประกอบ)

-ญี่ปุ่น ๑๕๘,๖๓๒ ล้าน (รถยนต์,ส่วนประกอบ)

-สหรัฐฯ ลงทุน ๕๐,๓๒๔ ล้าน (อุตสาหกรรมดิจิทัล)

-ฝรั่งเศส ลงทุน ๑๕,๔๐๖ ล้าน (อุตสาหกรรมการแพทย์)

-เยอรมัน ลงทุน ๘,๕๔๓ ล้าน (ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์)

รวม ๔๓๙,๘๘๔ ล้านบาท แยกเป็นที่ลงทุน

-ระยอง ๒๔๔,๗๕๑ ล้านบาท

-ชลบุรี ๑๖๗,๐๔๙ ล้านบาท

-ฉะเชิงเทรา ๒๘,๐๘๓ ล้านบาท

........................................

นี่..ยังไม่นับที่อยู่ระหว่างเจรจาอีกมาก รวมทั้ง "ซาอุดีอาระเบีย" ที่แจ้งความประสงค์มาแล้วขณะนี้                 

จะลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, อุตสาหกรรมเมดิคัล, อุตสาหกรรมน้ำมัน และปิโตรเคมี

ด้วยเงินทุนกว่า ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท!

ยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี)ด้วยแล้ว แน่นอนว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตในอาเซียน

ปตท.ของไทยเรา ก็ "ร่วมทุน" กับบริษัทข้ามชาติ

ทั้งผลิตรถทั้งผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเดินหน้าเต็มตัวแล้วขณะนี้

..................................

ตบท้ายด้วยผลงาน "รัฐบาลลุงตู่" ถากถางเส้นทางอนาคตประเทศด้านคมนาคมพื้นฐาน

นับจาก "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๕ ทรงวางรากฐานด้าน "รถไฟ" ไว้ให้แล้ว

นับจากนั้น ........

จนถึงรัชสมัยที่ ๙ และที่ ๑๐ รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันมีพลเอกประยุทธ์เป็นผู้นำรัฐบาลนี่แหละ

เส้นทางรถไฟจึงได้ "ต่อยอด" ขยายจากศตวรรษสู่ศตวรรษ นอกจากเส้นทางรถไฟธรรมดาที่พัฒนาจากรางเดี่ยวเป็นรางคู่แล้ว ยังได้ก่อสร้างเส้นทางสายใหม่

"เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ" และสาย "บ้านไผ่-นครพนม"

ยังไม่นับ รถไฟฟ้า "บนดิน-ใต้ดิน" ในกทม.ที่ขยายเป็นใยแมงมุม จากในกรุงออกไปชานกรุง

และนี่ คือ มรดก "๘ ปี รัฐบาลประยุทธ์" ที่เป็นหลักฐานตบหน้าใครต่อใครที่ตะโกนว่า...๘ ปีประยุทธ์ทำประเทศล้มเหลว-ล้าหลัง....อ่านดู

.........................

แบ่งปัน วันดีดี

มาติดตามสถานะของรถไฟความเร็วสูงกัน ว่าปัจจุบันไปถึงไหนแล้ว

#รถไฟความเร็วสูง มีแผนสร้าง 8 โครงการ

ระยะทางรวม 2,466 กม. แบ่งออกเป็น 3 ระยะ

------------

 (dartboard) ระยะเร่งด่วน ข้อมูล ณ สิ้นปี 2565

 (one). กรุงเทพฯ-นครราชสีมา (253  กม.)

อยู่ระหว่างก่อสร้าง (เฉพาะช่วงที่คืบหน้ามากที่สุด)

-ช่วงกลางดง-ปางอโศก (3.5 กม.) คืบหน้า 100%

-ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก (11 กม.) คืบหน้า 96%

-ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด (37.45 กม.) คืบหน้า 46%

-ช่วงสระบุรี-แก่งคอย (12.99 กม.)คืบหน้า 32.53%

 (two). เชื่อมสามสนามบิน (220 กม.)

-อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จ 2571

-เริ่มก่อสร้าง ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา พ.ค.65

-เริ่มก่อสร้าง ช่วงดอนเมือง-พญาไท ต.ค.66

 (three). นครราชสีมา-หนองคาย (355 กม.)

-รฟท.ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ

-อยู่ระหว่างการพิจารณา EIA

 (four). กรุงเทพฯ-พิษณุโลก (380 กม.)

-ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น

-ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการลงทุน

-EIA ได้รับความเห็นชอบแล้วเมื่อ 6 ก.ค.60

-------------

 (dartboard) ระยะกลาง 2565-2569

 (five). กรุงเทพฯ-หัวหิน (211 กม.)  

- รฟท.ของบประมาณปี 68 จัดจ้างที่ปรึกษาทบทวน

-ผลการศึกษาเดิม ช่วง #กรุงเทพฯ #หัวหิน และศึกษาความเหมาะสม ช่วงหัวหิน #สุราษฎร์ธานี

 (six). พิษณุโลก-เชียงใหม่ (288 กม.)

-ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น

-รอความชัดเจนในระยะที่ 1 กรุงเทพฯ #พิษณุโลก

-EIA ได้รับความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 27 มี.ค.62

------------

 (dartboard) ระยะยาว 2570-2579

 (seven). หัวหิน-สุราษฎร์ธานี (424 กม.) 

-รฟท.ของบประมาณปี 68 จัดจ้างที่ปรึกษาทบทวน

-ผลการศึกษาเดิม ช่วงกรุงเทพฯ-หัวหิน และศึกษาความเหมาะสม ช่วงหัวหิน-สุราษฎร์ธานี

 (eight). สุราษฎร์ธานี-ปาดังเบซาร์ (335 กม.) 

-ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นแล้วเสร็จ

-รฟท.ของบประมาณปี 69 จัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมโครงการ

#ลุงตู่ ผู้พลิกโฉมประเทศไทย #ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ

credit : สายตรงข่าวกรอง

.................................

เอ้า...ใครจะเคลมก็...เชิญ!

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

๑ หมื่น 'ไม่ลื่นคอ' นะจ๊ะ

ปกติจ้อจน "จ๋อลพบุรี" ตกต้นไม้ แต่พอถึงเรื่อง "เงินแจก ๑ หมื่น" ชาวบ้านที่ไม่ต่างแมวถูกเศรษฐาเอาปลาย่างทาจมูก ต่างรอฟังผลประชุม ครม.ตกลงจะเคาะแจกวันไหน?

"ขายเพื่อน" ใครจะคบ?

"บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล"สมแล้ว ที่มีคนเรียก "เทพโจ๊ก" บ้าง "มารโจ๊ก" บ้าง "แมวเก้าชีวิต" บ้าง "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" บ้าง

'เรามาปฏิวัติกันเถอะ'

รัฐบาลนี้.... ในจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด ๓๓-๓๔ คน มี "ใหญ่จริง" ที่ได้รับการซูฮกยกเป็น "บิ๊ก" มีอยู่คนเดียว