
เสถียรภาพทางการเงินโลกขณะนี้ถือว่าอยู่ในจุดสุ่มเสี่ยง หลังจากเริ่มเห็นสถาบันการเงินหลายแห่งเข้าสู่ภาวะล้มละลายและต้องปิดตัวลง ไล่มาตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงยุโรป
อย่างล่าสุด นางคริสตาลินา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนว่า ขณะนี้ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินกำลังเพิ่มสูงขึ้น และจำเป็นในการเฝ้าระวังหลังจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับภาคการธนาคาร
“ความไม่แน่นอนนั้นสูงเป็นพิเศษ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอในระยะกลาง เป็นที่ชัดเจนว่าความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาที่ระดับหนี้สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมาก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ แต่มันก็สร้างความตึงเครียดและความเปราะบางอย่างเลี่ยงไม่ได้ เห็นได้จากพัฒนาการที่เกิดขึ้นในภาคการธนาคารในประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้ว” จอร์จีวากล่าว
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มทบทวน ส่งสัญญาณการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเฟดเพิ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุม ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.2565
อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่แสดงความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารสหรัฐ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอีกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
ตัดมาที่บ้านเราในการประชุม กนง.ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 มี.ค.ก็ได้จับตาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน โดยมีการแสดงความเห็นในหลากหลายด้าน
อย่างทาง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ระดับ 1.75% อย่างไรก็ดีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้อาจเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นนี้ ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับแรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกเริ่มลดลง เนื่องจากธนาคารกลางหลักอย่าง Fed เริ่มส่งสัญญาณเตรียมหยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้
ขณะที่ทางด้าน อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมองว่า ธปท.ยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากไทยยังเจอกับปัญหาหนี้สินที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับความเสี่ยงจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินโลก ทำให้ กนง.ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนใดๆ ที่จะรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลานี้
แต่สุดท้ายแล้วต้องวัดใจกับทางคณะกรรมการ กนง. ว่าจะวัดน้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้อย่างไร ในเมื่อดูเหมือนว่า เงินเฟ้อที่เป็นปัญหาหลักของไทย เราก็คลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สูงวัยใช้เน็ตโตพุ่งกว่า3เท่า
เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของผู้คน เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัยก็ไลฟ์สไตล์ที่มีโลกดิลิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนหน้าหลายคนอาจจะมองว่าสูงวัยอาจจะไม่ทันโลก ตามเทรนด์ไม่ทัน
เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม
เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

