เขาคือใคร: ซีอีโอ TikTok ชาวสิงคโปร์ที่ถูก ส.ส.มะกัน ‘บี้’?

เพราะคนไทยใช้ TikTok กันอย่างร้อนแรง ผมจึงสนใจว่าถ้าโลกตะวันตกประกาศแบน app นี้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและศีลธรรม จะเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทแม่ที่ชื่อ ByteDance?

และซีอีโอหนุ่มชาวสิงคโปร์ที่ชื่อ Shou Zi Chew คนนี้คือใครกันแน่

จึงกล้าหาญชาญชัยเข้าถ้ำเสือให้ ส.ส.มะกันขยี้ด้วยคำถามดุดันอย่างเมามัน

มีอยู่ตอนหนึ่งที่เขาถูก ส.ส.มะกันหัวร้อนคนหนึ่งซักไซ้อย่างหนักว่า ทำไมบริษัทจีนจึงพยายามจะมาบ่อนทำลายความมั่นคงของสหรัฐฯ

นายชิวตอบว่า “ผมเป็นคนสิงคโปร์นะครับ”

นายชิวคนนี้มีประวัติที่น่าสนใจไม่น้อย

ในฐานะเป็นผู้บริหารสูงสุดของ TikTok ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ByteDance นายชิวปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (23 มี.ค.)

เพื่อพยายามคลายข้อกังวลของฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ที่เชื่อว่า app นี้เปิดทางให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ของสหรัฐฯ ได้

โดยที่การซักฟอกครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในเกือบจะทุกๆ มิติ

TikTok กลายเป็นหนึ่งในตัวละครแห่งการเผชิญหน้าของมหาอำนาจ

และหนุ่มนักบริหารสิงคโปร์คนนี้ต้องมายืนอยู่ตรงกลางของพายุร้ายนี้

นายชิวเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนานาชาติ Hwa Chong ที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์

เขาเรียนต่อปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก  University College London ในปี 2006

เริ่มทำงานหลังจบจากมหาวิทยาลัยที่ Goldman  Sachs เป็นเวลาสองปีในตำแหน่งวาณิชธนกิจ

จากนั้นก็เข้าเรียนหลักสูตรปริญญาโทบริหารธุรกิจ  (MBA) ของ Harvard Business School

และเจอกับหญิงสาวที่ต่อมาเป็นภรรยาคือ วิเวียน คาโอ  มีลูกด้วยกันสองคน

ต่อมาชิวก็เริ่มสนใจงานด้านเทคโนโลยีในฐานะเด็กฝึกงานที่บริษัทสตาร์ทอัป ชื่อ Facebook

จากนั้นเขาก็เข้าร่วมบริษัทร่วมทุนและเป็นผู้นำการลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน เช่น  JD.com, Alibaba, Xiaomi และมาลงที่  ByteDance ในภายหลัง

ในปี 2015 ชิวเข้าร่วมงานกับบริษัทสมาร์ทโฟน  Xiaomi ของจีนในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน

หลายปีต่อมาได้ช่วย Xiaomi ออกแบบหนึ่งในเทคโนโลยีที่เสนอขายต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก

ที่ฮือฮามากเพราะการเสนอขาย IPO ของ Xiaomi  ตอนนั้นมีมูลค่าใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน

เมื่อ ByteDance เสนอให้เขานั่งตำแหน่ง CFO  (ประธานบริหารด้านการเงิน) ในเดือนมีนาคม 2021 เขาก็ตกลงเกือบจะทันที

จากนั้นเขาก็ได้รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว

เพราะแค่เพียงสองเดือนต่อมา เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็น  CEO ของ TikTok

โดยผู้ก่อตั้งคือ Zhang Yiming ยกย่อง "ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทและอุตสาหกรรม" ของหนุ่มชาวสิงคโปร์คนนี้

ต่อมาในปีเดียวกันนั้น ชิวก็ก้าวลงจากตำแหน่งที่  ByteDance เพื่อมุ่งความสนใจไปที่ผู้นำ TikTok  ในฐานะซีอีโอตำแหน่งเดียว

โดยมาแทน Kevin Mayer ผู้บริหารชาวอเมริกันและอดีตผู้บริหาร Disney ที่ตัดสินใจลาออกเพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ เกี่ยวกับความกังวลด้านความปลอดภัยนี่แหละ

นักวิเคราะห์ตะวันตกบางคนเชื่อว่า นายชิวถูกเลือกให้มานั่งตำแหน่งนี้เพื่อคร่อมโลกธุรกิจตะวันตกและจีน

ความที่เขาเป็นชาวสิงคโปร์ก็อาจจะช่วยลดความเสี่ยงจากแรงกดดันทางการเมืองจากทั้งจีนและสหรัฐฯ

เหมือนจะเป็นการบอกว่า การให้นายชิวมาสวมตำแหน่งนี้เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า TikTok ต้องการหลีกเลี่ยงการถูกจับเป็นเครื่องมือของการเผชิญหน้าระหว่างสองยักษ์ใหญ่

แต่บางคนก็มองว่า ความจริงนายชิวได้รับการเสนอให้นั่งตำแหน่งนี้ไม่ใช่เพราะสัญชาติของเขา

หากแต่เป็นเพราะเขามีฝีมือในด้านการตลาดและกลยุทธ์ของบริษัทเทคโนโลยีจริง

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ชิวกำลังเผชิญอยู่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงในปัจจุบัน ที่ผู้มีบทบาทภาคเอกชนข้ามชาติถูกดึงเข้าสู่ประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และจมอยู่ในความขัดแย้งหรือการแย่งชิงอิทธิพลระหว่างมหาอำนาจ

นายชิวเปิดตัวในตำแหน่งนี้อย่างคึกคัก ให้สัมภาษณ์สื่อนานาชาติและร่วมเสวนาในเวทีต่างๆ เกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีและ TikTok อย่างเปิดเผย

ท่ามกลางบรรยากาศที่ทวีความเข้มข้นในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่สั่งห้ามการใช้งานแอปนี้บนอุปกรณ์ของรัฐบาล

เมื่อปลายปีที่แล้ว ByteDance ยอมรับว่าพนักงานบางคนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ TikTok ของนักข่าวสองคนในสหรัฐฯ “อย่างไม่เหมาะสม”

เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลบริษัท

ก่อนจะเข้าถูกซักถามโดยกรรมาธิการ House  Energy and Commerce Committee ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นายชิวแถลงว่า TikTok ซึ่งมีผู้ใช้ชาวอเมริกันมากกว่า 150 ล้านคน “ไม่เคยและจะไม่มีวันแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้ของสหรัฐฯ แก่รัฐบาลจีน”

และยืนยันว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐใดๆ ของจีนไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมกิจกรรมของ ByteDance  บริษัทแม่ของ TikTok

“ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า ByteDance ไม่ใช่ตัวแทนของจีนหรือประเทศอื่นใด” เขายืนยัน

แต่คนที่ไม่เชื่อก็ยืนยันว่า ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีน TikTok และ ByteDance ก็เหมือนกับบริษัทจีนอื่นๆ ที่ต้องส่งมอบข้อมูลให้รัฐบาลจีน

และแม้ว่าจะไม่ละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยตรง แต่ก็ยังมีความกังวลจากบางฝ่ายว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะมีการส่งผ่านด้วยวิธีลับอื่นๆ

การเป็นชาวสิงคโปร์ของนายชิวจะช่วยทำให้ ส.ส.มะกันเบามือในการฟาดฟัน TikTok หรือไม่

ถ้าฟังจากการแลกเปลี่ยนอย่างร้อนแรงในสภาสหรัฐฯ วันก่อน คำตอบคือไม่มีผลอะไรเท่าไหร่เลย

ความคาดหวังที่ว่านายชิวจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างจีนและสหรัฐฯ นั้นเป็นเพียงความหวังเท่านั้น

เพราะเอาเข้าจริงๆ แม้ว่านายชิวจะย้ำกับ ส.ส.มะกันว่า  “ผมเป็นชาวสิงคโปร์นะครับ” เพื่อส่งสัญญาณว่าเขาไม่ได้เป็นคนจีนที่จะตกอยู่ภายใต้คำสั่งของปักกิ่งทุกเรื่อง แต่จะมีนักการเมืองอเมริกันสักกี่คนจะรู้ความแตกต่างระหว่างคนหน้าตาจีนกับสิงคโปร์?

เมื่อเงื้อดาบจะฟันแล้ว ส.ส.มะกันก็ไม่ยั้งมือเหมือนกัน

สงคราม TikTok จึงจะร้อนแรงต่อไป

เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่ app นี้เท่านั้น

หากแต่อยู่ที่อารมณ์ที่ยังค้างเติ่งของนักการเมืองมะกันต่อจีนในภาพใหญ่ที่ไม่อาจจะลบออกไปได้ง่ายๆ

ไม่ง่ายเหมือนสั่งให้ลบ TikTok จากมือถือแน่นอน!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำไมยูเครนเรียกร้องอยากได้ขีปนาวุธ Taurus ของเยอรมนี?

ทำไมขีปนาวุธระบบ Taurus ของเยอรมนีจึงได้รับการกล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง...โดยเฉพาะที่ยูเครนขอให้ส่งไปให้เพื่อรบกับรัสเซียเป็นพิเศษ?

เมื่อจีนกับอเมริกาทำ สงคราม TikTok!

สงคราม TikTok ระหว่างสหรัฐฯกับจีนเดือดขึ้นมาอย่างรุนแรงเมื่อสภาผู้แทนราษฎรที่วอชิงตันลงมติด้วยคะแนนท่วมท้นที่จะแบน apps อันโด่งดังระดับโลก

คดีปราบฉ้อฉลเอกชนระดับชาติ ที่เวียดนามดังเปรี้ยงปร้าง!

จีนกับเวียดนามมีแนวทางตรงกันอย่างหนึ่งในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนทางเศรษฐกิจ นั่นคือการปราบคอร์รัปชั่นในแวดวงการเมือง, ราชการและแม้ในภาคเอกชน