สวมบทพิธีกร

เข้าสู่ช่วงเดินสายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง ที่จัดคิวเดินสายลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยกันคึกคัก รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 2

ซึ่งนอกจากจะมี 2 แคนดิเดตนายกฯ ที่เป็นขุนพลคนสำคัญในการนำทัพแล้ว ยังมี “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ขณะนี้ลุยพื้นที่กรุงเทพฯช่วยผู้สมัครหาเสียงไม่หยุด ล่าสุดไปขึ้นรถแห่ช่วยผู้สมัครเขตคันนายาว-บึงกุ่ม ที่สวนเสรีไทย หมู่บ้านสหกรณ์ วัดสันติอโศกและโครงการเอื้ออาทรบึงกุ่ม คึกคักเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา

และด้วยความที่เป็นเลขาธิการพรรค ตำแหน่งที่เปรียบเสมือนแม่บ้านของพรรค มีงานรัดตัวเป็นธรรมดา เลขาฯขิง เลยควบหลายหน้าที่ รวมถึงหน้าที่พิธีกรของพรรค ด้วยความที่เจ้าตัวมีความสามารถในการพูด บวกกับลงมือทำงานจึงทำให้ทราบข้อมูลต่างๆดี เวทีขึ้นเวทีคือพูดคล่องแคล่วฉลุยทุกงาน จึงได้รับความไว้วางใจ ไม่ว่างานไหนงานนั้นได้เห็นเลขาฯขิงจับไมโครโฟนแทบทุกงาน ซึ่งหลายคนก็สงสัยทำไมพรรครวมไทยสร้างชาติถึงไม่มีพิธีกร?

ล่าสุด ในงานสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 400 เขต พร้อมเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งเลขาฯขิงก็สวมบทพิธีกร จนช่วงหนึ่งในการสัมมนา“หัวหน้าพรรค”กล่าวกับผู้สมัคร ส.ส.ว่า

“เวลาพรรคมีงานทุกครั้งคนจะถามว่าพรรคเราไม่มีพิธีกรหรอ ทำไมมีแต่เลขาธิการพรรคฯทำหน้าที่พิธีกร เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคของคนธรรมดาไม่ใช่พรรคของคนยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ช่วยกันทำงานแบบเพื่อนพี่น้อง กฎหมายบอกให้มีตำแหน่งก็มีไป แต่ในการทำงานของพวกเราไม่มีแบ่งว่าใครเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้า ทุกคนทำงานเป็นเบ้ของพรรคทั้งหมด เป็นพรรคที่ทุกคนเท่ากัน ช่วยกันทำงาน”

ถึงตอนนี้ “รวมไทยสร้างชาติ” จะมีขยับปรับทัพ ประกาศตำแหน่งใดๆก็ตาม แต่ตำแหน่งพิธีกร มือ 1 ยังไม่มีใครแทนที่ “เลขาฯขิง” ได้เลย ฮ่าๆๆ

 

 

บรรจง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า

หนีแสงซะงั้น

ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม