บันทึกหน้า 4

เรียกน้ำย่อยนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังกลุ่ม 3 นิ้วป่วนเวทีปราศรัยใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่ากันเรื่องถูกผิด 3 นิ้วเล่นบทนักเลงโต บุกท้าต่อยพรรคพลังประชารัฐถึงหน้าบ้าน เมื่อปะทะกัน 3 นิ้วผิดเต็มๆ เขาเรียกว่ารังควาน สร้างความน่ารำคาญ โดยสุจริตชน การไปขอให้ผู้อื่นเห็นด้วยกับตนเอง ควรไปอย่างสุภาพ แต่ 3 นิ้วไปแล้วท้าตีท้าต่อย หนำซ้ำกลับมาโอดครวญว่าถูกรังแก ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายรนหาที่ พรรคก้าวไกลนี่ก็เช่นกัน ยุเด็กก็ควรระวังวันข้างหน้ามีคนเห็นต่างบุกไปป่วนเวทีปราศรัย ถึงวันนั้นจะยังบอกว่าพรรคการเมืองรังแกประชาชนอยู่หรือเปล่า ...๐

งานนี้ "ลุงป้อม" เล่นได้เหนือกว่า วิดีโอคอลคุยกับประชาชนว่า ได้กำชับแกนนำพรรครวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน ห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด หากกลุ่มผู้ประท้วงเข้ามาในพื้นที่หาเสียงให้เชิญมาพูดคุยทำความเข้าใจ

เพราะต้องรักษาบรรยากาศที่ดีไว้ และรอประชาชนตัดสินผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ส่วนใครทำผิด-ทำถูก สังคมพิจารณาได้ แต่สมาชิกพรรคอย่าทำผิดกฎหมายและอย่าใช้ความรุนแรง สรุปคือไม่เสียแรงที่ประกาศนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ...๐

อีกประเด็นที่น่าสนใจของ "ลุงป้อม" คือ การขึ้นเวทีดีเบต ก็ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่านักการเมืองพดเก่งย่อมได้เปรียบ แต่ก็ยังมีความพยายาม ดันหลัง "ลุงป้อม" ดีเบตให้ได้ หวังให้ตายคาเวที งานนี้ "ลุงป้อม" ถึงต้องออกลีลาสื่อสารทางเดียวผ่านเฟซบุ๊กแทน

...ประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะนำมาแลกเปลี่ยนกัน คือ “ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ” ตามความหมายดังกล่าว “วัดด้วยอะไร” วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของประชาชนในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน การกำหนดเครื่องชี้วัด “ประสิทธิภาพผู้นำ” จะต้องแตกต่างกันด้วยหรือไม่ “ความรู้ ความสามารถ ความมีประสิทธิภาพของผู้นำ” ประชาชนสัมผัสได้ด้วยอะไร ด้วยวิธีไหน จริงอยู่ “การพูด” เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้โชว์ความรอบรู้ให้ประชาชนได้รับทราบถึง “ประสิทธิภาพผู้นำ” แต่ "การพูด” ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะทำให้ประชาชนรับรู้ถึงความสามารถ ความมีประสิทธิภาพของผู้นำ....การยืนยัน “ความรู้ความสามารถ” ด้วย  “การพูด” ว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่เชื่อได้น้อยที่สุด...ผู้นำที่ทำให้ประเทศจีนเจริญรุ่งเรืองก้าวขึ้นสู่มหาอำนาจ อย่างท่านประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ก็ไม่ต้องแสดงความสามารถที่เหนือกว่าด้วยการดีเบตกับใคร...

สรุปคือ "ลุงป้อม" จะไม่ขึ้นเวทีดีเบตเป็นอันขาด เพราะรู้ว่าเสียเปรียบนักการเมืองพูดเก่ง อีกประการคือ การดีเบตไม่ใช่ทั้งหมดของการเลือกตั้ง สังเกตได้จากนักการเมืองพูดเก่งแต่ตกม้าตายมาแล้วก็เยอะ ฉะนั้นการกระทำย่อมสำคัญกว่าอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาใครทำอะไรประชาชนจำได้มากกว่าใครเคยพูดอะไร ...๐

"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" มาในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล แต่บทบาทจริงๆ คือเจ้าของพรรคตัวจริง วันนี้ "ธนาธร" ยังโอดครวญเรื่อง io ทำลายพรรคก้าวไกล "ยังมีความพยายามปล่อยข่าวปลอมออกมาทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคก้าวไกล มีขบวนการไอโอที่ทำอย่างเป็นระบบ ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องขอแรงทุกคนร่วมต่อสู้ไปกับพรรคก้าวไกลด้วยกัน ในการขยายความคิดไปสู่คนให้มากที่สุดให้ได้" ถ้าพูดในแง่โซเชียล ไม่มีพรรคการเมืองไหนได้รับความนิยมในโซเชียลมากไปกว่าพรรคก้าวไกลอีกแล้ว การที่ "ธนาธร" บ่นเรื่องถูกโจมตีในโซเชียลจึงออกจะแปลกๆ อยู่ไม่น้อย เพราะกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลใช้โซเชียลโจมตีการเมืองฝั่งตรงข้ามอย่างบ้าคลั่งมานานแล้ว แบบนี้เขาเรียกว่างอแง ...๐

ไปดูนโบยายพรรคชาติพัฒนากล้ากันบ้าง เพราะน่าสนใจไม่น้อยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย "กรณ์ จาติกวณิช" หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ชูมาจากบ้าน นโยบายด้านการเกษตรคือ การปฏิรูประบบสหกรณ์ ตอบโจทย์ข้อจำกัดของเกษตรกร "กรณ์" อธิบายว่า วิธีการคือพัฒนาให้เป็นบริษัทที่มีความทันสมัยและสามารถดูแลเกษตรกรในแต่ละประเภทของพืชผล เช่น เราอาจจะมีสหกรณ์ข้าวหอมมะลิ สหกรณ์ทุเรียน สหกรณ์ยางพารา สหกรณ์สินค้าประมง ฯลฯ เพราะการรวมตัวคืออำนาจการต่อรองที่เกษตรกรจะมี ณ วันนี้เขาขาดเรื่องนี้ การปัดฝุ่นสหกรณ์ให้ทันสมัยอีกครั้งจึงน่าสนใจทีเดียว ...๐

 “นิด้าโพล” มาอีกแล้ว สำรวจ “คนสมุทรปราการเลือกพรรคไหน” ผลปรากฏว่า ส่วนใหญ่เลือก "อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร" เป็นนายกฯ เลือก ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์จากพรรคเพื่อไทย  ตามมาห่างๆ คือก้าวไกล และรวมไทยสร้างชาติ หากเป็นไปตามนี้ทุกจังหวัด เพราะทุกจังหวัดที่นิด้าโพลสำรวจมา ผลคล้ายๆ กันหมด พรรคเพื่อไทยคงแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.ครึ่งสภา ตั้งรัฐบาลกับก้าวไกลแค่ 2 พรรคก็ปิดบัญชีได้  ไว้ให้นิด้าโพลสำรวจอีกทีว่าจะให้ใครเป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน และประเทศไทยจะได้บริหารกันด้วยโพล ...๐

 

ณ ประชาชื่น 46

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่ายังคงเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” อย่างต่อเนื่องทั้งในโลกความจริงและโลกเสมือน โดยเฉพาะในโซเชียลต่างๆ จาก การเสียชีวิตของ “น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม” หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” โดยงานนี้ใครสนใจที่มาที่ไปว่าทำไมบุ้งถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้

บันทึกหน้า 4

สหายอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ของขึ้น! หาว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ข้าวสารค้างสต๊อก 10 ปีในโครงการจำนำข้าว เป็นการด้อยค่าโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง พร้อมขู่จะใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จัดการ

บันทึกหน้า 4

การดึงพืชกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แม้ฉากหน้าบรรดาแกนนำของสองพรรค “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย

บันทึกหน้า 4

เปิดบันทึกช่วงเวลาฝนตกฟ้าร้อง แม้ยังไม่ย่างเข้าเดือนหก แต่เสียงร้องระงมแซงเสียงกบ..อ๊บๆ ก็หึ่งไปทั่วว่าด้วยอีเวนต์กินโชว์ "ข้าว 10 ปี" กินได้กินดี แต่ลงท้ายกลายเป็น "ข้าวเน่า" ไปเสียฉิบ!! เพราะเกิดคำถาม "ได้ไม่คุ้มเสีย" ชื่อเสียงข้าวไทยป่นปี้เละเทะเป็นโจ๊กไปเรียบร้อยแล้ว

บันทึกหน้า 4

ปรับ "ครม.เศรษฐา 2" ไม่ทันไร ไขก๊อกไปแล้ว 2 ราย คนแรก "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" กลับโดนลดตำแหน่งโดยไม่แจ้งกันล่วงหน้า ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีที่มีผลงาน เจอวิถีการเมืองไร้มารยาทแบบนี้จำต้องโบกมือบ๊ายบาย

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่า “เศรษฐา 1/1” ดูฤกษ์พานาทีแล้วบอกได้คำเดียวว่าท่าจะอยู่ไม่ยาวเสียแล้ว แค่การถ่ายภาพหมู่บนสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าก็ยังเกิดเหตุต้องมาถ่ายภาพในตึกสันติไมตรีแทน