เข้าสู่โหมดนักการเมืองเต็มตัว ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 1 ของพรรค ลุยลงพื้นที่หาเสียงและช่วยผู้สมัครเดินสายพบพี่น้องประชาชน
ซึ่งล่าสุด พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ก่อนเตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งต่อไปที่วางไว้อีก 12 เวทีในต่างจังหวัด เพื่อให้ลุงตู่ได้พบปะใกล้ชิดประชาชนในแต่ละพื้นที่ แต่ละภาคอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
และด้วยบรรยากาศปราศรัยหาเสียงช่วงนี้ที่คึกคัก บวกกับลุกส์นักการเมืองของ “ลุงตู่” ที่ช่วงนี้สังเกตดูอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น อย่างที่เจ้าตัวได้เคยกล่าวไว้ว่า “ที่จริงเป็นคนใจดี อารมณ์ดี ไม่ได้ขี้โมโห หรือขี้หงุดหงิด แต่อาจมีบ้างบางครั้งเพราะเป็นมนุษย์”
และช่วงหลังๆ นี้เวลาก้าวเข้าพรรค มักเห็นลุงตู่ยิ้มแย้มอารมณ์ดี ถอดหมวกนายกรัฐมนตรี เหลือเพียงบทบาทประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯ ในมุมสบายๆ ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่สวมสูทผูกไท ไม่มีรถนำขบวน
แถมล่าสุด เจ้าตัวยังอารมณ์ดีร้องเพลงโชว์สื่อ หลังถูกกระเซ้าให้ร้องเพลงของพรรครวมไทยสร้างชาติจนจบเพลงด้วยว่า “ลุงตู่ๆ อยู่ไหน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลรวมไทยสร้างชาติ เลือกลุงตู่ๆ มือสะอาด เลือกรวมไทยสร้างชาติ ได้ลุงตู่ๆ”
และในการให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งเจ้าตัวบอกว่า “เด็กและเยาวชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง พวกนี้ตอนสมัยก่อนเขาไม่ทัน แต่โตขึ้นมาเริ่มรู้ มีไอ้นั่นไอ้นี่ใช้ วันนี้หลายคนไม่ได้พกเงิน มีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว”
ก่อนบอกด้วยว่า “แต่ผมก็ไม่ได้พกอะไร เงินก็ไม่มี" และเมื่อผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่า อาจารย์น้อง-นราพร จันทร์โอชา ภริยายึดเงินไปหรือ “ลุงตู่” ถึงกับหัวเราะ พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ต้องเบิกๆ”
พร้อมบอกอีกว่า “วันๆ ไม่ได้ใช้อะไร เพราะมีค่าใช้จ่ายประจำอยู่แล้ว ทั้งค่าอาหาร ค่าอะไรก็เตรียมไว้หมดแล้ว ที่ใช้เงินของเราเอง และไม่ได้กินของหรู กินง่ายๆ มีชีวิตง่ายๆ”
แหม…ได้รู้ความลับของ “ลุงตู่” ก็วันนี้ ถ้าจะมีเบิกเงินศรีภรรยากันบ้างก็ไม่แปลก เพราะชายไทยบางส่วนเขาก็ทำกัน ฮ่าๆๆๆ.
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’
เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง
ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด
ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์
สายล่อฟ้า
ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น
“วันสบายๆ”
การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ
นิ่งแบบนี้มีลุ้น
ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า
หนีแสงซะงั้น
ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม