เรื่องสิ่งแวดล้อมระดับโลกไม่ได้ห่างไกลจากชีวิตของคนไทยอีกต่อไปจริงๆ
ล่าสุด สหภาพยุโรปออกกฎหมายฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า Regulation on Deforestation-Free Products ที่จะมีผลต่อเกษตรกรไทยที่ผลิตสินค้า 7 ประเภท ได้แก่
ไม้, วัว, โกโก้, กาแฟ, ปาล์มน้ำมัน, ถั่วเหลืองและยางพารา
โดยกำหนดให้บริษัทในสหภาพยุโรปที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้ต้องตรวจสอบย้อนหลังกลับตลอดกระบวนการผลิตสินค้าว่าไม่มีความเกี่ยวโยงกับการตัดไม้ทำลายป่าหรือทำให้ป่าเสื่อมโทรม
เขาเรียกกระบวนการนี้ว่า Mandatory Due Diligence
นั่นแปลว่ารัฐบาลและเอกชนไทยกับเกษตรกรของเราจะต้องตั้งหลักเพื่อเร่งรัดให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของเราต้องเตรียมพร้อมกับกฎกติกาใหม่ของโลกที่กำลังจะมีความเข้มข้นมากขึ้นกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน
ไม่ใช่แค่เรื่องการประชุมระดับโลกที่เราเคยคิดว่าคงไม่เกี่ยวอะไรกับชาวบ้านของเรา
ที่ไหนได้ มาตรการชุดล่าสุดนี้จะมีผลกระทบต่ออาชีพของเกษตรกรและรายได้จากการส่งออก
รวมถึงภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเวทีสากลว่าด้วยการมีช่วยร่วมในกระบวนการต่อสู้กับโลกร้อนและการทำลายป่าอีกด้วย
ข่าวเมื่อเร็วๆ นี้แจ้งว่า รัฐสภาสหภาพยุโรปได้รับรองกฎหมายใหม่เพื่อต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกแล้ว
สาเหตุหลักมาจากข้อมูลทางการของอียูที่ว่าพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าสหภาพยุโรปสูญเสียไปจากการตัดไม้ทำลายป่าระหว่างปี พ.ศ.1990 ถึง 2020 โดยการบริโภคของสหภาพยุโรป
กฎหมายฉบับใหม่นี้เขียนเป็นหลักการว่า เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
จึงต้องมีการบังคับให้บริษัทต่างๆ ต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ขายในสหภาพยุโรปไม่ได้นำไปสู่การตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าในส่วนต่างๆ ของโลกใบนี้
ไม่มีการระบุประเทศหรือยี่ห้อสินค้าตัวไหนเป็นการเฉพาะ แต่กติกาใหม่กำหนดว่าบริษัทต่างๆ จะได้รับอนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์ในสหภาพยุโรปได้ก็ต่อเมื่อซัพพลายเออร์ของผลิตภัณฑ์ได้ออกเอกสารที่เรียกว่า "การตรวจสอบสถานะ" เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้มาจากที่ดินที่ถูกทำลายหรือได้นำต่อความเสื่อมโทรมของป่า
รวมถึงป่าปฐมภูมิที่ปลูกทดแทนไม่ได้ หลังวันที่ 31 ธันวาคม 2020
รัฐสภาอียูระบุว่า บริษัทต่างๆ จะต้องตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศผู้ผลิต รวมถึงสิทธิมนุษยชน และสิทธิของชาวพื้นเมืองของแต่ละชุมชนด้วย
สินค้าที่ตกอยู่ภายใต้กฎหมายนี้คือ วัว โกโก้ กาแฟ น้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง และไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหรือเลี้ยงด้วยหรือผลิตโดยใช้สินค้าเหล่านี้ เช่น เครื่องหนัง ช็อกโกแลต และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ที่มีนัยสำคัญเพิ่มเติมคือ กฎหมายฉบับนี้ยังได้ให้คำนิยามที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับความเสื่อมโทรมของป่า
ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนป่าปฐมภูมิหรือป่าที่งอกใหม่ตามธรรมชาติเป็นป่าปลูกหรือที่ดินป่าไม้อื่นๆ
ในทางปฏิบัตินั้น จะมีการจัดประเภทของประเทศหรือบางส่วนของประเทศนั้นๆ ว่ามีความเสี่ยงต่ำ มาตรฐาน หรือสูง (low, standard, or high risks)
โดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ และ “การประเมินที่โปร่งใส” ภายใน 18 เดือนนับจากวันที่กฎข้อบังคับนี้มีผลบังคับใช้
ผลิตภัณฑ์จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสถานะที่ง่ายขึ้น
สัดส่วนการตรวจสอบดำเนินการกับผู้ประกอบการตามระดับความเสี่ยงของประเทศ: 9% สำหรับประเทศที่มีความเสี่ยงสูง 3% สำหรับความเสี่ยงมาตรฐาน และ 1% สำหรับความเสี่ยงต่ำ
เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสหภาพยุโรปจะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งบริษัทจัดหาให้ เช่น พิกัดทางภูมิศาสตร์ (geolocation) และดำเนินการตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือตรวจสอบดาวเทียมและการวิเคราะห์ดีเอ็นเอเพื่อตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มาจากที่ใด
บทลงโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามจะต้องเป็นไปตามสัดส่วนและผลทางด้านการห้ามปราม
และค่าปรับสูงสุดจะต้องเป็นอย่างน้อย 4% ของมูลค่าการซื้อขายรวมประจำปีในสหภาพยุโรปของผู้ดำเนินการหรือผู้ค้าที่ไม่ปฏิบัติตาม
กฎหมายใหม่นี้ได้รับการรับรองด้วยคะแนนเสียง 552 ต่อ 44 และงดออกเสียง 43 เสียง
หลังจากการลงคะแนนเสียง ผู้รายงาน Christophe Hansen (EPP, LU) กล่าวว่า "จนถึงวันนี้ ชั้นวางของในซูเปอร์มาร์เก็ตของเรามักจะเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านของป่าที่ถูกไฟไหม้และระบบนิเวศที่ถูกทำลายอย่างถาวร ซึ่งได้ทำลายวิถีชีวิตของคนพื้นเมือง บ่อยครั้งที่สิ่งนี้เกิดขึ้นโดยที่ผู้บริโภคไม่ทราบ"
"เราจึงรู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้ผู้บริโภคชาวยุโรปสามารถวางใจได้ว่าพวกเขาจะไม่มีส่วนร่วมในการตัดไม้ทำลายป่าโดยไม่เจตนาอีกต่อไปเมื่อพวกเขากินช็อกโกแลตแท่งหรือเพลิดเพลินกับกาแฟที่ชื่นชอบ"
"กฎหมายใหม่นี้ไม่เพียงแต่เป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพเท่านั้น แต่ยังควรทลายข้อขัดขวางไม่ให้เรากระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศที่มีค่านิยมและความมุ่งมั่นที่จะรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับเรา"
ความเคลื่อนไหวของสภาอียูเรื่องนี้มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจ นั่นคือ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประมาณการว่าพื้นที่ป่า 420 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 4.2 ล้านตารางกิโลเมตร) ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าสหภาพยุโรป ถูกเปลี่ยนจากป่าไปใช้ทางการเกษตรระหว่างปี 1990-2020
การบริโภคของสหภาพยุโรปคิดเป็นประมาณ 10% ของการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก น้ำมันปาล์มและถั่วเหลืองมีสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3
ในเดือนตุลาคม 2020 รัฐสภาใช้สิทธิพิเศษในสนธิสัญญาเพื่อขอให้คณะกรรมาธิการออกกฎหมายเพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกที่ขับเคลื่อนโดยสหภาพยุโรป
ข้อตกลงกับประเทศในสหภาพยุโรปเกี่ยวกับกฎหมายใหม่บรรลุผลในวันที่ 6 ธันวาคม เมื่อปีที่แล้ว
คำถามใหญ่สำหรับประเทศไทยก็คือ ถ้าเราทำตามกติกาใหม่นี้ไม่ได้ ผู้นำเข้าสินค้าไทย 7 ประเภทนี้ (และมีใช้วัสดุที่เกี่ยวโยงกัน) ก็จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าตลาดอียู
หรือผู้นำเข้าเหล่านั้นอาจจะหันไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่นที่พร้อมจะทำตามกติกาชุดใหม่นี้มากกว่าไทยเรา
ใครมาเป็นรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งต้องมีคำตอบครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


