ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียไม่ได้เพิ่งคิดเรื่องจะ “จัดการ” กับปัญหายูเครนตอนที่ส่งทหารเข้า “ปฏิบัติการพิเศษ” ในประเทศนั้น
ความจริง เขาอาจจะเตรียมการและวางแผนมาระยะหนึ่งแล้ว
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน เพิ่งเปิดเผยว่า เขาตระหนักตั้งแต่ปี ค.ศ.2011 ตอนที่เจอปูตินแล้วว่า “วันใดวันหนึ่งข้างหน้า ปูตินคงจะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับยูเครน”
ปีนั้นคลินตันเจอกับปูตินที่มีท่าทีค่อนข้างจะ “เย็นชา” กับเขาระหว่างพูดคุยกันที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในการเผชิญหน้ากันครั้งนั้น คลินตันเล่าว่าปูตินบอกเขาตรงๆ ว่าเขาไม่ยอมรับข้อตกลงที่คลินตันทำกับบอริส เยลต์ซิน ประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตก่อนหน้านั้นว่าด้วยยูเครน
นั่นคือข้อตกลงที่สหรัฐฯ เป็นผู้ช่วยไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ให้ความเคารพดินแดนของยูเครนเพื่อแลกกับการที่กรุงเคียฟยอมสละคลังแสงนิวเคลียร์ที่ติดตั้งตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต
คลินตันเล่าว่า “วลาดิมีร์ ปูติน บอกผมในปี 2011 นั่นคือ 3 ปีก่อนที่เขาจะบุกยึดคราบสมุทรไครเมีย ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงที่ผมทำกับบอริส เยลต์ซิน”
อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าปูตินบอกเขาตรงๆ ว่า 'ผมไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนั้น ผมไม่สนับสนุนเรื่องนี้ และผมไม่ถือว่าจะต้องมีข้อผูกพันอะไรกับข้อตกลงนั้น’
พอได้ยินอย่างนั้น คลินตันก็บอกว่าเขารู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าไม่วันใดวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า ปูตินก็คงจะต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอธิปไตยแห่งดินแดนของยูเครน
คลินตันเล่าเรื่องนี้ระหว่างการปรากฏตัวร่วมกับฮิลลารีภรรยา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่แพ้โดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งบิลและฮิลลารี คลินตัน เรียกร้องให้ตะวันตกเพิ่มการสนับสนุนยูเครน
โดยยืนยันว่ายูเครนมีศักยภาพที่จะได้ชัยชนะต่อรัสเซียหากได้รับอาวุธและกระสุนเพียงพอ
ทั้ง 2 เตือนว่าหากตะวันตกไม่ยืนหยัดอยู่ข้างยูเครนในการสกัดการรุกรานของรัสเซีย ไม่เพียงแต่ปูตินเท่านั้นที่จะเกิดความฮึกเหิม
แต่จะเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ ไปถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนอีกด้วย
ฮิลลารีอ้างว่าการที่รัสเซียไม่ประสบความสำเร็จทางทหารในยูเครน และการที่ตะวันตกแสดงความแน่วแน่ในการสนับสนุนยูเครนครั้งนี้มีผลทำให้ สี จิ้นผิง ต้องคิดหนัก และต้องทบทวนแผนการเดิมที่จะยึดไต้หวัน
ฮิลลารีอ้างว่าเดิมที สี จิ้นผิง อาจจะเตรียมการจะ “จัดการ” กับไต้หวันด้วยกำลังแล้ว แต่เมื่อตะวันตกยืนเคียงข้างยูเครนอย่างแข็งขัน ก็ทำให้ปักกิ่งต้องชะลอแผนการบุกไต้หวันเอาไว้ก่อน
เธอเสริมว่า “ดิฉันคิดว่า สี จิ้นผิง มองเรื่องนี้ออก ดิฉันคิดว่าก่อนรัสเซียบุกยูเครนนั้น มีโอกาสสูงไม่น้อยที่ สี จิ้นผิง กำลังคิดจะเคลื่อนไหวต่อไต้หวันภายใน 2-3 ปี แต่ตอนนี้ดิฉันเชื่อว่าเขาได้เลื่อนแผนการนี้ไปแล้ว...”
ฮิลลารีเห็นสอดคล้องกับสามีว่าปูตินเป็นคนที่ไว้วางใจลำบาก
แน่นอนว่าปูตินก็คงคิดว่าผู้นำอเมริกันนั้นวางใจยากเช่นกัน
เธอบอกว่าที่ปูตินมีความฮึกเหิมในเวทีระหว่างประเทศก็เพราะ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 2016
“ปูตินมองว่าเขากำลังดำเนินการต่อสู้ที่ชอบธรรมเพื่อบ่อนทำลายประชาธิปไตยตะวันตก และฟื้นฟูจักรวรรดิรัสเซียให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นเขาจะไม่หยุดแค่นี้” อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
เพื่อยุติความรุนแรงของสงคราม ฮิลลารี คลินตัน บอกว่า ยูเครนต้องเอาชนะรัสเซียในสงครามนี้ให้จงได้
หรืออย่างน้อยยูเครนก็ต้องได้ดินแดนที่เสียไปทางตะวันออกนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเมื่อปีที่แล้วกลับคืนมาเป็นของตนเอง
“ยูเครนต้องการอำนาจต่อรองกับรัสเซีย” เธอกล่าว “ดิฉันไม่ไว้ใจปูตินที่จะมานั่งโต๊ะเจรจาไม่ว่าในกรณีใดๆ เว้นแต่ว่ายูเครนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเราจะมีอำนาจต่อรองกับรัสเซียมากเพียงพอ”
แต่หากย้อนกลับไปในปี 2011 ที่คลินตันเจอปูติน สัญญาณค่อนข้างชัดว่าผู้นำรัสเซียคนนี้ไม่ต้องการให้รัสเซียเคารพในเส้นแบ่งดินแดนของยูเครน
เพราะปูตินตอกย้ำบ่อยครั้งที่ยูเครนไม่เคยมีความเป็นรัฐอิสระของตนมาก่อน
ปูตินเชื่อว่าทั้งประวัติศาสตร์การเมืองและสังคมนั้นชี้ชัดว่า “ยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมาตลอด”
บิล คลินตัน จึงบอกวันนี้ว่า
“ผมรู้สึกเป็นผู้มีส่วนร่วมในการได้เสีย เพราะเป็นคนช่วยเจรจากับยูเครนให้ยอมเลิกใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อแลกกับการที่รัสเซียจะเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดนของตน...” คลินตันกล่าว
คลินตันอ้างว่าเขาเชื่อว่าถ้ายูเครนยังมีอาวุธนิวเคลียร์ รัสเซียคงไม่คิดจะรุกรานประเทศนั้น
ข้อตกลงที่ว่านี้เกิดเมื่อเดือนมกราคม 1994 นายคลินตันได้ลงนามในข้อตกลงไตรภาคีกับประธานาธิบดีของรัสเซียในขณะนั้น บอริส เยลต์ซิน และผู้นำยูเครน ลีโอนิด คราวชุค
เป็นข้อตกลงเพื่อกำจัดคลังแสงของอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ที่หลงเหลืออยู่บนดินของยูเครนหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
สหรัฐอเมริกากลายเป็นภาคีของข้อตกลงที่เกี่ยวโยงกับประเด็นนี้ที่ลงนามในปีเดียวกัน ซึ่งรวมถึงคำมั่นสัญญาของรัสเซียที่จะเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน
แต่คำมั่นสัญญาเหล่านี้ถูกฉีกทิ้งในปี 2014 เมื่อรัสเซียบุกยูเครนทางตะวันออกและผนวกไครเมียเป็นของตน และก็กลายเป็นสงครามใหญ่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
คลินตันอ้างว่ายูเครนยอมสละคลังแสงนิวเคลียร์เพราะแลกกับการได้อธิปไตย ไม่ขึ้นกับสหภาพโซเวียตอีกต่อไป
ปูตินไม่เคยให้ความเชื่อถือกับข้อตกลงเหล่านั้น ดังนั้นเมื่อเขาเห็นว่าได้จังหวะ จึงต้องการจะ “แก้ปัญหายูเครน” ที่ผู้นำคนก่อนของรัสเซียก่อเอาไว้
สำหรับปูตินนี่คือภารกิจเพื่อชาติ สำหรับเซเลนสกีแห่งยูเครน นี่ก็คือภารกิจเพื่อปกป้องดินแดนของตน!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


