สหรัฐฯมองทางออกของสงครามยูเครนอย่างไร?
พลเอก Mark Milley, ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของอเมริกา,ตอบคำถามลงในรายะเอียดที่น่าสนใจใน Foreign Affairs เมื่อไม่นานมานี้
ถาม: คาดหวังอะไรในการ “รุกใหญ่” (counter-offensive) ของยูเครนที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การศึกรอบใหม่นี้จะสำเร็จหรือไม่ และจะนำไปสู่ผลการเจรจายุติสงครามหรือไม่อย่างไร?
นายพล มาร์ค มิลลี่: ผมจะไม่ลงรายละเอียดการคาดเดาว่าด้วยแผนการ “บุกใหญ่” รอบใหม่นี้
แต่ผมอยากจะบอกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ชาวยูเครนได้ขอความช่วยเหลือจากเรา ความช่วยเหลือทางทหารเพื่อฝึกฝน กำลังพล จัดเตรียมกองกำลังโดยเฉพาะเกี่ยวกับเก้ากองพลที่รวมอาวุธ ชุดเกราะ และกองกำลังประเภททหารราบจักรกล
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยทหารราบเบา หน่วยประเภทเรนเจอร์ที่เราช่วยฝึก และผมบอกได้ว่า - ซึ่งหมายถึง NATO พันธมิตรในยุโรปทั้งหมด - ก็สนองตอบตามคำขอนั้น
ผมจึงบอกได้ว่าตอนนี้ยูเครนมีศักยภาพในการโจมตีและสามารถปฏิบัติการเชิงรุกได้
อีกทั้ง ทหารยูเครนยังมีความสามารถในการตั้งรับป้องกันตัว ซึ่งได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญจากสิ่งที่พวกเขาเพิ่งดำเนินการเมื่อปีที่แล้วสำหรับการปฏิบัติการทั่วไป
ดังนั้น ผมคิดว่าศักยภาพของทหารยูเครนได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงมีความสามารถทั้งในแง่การรุกและรับ
ผมไม่อยากจะบอกว่ากองกำลังยูเครนจะรุกใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าหรือไม่ นั่นเป็นการตัดสินใจของยูเครนเอง
เท่าที่ผมรู้ ทหารยูเครนมีการวางแผนและการประสานงานค่อนข้างกว้างขวาง
แสดงว่าพวกเขามีความพร้อม
ถาม: ถ้าอย่างนั้น แนวทางจากจุดนั้นไปสู่ผลการเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง?
หลายฝ่ายได้ย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงความจำเป็นที่สงครามครั้งนี้ต้องจบลงด้วยการเจรจา ประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีเซเลนสกี และคนอื่นๆ อีกหลายคนก็พูดทำนองนั้น
คำถามคือเราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
เท่าที่ได้รับการประเมินจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียยังไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเจรจา ณ จุดนี้
นายพล มาร์ค มิลลี่: ผมจะแยกประเด็นออกมาอย่างนี้
ประการแรก สงครามทั้งหมดจะสิ้นสุดลงไม่ช้าก็เร็ว แต่คำถามคือจะจบลงอย่างไร
ในกรณีนี้ คุณรู้ไหมว่าสงครามมักจะเริ่มด้วยอะไร?
สงครามเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดเจตจำนงทางการเมืองของคุณต่อฝ่ายตรงข้ามโดยใช้ความรุนแรงที่จัดตั้งขึ้น และสงครามเกิดขึ้นเมื่อการทูตล้มเหลว
ดังนั้นเมื่อรัสเซียตัดสินใจบุก พวกเขามีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์
หนึ่งในเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของพวกเขาคือการโค่นรัฐบาล Zelensky ยึดเมืองหลวง Kyiv
โดยต้องการจะบรรลุเป้าหมายนั้นค่อนข้างเร็ว นั่นคือรุกคืบจากชายแดนรัสเซียไปจนถึงแม่น้ำดนิโปร และต้องทำให้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้น...อาจแค่สี่ถึงหกสัปดาห์
และตามแผนนี้ จากนั้นก็ตัดการเข้าถึงทะเลของยูเครน ทะเลอาซอฟ และเข้าเคอร์สันและโอเดสซา
นั่นเป็นแผนที่รัสเซียวางเอาไว้ตอนแรกตั้งแต่เปิดศึกสงครามวันที่ 24 กุมภาพันธ์
แต่รัสเซียไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์ภายในเวลาในช่วงหนึ่งเดือนแรก
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในปลายเดือนมีนาคม หรืออาจจะต้นเดือนเมษายน ในช่วงเวลานั้นของปีที่แล้ว ปูตินได้ปรับเปลี่ยนและรีเซ็ตวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ใหม่
เพราะจากจุดนั้น ปูตินก็บอกว่าเขาแค่จะจำกัดเป้าหมายของปฏิบัติการเฉพาะที่ชายแดนทางใต้ นั่นคือแคว้นทางตอนใต้ของยูเครน และรวมอำนาจในดอนบาส และดูแลรักษาแหลมไครเมีย และอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ปูตินก็ยังไม่สามารถยึดดินแนวด้านตะวันออกของยูเครนคือ Donbas ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ต้องเสียกำลังพลไม่น้อย น่าจะประมาณ 250,000 คน ทั้งที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ
จากนั้น ปูตินก็ทดแทนด้วยกองกำลังสำรองชุดแรกประมาณ 300,000 คน และจากจำนวนนี้ประมาณ 200,000 นายถูกเสริมทัพ
แต่เป็นหน่วยรบที่มีการนำที่ไม่ดีเพราะไม่ได้รับการฝึกที่ดี ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอและไม่ได้รับการดูแลที่ดี
สำหรับฝ่ายยูเครน ประมาณเดือนสิงหาคม ทหารยูเครนเปิดการโจมตีต่อเนื่องสองครั้ง
การรุกต่อต้านรอบแรก ๆ เกิดขึ้นในภูมิภาคคาร์คิฟ และจากนั้นก็รุกคืบข้ามแม่น้ำ
และตอนนี้มันก็มีการเปิดแนวรบรอบๆ ไครเมีย
และผมบอกได้ว่าพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในปฏิบัติการเหล่านั้น
จากนั้น ยูเครนก็เดินหน้าเปิดฉากรุกต่อในเขตเคอร์ซอน กดดันให้ทหารรัสเซียต้องถอนตัวออกไปจากหลายจุด
ทหารยูเครนจึงปิดแนวรับและสร้างแนวป้องกันขึ้นมาใหม่
และแล้วก็เข้าสู่ฤดูหนาว
แม้ในฤดูหนาวจะมีการสู้รบกันหนักและกว้างขวาง เกือบจะเป็นการต่อสู้แบบสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยทีเดียว
แต่ปรากฎว่าก็มีการเปลี่ยนมือของดินแดนสำคัญน้อยมาก ยกเว้นแนวรบ Bakhmut ที่อาจจะมีความแตกต่างออกไป
จากนั้นยูเครนก็ได้ขอความช่วยเหลือจากเราในการสร้างกองกำลังเพื่อให้พวกเขามีความสามารถในการปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการซ้อมรบร่วมกับกองกำลังหนัก ชุดเกราะยานยนต์และทหารราบ
เราก็ได้ตอบสนองแล้ว
คุณถามว่าจะจบลงอย่างไร?
ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในจุดที่มีการประเมินถึงความความน่าจะเป็นและคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานาซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายเสมอ
แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องยุติธรรมที่จะพูดว่า หากมีการรุกราน ก็มีความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่ออกมาได้หลายรูปแบบ
เห็นได้ชัดว่าหนึ่งในผลลัพธ์อาจจะเป็นความสามารถในการทำลายแนวหน้าของรัสเซียทั่วทั้งกระดานของสนามรบ
ซึ่งเป็นกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วในสงครามครั้งก่อนๆ เช่น สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นต้น
อีกทางหนึ่งคือการบรรลุความสำเร็จ “บางส่วน” หรืออย่างจำกัด
และอีกหนทางหนึ่งคือไม่ประสบความสำเร็จ
ถ้าถามว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตนด้วยสงครามนี้หรือไม่ ผมคิดว่ายากและท้าทายมาก
และขอพูดตรงไปตรงมา ผมไม่คิดว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถประกาศชัยชนะได้ภายในปีนี้
ผมคิดว่าฝั่งรัสเซียก็ได้รับความเดือดร้อค่อนข้างมาก เพราะต้องสูญเสียผู้คนมากมาย เศรษฐกิจก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก ที่เห็นได้ชัดคือกองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซียก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวง
ทั้งนั้นทั้งนี้เราจะต้องถามว่าเมื่อไหร่ที่ทั้งสองฝ่ายจะสรุปว่าค่าใช้จ่ายในการทำสงครามนั้นมันเกินกว่าผลประโยชน์ที่จะได้
ตอนนี้ ผมยังมองไม่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายจะสรุปประเด็นนี้ได้
เอาเข้าจริง ๆ ผมไม่อาจจะอ่านใจปูตินได้ ผมไม่รู้ว่าเขาพร้อมจะสรุปความคุ้มค่าของสงครามกับสิ่งที่จะได้รับนั้นว่าอย่างไร
แต่ถึงจุดหนึ่ง ถ้าปูตินใช้เหตุและผล เขาต้องสรุปประเด็นนี้ให้ได้
ความจริง ปูตินสามารถสรุปได้เลย แม้แต่คืนนี้ก็สรุปได้ และเขาสามารถยุติสงครามได้ในคืนนี้เลยหากเขาตัดสินใจ
แน่นอนว่าปูตินต้องเจอกับข้อจำกัดทางการเมืองภายในของรัสเซียเองไม่น้อย
แต่ถ้าจะมุ่งเอาชนะ ปูตินต้องตีโจทย์นี้ให้แตก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ


