ที่ผมเขียนถึงเรื่องจีนกับสหรัฐฯบ่อย ๆ ในช่วงนี้เพราะการเผชิญหน้าของสองยักษ์ระดับโลกจะเป็นปัจจัยตัดสินอนาคตของ “ระเบียบโลก” อย่างมีนัยสำคัญยิ่ง
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยืนยันว่าจะต้องช่วยกัน “บริหารความสัมพันธ์” ให้อยู่ในกรอบของการ “แข่งขัน” และ “ร่วมมือ” เพื่อหลีกเลี่ยง “ความขัดแย้ง”
นั่นคือ Competition กับ Cooperation เพื่อหลีกเลี่ยง Conflict และ Confrontation
แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เราก็ยังเห็นทั้งสองฝ่ายยังไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กันแต่อย่างไร
เช่นล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศจีนออกมาตำหนิทูตสหรัฐฯ เรื่องไต้หวันอีกครั้งอย่างตรงไปตรงมา
เรียกว่า “เปิดหน้าชก” กันเลยทีเดียว
เป็นวิวาทะที่ร้อนแรงที่สุดครั้งหนึ่งระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีนกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำปักกิ่ง
ในการพบกันที่ปักกิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้รัฐมนตรี “ฉิน กัง” ของจีนซัดทูตนิโคลัสเบิร์นส์อย่างตรงไปตรงมา
บอกว่าสหรัฐฯหนุนหลังและให้ท้ายไต้หวัน
นั่นคือ “เส้นแดง” ที่จีนขีดเอาไว้ เตือนวอชิงตันว่าอย่าได้ข้ามมาเป็นอันขาด
เพราะเรื่องอื่น ๆ จีนอาจจะพูดจาต่อรองได้
แต่เรื่องไต้หวัน ปักกิ่งจะไม่มีวันยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว
ฉิน กังพูดตรง ๆ ว่าจีนต้องการให้สหรัฐฯถอยออกจากเรื่องไต้หวันเพื่อเพื่อแลกกับการปรับปรุง “ช่องทางการสื่อสาร” ที่ทำเนียบขาวได้เรียกร้องจากจีน
พูดง่าย ๆ คือจีนกำลังบอกสหรัฐฯว่าถ้าจะให้มีการพูดจากันรู้เรื่องมากขึ้น เงื่อนไขข้อแรกคือสหรัฐฯต้องเลิกยุ่งกับเรื่องไต้หวัน
ซึ่งเป็นเรื่องที่วอชิงตันตอบสนองได้ยาก
วาทะของฉิน กังครั้งนี้ดุเดือดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เขากล่าวหาว่าสหรัฐฯ ทำตัวเป็น “คนหน้าซื่อใจคด” ที่พยายามสนับสนุนช่องทางการสื่อสารระหว่างประเทศในด้านหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ปัดป้องสิ่งที่จีนมองว่าเป็นเส้นแดงของไต้หวัน
“เราไม่สามารถมุ่งเน้นที่การสื่อสารในขณะที่จีนถูกกดดัน, ปราบปรามและปิดล้อมอยู่ตลอดเวลา” ฉิน กังบอกทูตอเมริกัน
พร้อมสำทับว่า “คุณไม่สามารถพูดอย่างหนึ่งและทำอีกอย่างหนึ่งได้”
ความเป็นปรปักษ์ที่เพิ่มดีกรีขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสื่อสารระหว่างผู้นำยักษ์
วาทกรรมที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะพยายามไม่แสวงหาความขัดแย้งต่อกันและกันแต่เอาเข้าจริง ๆ จนถึงวันนี้ก็ยังมีปัญหาในการ “แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง” เพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ต่อกัน
หรือความจริงก็คือทั้งสองมิได้มีความประสงค์จะคืนดีกันเลยแม้แต่น้อย?
กองทหารสหรัฐฯ และจีนยังมีกิจกรรมปฏิบัติการที่เบียดเสียดกันอยู่ในทะเลจีนใต้และในน่านน้ำรอบๆ ไต้หวัน
ปัญหาจริง ๆ ก็คือการขาดช่องทางที่เชื่อถือได้ในการสื่อสารกันและกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือวิกฤต
นั่นได้กลายเป็นความกังวลสูงสุดสำหรับเจ้าหน้าที่อเมริกันที่เกี่ยวข้องกับการปิดช่องว่างแห่งความสัมพันธ์ต่อกัน
ทูตสหรัฐฯประจำจีนเคยพูดไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่า
“มุมมองของเราคือเราต้องการช่องทางการสื่อสารที่ดีกว่าที่มีอยู่ระหว่างสองรัฐบาลและต้องเป็นช่องทางที่ลึกกว่าเดิมด้วย..เพราะเราพร้อมที่จะพูดคุย”
สัปดาห์ก่อน Wall Street Journal รายงานว่าจีนยังระแวงสหรัฐฯและยังคงต่อต้านความพยายามของสหรัฐฯ ในการจัดตั้งสายด่วนที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิมในกรณีเกิดวิกฤตที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่อสายถึงกันโดยตรงได้
เจ้าหน้าที่จีนมองว่าการมี “สายด่วน” ระหว่างกันอาจจะเป็นหนทางในการเปิดทางให้กองทัพสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการต่อในสิ่งที่ปักกิ่งเห็นว่าเป็นการปฏิบัติการยั่วยุในสนามหลังบ้านของจีน
ในแง่หนึ่ง การที่รัฐมนตรีจีนกับทูตสหรัฐฯมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกันแรง ๆ ต่อหน้ากันอาจจะถูกมองได้ว่าเป็นสัญญาณของความคืบหน้าก็ได้
เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเกือบจะไม่พูดจากันเลย
แม้ว่าทั้งสองจะพบกันมาก่อน แต่นี่ถือเป็นการพบกันครั้งแรกที่ฉิน กังได้ปะทะกับทูตเบิร์นส์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขารับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน
ในบันทึกของฝ่าจีน ฉิน กังยืนยันกับสหรัฐฯว่าการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนให้มีเสถียรภาพเป็นภารกิจเร่งด่วนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุระหว่างสองประเทศ
แต่ไม่ได้บอกในรายละเอียดว่าจะต้องทำอย่างไร
ทูตเบิร์นส์เขียนขึ้นทวิตเตอร์ว่าว่าการพบปะกับฉิน กังเป็นการหารือเกี่ยวกับ "ความจำเป็นของการรักษาความสัมพันธ์และขยายการสื่อสารระดับสูง"
ต้องไม่ลืมว่าฉิน กังเคยเป็นเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน
จึงต้องบอกว่าเขา “รู้ทัน” เกมของฝ่ายสหรัฐฯเป็นอย่างดีเช่นกัน
มีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้บ่นเป็นการส่วนตัวว่าสหรัฐฯ พยายามที่จะกีดกันจีนในทุกวิถีทุก
“คำพูดและการกระทำที่ผิดพลาดหลายครั้งของสหรัฐฯ ได้บ่อนทำลายโมเมนตัมเชิงบวกของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน” ฉินกล่าว
“ผมหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งและจะทำงานร่วมกับจีนเพื่อนำพาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนให้พ้นจากความยากลำบากและนำพวกเขากลับมาสู่แนวทางที่ถูกต้อง”
ประเด็นเรื่องไต้หวันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่สุดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ปักกิ่งย้ำเสมอว่าไต้หวันเป็นดินแดนของจีน
สหรัฐฯ ก็ยืนยันว่าแม้วอชิงตันจะไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับรัฐบาลไต้หวัน แต่ก็ได้จัดหาอาวุธให้ไทเปเพื่อป้องกันตนเองจากการโจมตีของจีน
จุดยืนของทั้งสองฝั่งจึงมิอาจจะประนีประนอมกันได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีการทำความตกลงกันใหม่ในทุกมิติของความสัมพันธ์
เมื่อเร็ว ๆ นี้ การพบปะที่แคลิฟอร์เนียระหว่างประธานสภาเควิน แมคคาร์ธี (รีพับบลิกันจากแคลิฟอร์เนีย) และประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันทำให้จีนเต้นอีกครั้ง
ปักกิ่งตอบสนองด้วยการประกาศฝึกซ้อมทางทหารและยิงปืนด้วยกระสุนจริงใกล้เกาะเป็นการตอบโต้
“สหรัฐฯ ต้องเคารพผลประโยชน์และผลประโยชน์ของจีน หยุดทำร้ายอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของจีน” ฉิน กังย้ำ
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนย่ำแย่ลง สี จิ้นผิงก็เดินเกมผลักดันทางการทูตด้านอื่น ๆ เช่นยื่นไมตรีกับประเทศยุโรปโดยหวังจะให้แยกขั้วออกจากสหรัฐฯ
หรืออย่างน้อยก็ชักชวนให้ยุโรปมีนโยบาย “เป็นอิสระจากสหรัฐฯ” มากกว่านี้
หนึ่งในบรรดาผู้นำโลกที่ได้พบกับนายสีเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ซึ่งเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน
สหรัฐและยุโรปกำลังเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดว่าปักกิ่งจะประสบความสำเร็จเพียงใดในบทบาทผลักดันการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน มาร่วมประชุมสุดยอดเอเชียกลางที่จีนเป็นเจ้าภาพ
สะท้อนว่าสี จิ้นผิงเดินหน้าลุยด้านการทูตระหว่างประเทศอย่างเข้มข้นเพื่อลดแรงกดดันจากวอชิงตันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และดูเหมือนจะเริ่มได้ผลมากกว่าที่สหรัฐฯเคยประเมินเอาไว้!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


