ที่ผมเกาะติดข่าวคราวของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเป็นพิเศษ นั่นเพราะความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของสองมหาอำนาจนั้นจะมีผลกระทบต่อไทยในเกือบทุกๆ มิติที่เราไม่อาจจะมองข้ามได้
ความสามารถของการทูตไทยที่จะสร้างดุลแห่งอำนาจให้เหมาะสม ไม่ถูกมองว่าเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
ในสหรัฐฯ นั้น นอกจากเราจะติดตามความเห็นของฝ่ายการเมืองและวิชาการแล้ว ก็ยังต้องสนใจว่าฝ่ายเอกชนของอเมริกามองความขัดแย้งระดับโลกนี้อย่างไร
เพราะผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็มีหลายมุมมองที่จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้
Jamie Dimon ประธานของ JP Morgan ซึ่งเป็นธุรกิจการเงินการลงทุนยักษ์ของสหรัฐฯ เพิ่งออกมาเตือนว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะมีผลกระทบต่อ “ระเบียบโลก” อย่างมีนัยสำคัญแน่นอน
เจมี ดีเมิน มองว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศมีความซับซ้อนสำหรับธุรกิจมากกว่าในยุคสงครามเย็นเสียอีก
เขาเตือนว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนได้ยกระดับระเบียบระหว่างประเทศ ทำให้การจัดการทางธุรกิจมีความซับซ้อนมากกว่าในช่วงที่สหรัฐฯ กับจีนและรัสเซียเผชิญหน้าหลังสงครามโลกครั้งที่สองเสียอีก
จากสงครามโลกที่เรียกว่า Hot War กลายเป็นกว่า 40 ปีของ Cold War ที่โลกต้องเลือกระหว่าง “โลกเสรี” กับ “โลกคอมมิวนิสต์”
ในวันที่ข้อมูลการผลิตด้านอุตสาหกรรมสะท้อนให้เห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังสั่นคลอน
ดีเมิน แย้งว่า "ความไม่แน่นอน" เกี่ยวกับนโยบายของปักกิ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
“หวังว่าเราจะสามารถจัดการกับความแตกต่างเหล่านี้ได้ ทั้งกับจีนและอเมริกา และสิ่งที่กำลังทำกับพันธมิตรอันหมายถึงความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ ทั้งหมด”
ดีเมิน เพิ่งไปร่วมประชุมระดับสูงของแวดวงธุรกิจที่เซี่ยงไฮ้
พอฟังการบรรยายสรุปจากการประชุมที่เมืองจีนเสร็จ เขาก็ออกมาพูดทำนองวิเคราะห์สถานการณ์โลกว่า
“เราไม่ได้มีความซับซ้อนแบบนี้อย่างจริงๆ จังๆ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง...ผมว่าสงครามเย็นไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกับที่เรากำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ด้วยซ้ำ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ดีเมินไปเยือนจีนใน 4 ปี
ส่วนอีลอน มัสก์ เจ้าของ Tesla และ SpaceX เพิ่งจะไปเยือนจีนอย่างเอิกเกริก และมีโอกาสเข้าพบกับระดับรัฐมนตรีของจีนหลายคน
ฝ่ายจีนก็ออกข่าวการมาเยือนของอภิมหาเศรษฐีโลกคนนี้อย่างคึกคัก เพื่อสะท้อนว่าจีนยังเป็นประเทศที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างยิ่ง
แต่ดีเมินตั้งข้อสังเกตว่ากิจกรรมโรงงานในจีนเริ่มหดตัวลง
ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของประเทศ เขย่าตลาดทุนในภูมิภาคท่ามกลางความสัมพันธ์ที่แย่ลงกับสหรัฐฯ
“หากคุณมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งกำลังเกิดกับรัฐบาลจีน...ไม่เพียงแต่จะปรับเปลี่ยนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังจะมีผลกระทบด้านอื่น ๆ ด้วย” ดีเมินให้สัมภาษณ์ Bloomberg TV
โดยคำถามหลักๆ เน้นไปทางด้านนโยบายโควิด-19 ของจีน และการออกมาตรการกำกับดูแลบริษัทที่ปรึกษาและภาคส่วนเทคโนโลยี
เขาบอกว่ากติกาใหม่ๆ เหล่านี้ “จะเปลี่ยนผู้คนที่นี่ และจะกระทบความมั่นใจของวงการธุรกิจจีนเองด้วย”
เป็นที่รู้กันว่าจีนกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้กลับไปสู่ตัวเลขเดิมก่อนการระบาดของโควิด
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอย่างเป็นทางการลดลงสู่ระดับ 48.8 ในเดือนพฤษภาคม เทียบกับ 49.2 ในเดือนเมษายน ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ข้อมูลดังกล่าวลดดัชนี Hang Seng China Enterprises ของฮ่องกง ซึ่งติดตามบริษัทขนาดใหญ่บนแผ่นดินใหญ่ก็หดตัวลงเข้าสู่ตลาดหมี
ในช่วงที่ดีเมินอยู่จีนเมื่อสัปดาห์ก่อน เงินหยวนร่วงลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 7.1128 หยวนต่อดอลลาร์ ลดลงประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า หากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อยังคงอยู่ต่ำกว่า 50 ยืดเยื้อไปหลายเดือน ก็จะเป็นการบ่งชี้ถึงการหดตัวของเศรษฐกิจจีน
มีความเป็นไปได้สูงว่า หากถึงจุดนั้นรัฐบาลจีนก็จะพิจารณานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง
ความจริงเศรษฐกิจของจีนเติบโตค่อนข้างรวดเร็วในไตรมาสแรก แต่การฟื้นตัวได้เริ่มสั่นคลอน ความหวังสูงในการเปิดธุรกิจอีกครั้งถูกทำลายลงจากการขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
หนึ่งในสาเหตุคือ ความขัดแย้งกับสหรัฐฯ หลังจากอเมริกายิงบอลลูนที่วอชิงตัน โดยอ้างว่าเป็น “สายลับสอดแนมของจีน”
ตามมาด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่อเซมิคอนดักเตอร์
ปักกิ่งยังได้บุกค้นกลุ่มต่างชาติ เช่น Bain & Company, Capvision และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา Mintz
อีกทั้งยังเพิ่มกฎระเบียบควบคุมภาคเอกชนในประเทศ รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีและธุรกิจการศึกษา การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อ และกำไรจากภาคอุตสาหกรรมก็ลดลง ในขณะที่ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ยอดค้าปลีกต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เป้าหมายการเติบโตทั้งปีของรัฐบาลที่ตั้งไว้ 5% นั้นยังจะเป็นไปได้เพียงใด
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีน ซึ่งวัดโดยหนึ่งในเกณฑ์มาตรฐานหลักของกระทรวงพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 2.2% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5 แสนล้านหยวน แม้ว่าจะลดลงในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 3.3% เป็น 73.5 พันล้านดอลลาร์ ซีอีโอของ JP Morgan คนนี้บอกว่า แม้บางครั้งเขาจะบ่นเรื่องหน่วยงานกำกับดูแลในตลาดในอเมริกา แต่ระบบของสหรัฐฯ ก็มี "ด้านบวก"
“ความโปร่งใส การคุ้มครองนักลงทุน หลักนิติธรรม ความสามารถในการทำธุรกิจในตลาดขนาดใหญ่ และการมีพฤติกรรมคอร์รัปชันที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศอย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตลาดการเงิน มันดีสำหรับทุน”
JP Morgan เป็นหนึ่งในบริษัทสหรัฐฯ ที่ได้ลงทุนในจีนอย่างเป็นกอบเป็นกำ
รัฐบาลจีนใช้นโยบายค่อนข้างยืดหยุ่นมากขึ้นกับธุรกิจต่างชาติ ในการจัดตั้งบริษัทการเงินของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการให้แรงจูงใจเพื่อพัฒนาระบบการเงินที่เคยเป็นระบบปิดเป็นส่วนใหญ่
ในปี 2018 ดีเมินประกาศที่กรุงปักกิ่งว่า "เรากำลังสร้างที่นี่ให้ยั่งยืน 100 ปี"
วันนี้เขากำลังกังวลว่า การเผชิญหน้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กำลังสร้างความสั่นคลอนให้กับความเชื่อมั่นของเขาเองมากขึ้นทุกที.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


