'หยก' ปัญหา 'มองข้าม'

เมื่อวาน คุยแต่พฤติกรรม "เกินเด็ก" ของหยกอย่างเดียว

วันนี้ คุย "ทางออก" ซักนิดปะไร

เท่าที่ดู "หยก" เลือก ๒ ทางในเวลาเดียวกัน คือ เลือกที่จะ "เลว" และเลือกที่จะ "เรียน"

จริงๆ แล้ว มันมีทางที่หยกจะได้ทั้ง ๒ อย่างพร้อมๆ กันตามที่ต้องการ เพียงแต่ต้อง "คนละเวลา" เท่านั้น

ถมไปตามโรงเรียน ตามมหา'ลัย ที่จะมีเด็กประเภท "ทั้งเรียน-ทั้งเลว" ปะปน

แม้กระทั่งในสังคมงาน ไม่ว่างานหลวง งานราษฎร์ ในสภา ในทำเนียบฯ

"ทำงานด้วย-เลวด้วย" ก็มีปะปน ถมไป

เหตุหนึ่งที่ทำให้เขาเหล่านั้น "เรียนร่วม-ทำงานร่วม" อยู่ได้ คือ

๑.เขาแยก "เวลาเรียน-เวลาทำงาน" กับ "เวลาเลว" ออกจากกัน

๒."เวลาเรียน-เวลางาน" เขาจะอยู่ใน "กฎระเบียบ" โรงเรียน และ "กฎระเบียบ" สังคมงาน นั้นๆ

ถ้าหยกสามารถแยกได้ ผมเชื่อ ไม่มีโรงเรียนไหนรังเกียจที่จะให้หยกเข้าไปเป็นนักเรียน

เพราะอย่างน้อย "ในทางเลว"

หยกก็ยังมีคุณสมบัติดีอีก ๒ ทาง คือ "จิตวิเคราะห์" กับ "ใฝ่เรียน" ซึ่งถือเป็น "คุณสมบัติประเสริฐ"

แต่เท่าที่ดู หยกจะเอา "ทั้งเลว-ทั้งเรียน" ในเวลาเดียวกัน

 ทั้งขาดจิตวิเคราะห์ จงใจฝ่าฝืน "กฎระเบียบ" โรงเรียน เพื่อสร้าง "บรรทัดฐานเลว" เป็นแบบอย่าง

ให้ "ก้าวไกล" ยึดเป็นต้นแบบ "อ้างอิง"

สู่การ "ทำลาย-ลบล้าง" กฎระเบียบโรงเรียนอันเป็นพื้นฐานอารยสังคมอันดีงาม ไปสู่ "สังคมทราม" ใต้คำอ้าง "สิทธิเสรีภาพ"

เหตุนั้น ด้วยคำว่า "สิทธิเสรีภาพ" นั้น

"สหประชาชาติ" เขาจึงเปิดทางเลือกให้คนที่อยากเรียน แต่ไม่ต้องการเรียนอยู่ในระบบศึกษา "เลือกเรียน"

คือ "หยก" หรือเด็กคนไหนก็ได้ "มีสิทธิปฏิเสธการศึกษาของรัฐ"

แต่ "ผู้ปกครอง" หยกหรือเด็กคนนั้นๆ ต้องจัดการศึกษาให้แทน ไม่ว่าจะไปเรียน กศน. หรือสอนเองที่บ้าน

หรือเรียนผ่านดาวเทียม "ระบบการศึกษาทางไกล" ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงวางรากฐานไว้ หรือระบบกวดวิชา

หรือทางสถาบัน "ส้มล้มชาติ" ก้าวไกลอุปถัมภ์

จะจัดคลาสสอนบรรดาเด็กที่นำมาล้างสมองเป็นรุ่นๆ ไว้ในชื่อกลุ่ม-แก๊งต่างๆ

นั่นก็เป็นอีกทางเลือก "ในระบบศึกษาแผนใหม่ของรัฐบาลก้าวไกลมิใช่หรือ"?      

เห็นมั้ย.......

หยกไม่ต้องเที่ยวไป "ปีนรั้ว-มุดหน้าต่าง" กร่างถ่อยๆ กับ รปภ.เพื่อถ่ายทำ หวังเข้าไปแพร่เชื้อเลวให้ระบาดที่ "เตรียมพัฒน์" หรอก
ในเมื่อหยกเลือกที่จะใช้สิทธิแหกกฎระเบียบ

ในทางเดียวกัน

โรงเรียนเขาก็มีสิทธิปฏิเสธนักเรียนแหกกฎได้เช่นกัน

ถ้าหยกปฏิเสธทุกอย่าง ไม่เลือกอะไรเลย ก็ยังมีอีก ๑ โรงเรียน ที่คิดว่าเหมาะสมกับหยกมาก

คือ "โรงเรียนดัดสันดาน"!

วิถีที่หยกทำทุกวันนี้ สาเหตุจากถูกขบวนการส้มล้มชาติล้างสมองนั่นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วน ต้องบอกว่า

"เป็นทางที่หยกเลือกแล้ว"

เพราะ "ทุกการแหกกฎ" และการ "ตะแบงสังคม" ไม่ใช่จำใจ แต่เห็นชัดว่า "จงใจ"

และปฏิบัติการแต่ละครั้ง ไม่ว่าให้สัมภาษณ์เกรี้ยวกราดตวาดด่าศาล จ้วงจาบหยาบช้าสถาบัน กระทั่งการเข้าไปกร่างกับอาจารย์ในโรงเรียนและหน้าโรงเรียน

จะมีแก๊งและตัวแกน "จัดฉาก" ให้หยก

มีบทให้พูด ให้แอกชัน มีเสียงตะโกน-เสียงพากย์สร้างบรรยากาศ "เด็กถูกกลั่นแกล้ง" ตลอดการบันทึกถ่ายทำคลิป

และหยกดูจะภูมิใจกับสิ่งที่ทำเอามากๆ มันโก้ มันเท่ เป็นฮีโร่รุ่นใหม่

อีกอย่างที่เห็นชัด

นอกจากชีวิตการกิน-การอยู่ที่เปลี่ยนไป เสื้อผ้า, หน้า, ผม ของหยกก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างดูจะมีราคา มีสไตล์ ผิดวิสัยเด็กอายุ ๑๕ จะมีเงินมีทองฟุ่มเฟือยขนาดนั้น

ตรงนี้คือ "จุดเปลี่ยน" ชีวิตหยก

ไม่เรียนก็รวยได้-หรูได้

ไปไหน-มาไหนมีพี่เลี้ยง-มีบอดี้การ์ดคุ้มกันและยุยงส่งเสริม จะกิน-จะนอน จะจับจ่ายใช้สอย ไม่รู้เงินทองจากที่ไหน ไหลมา-เทมาบำเรอ

แลกกับอะไร?

แลกกับบท "ปฏิรูปคือปฏิวัติ" ชนิดขุดรากถอนโคน ทั้งระบบศึกษา ระบบนักเรียน ระบบครอบครัว ระบบสังคม กระทั่งระบบศาสนาและครูบาอาจารย์

ทุกวิถีความเป็นไทย สอดแทรกอยู่ใน "ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี"

เมื่อแก๊ง "สามนิ้ว-สามสัส" จะล่มชาติ-ล่มสถาบัน" ให้สำเร็จ

ขั้นแรก.....

ต้องล้าง "ขนบธรรมเนียม-วัฒนธรรม-ประเพณี" ในทุกวิถีออกไปให้ได้ก่อน

"ล้างได้" เท่ากับ "ล้มชาติได้"!

หยก "กล้าถึง, หยาบถึง, กระด้างถึง" วัยเหมาะกับการต่อรองทางกฎหมายและสร้างเงื่อนไขสงสาร-เห็นใจทางสังคม

ฉะนั้น บอกได้เลย หยกไม่ใช่ "เด็กมีปัญหา"

แต่หยกถูกเลือกให้เป็น "ตัวสร้างปัญหาและเงื่อนไข" ทางสังคมล่มชาติ

ดังนั้น การรับมือกรณีนี้ ไม่ใช่การ "โอนอ่อนผ่อนตาม"

"โอนอ่อนผ่อนตาม" เท่ากับ "ส่งเสริมแผนล่มชาติ"

ผมไม่ได้หมายถึงจับกุมคุมขัง หรือหมายถึงการไม่ให้หยกได้รับการศึกษาเล่าเรียน

ตรงกันข้าม ผมหมายถึง ต้องให้หยก "ได้ครบถ้วน" ตามวัยที่หยก "สมควรได้รับ" ทั้งการศึกษาและชีวิตสมบูรณ์

ทั้ง "กฎโลก-กฎไทย" มีเหมือนกัน

เด็กวัยยังไม่ถึง ๑๘ ต้อง "มีผู้ปกครอง" รับรู้-รับทราบ

กรณีหยก ถึงพฤติกรรมและร่างกายดูเกินเด็ก แต่เธอแค่อายุ ๑๕

ดังนั้น ถูกต้องแล้ว ที่โรงเรียนเตรียมพัฒน์จะปฏิเสธรับหยกเข้าเรียน

เพราะไม่มี "พ่อ-แม่" หรือบุคคลที่จะเป็น "ผู้ปกครอง" ได้ตามกฎหมาย เป็นผู้นำหยกมามอบตัวตามระเบียบ

การที่หยกอ้างบุคคลอื่นเป็น "ผู้ปกครอง" มามอบตัวนั้น ไม่ถูกระเบียบและไม่สามารถทำได้

เพราะอะไร?

เพราะคนที่อ้างนั้น ไม่รู้หัวนอนปลายตีน โจรอ้างมาก็ได้ใครจะไปรู้ ทั้งไม่มีสิทธิตามกฎหมาย

ถ้าไม่เข้มงวด จะเป็นช่องให้บุคคลชั่วร้ายแอบอ้างเพื่อการอย่างใด-อย่างหนึ่งกับเด็กก็เป็นได้

เห็นชัดๆ กรณีหยกมีผู้อ้างเป็นผู้ปกครองในการมอบตัวหยก แล้วมันเป็นใคร?

ก็หัวหน้าขบวนที่พาหยกมาปีนรั้ว ปีนหน้าต่าง เข้าไปกร่าง ไปเกรี้ยวกราดตวาดด่าครู/อาจารย์ในโรงเรียน คอยกำกับบทพร้อมถ่ายทำคลิปนั่นแหละ

และคนนี้ก็เป็นคนเดียวกับที่กำกับบทให้หยกสัมภาษณ์ด่าศาล จ้วงจาบสถาบันที่หน้าศาลเยาวชน

สรุป "ผู้ปกครองเด็ก" กับ "หัวหน้าแก๊งมอมเด็ก" คนเดียวกัน!

ดูคลิปจะเห็น.......

สมควรที่ตำรวจต้องนำตัวไปสอบพฤติกรรมด้วยซ้ำ ในฐานชักจูง ล่อลวงเยาวชนไปในทางชั่วร้าย!

คำถามตัวโตๆ ทางสังคมขณะนี้ คือ

แล้ว "พ่อ-แม่" ของหยกหายไปไหน?

ทำไมไม่พาหยกไปมอบตัว ทำไมปล่อยลูกให้มีพฤติกรรมอย่างนี้ และทำไมปล่อยให้มีคนล่อหลอก-ชักจูงลูกไปในทางชั่วร้าย โดยไม่ขัดขวางป้องกันใดๆ เลย?

หรือ "สมยอม" รู้เห็นเป็นส้มสมบูรณ์?

ถ้าพ่อแม่ปล่อยทิ้ง "กระทรวงพัฒนาสังคมมนุษย์" เขาจะได้เข้าไปรับอุปการะ จัดหาที่พัก ที่อยู่-ที่กิน และที่เรียนให้

ทั้งหมดนี้ ในขั้นต้น.......

น่าที่กระทรวงศึกษาฯ จะขอความร่วมมือตำรวจ ช่วยสืบเสาะพฤติกรรมและ "เส้นทางชีวิต" หยกให้แน่ชัดว่า

บ้านอยู่ไหน และไปพบพ่อแม่เขา

หยกกลับบ้านทุกวันหรือไม่?

ถ้าไม่...หยกอยู่กับใคร วันๆ ใช้ชีวิต เที่ยว/กิน/อยู่/หลับ/นอน ที่ไหน/กับใคร/เอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย?

อย่าลืม หยกอายุ ๑๕

ทุกอย่างอยู่ในข่าย "ล่อลวงเยาวชน" ไปในทางชั่วร้าย ทั้งหัวหน้าแก๊งและขบวนการเลยทีเดียว!

 

วันเสาร์ที่ปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง

วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"

ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?

"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ

'Grab rider ต้วง'

ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา