วันนี้ สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 511 ท่ามกลางสัญญาณต่าง ๆ ที่ชี้ไปในทิศทางของการสู้รบที่หนักหน่วงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คำถามที่ยังต้องหาคำตอบหลายข้อเพราะมีผลต่อแนวทางของสงครามจากนี้ไป
นั่นคือ NATO จะรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกทางการช้าเร็วเพียงใดหลังการเชิญประธานาธิบดีเซเลนสกีไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำนาโตที่กรุง Vilnius ประเทศ Lithuania เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อีกคำถามหนึ่งคือผลกระทบต่อฐานอำนาจของประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของกองทัพรัสเซียในการสู้ศึกในยูเครนต่อไป
ซึ่งก็โยงกับคำถามที่สำคัญพอ ๆ กัน นั่นคือความสัมพันธ์ของปูตินกับ Yevgeny Prigozhin หัวหน้าทหารรับจ้าง Wagner อยู่ในระดับไหนหลังการ “ปราบกบฏ” วันที่ 23-24 มิถุนายนที่ผ่านมา
เพราะมีปริศนามากมายหลายข้อเกี่ยวกับสถานภาพของทหารรับจ้างวากเนอร์
และโดยเฉพาะความเป็นไปของปริโกซินเองว่าจะ “ลี้ภัย” อยู่ที่เบลารุสพร้อมกับทหารวากเนอร์ของเขา
หรือกำลังจะถูกปูตินจับแยกตัวเขาออกจากนักรบรับจ้างเหล่านี้
ที่น่าทึ่งเอามาก ๆ คือการเปิดเผยของปูตินเองว่าได้พบกับปริโกซินและแกนนำของนักรบวากเนอร์ 35 คนหลังเหตุการณ์ก่อกบฏเพียง 5 วันที่วังเครมลินเพื่อกำหนดอนาคตของทหารรับจ้าง
แต่ปริโกซินไม่ยอมตามเงื่อนไขของผู้นำรัสเซีย
เป็นการให้สัมภาษณ์ของปูตินกับหนังสือพิมพ์รัสเซียชั้นนำฉบับหนึ่ง
โดยที่สื่อรายนี้แจ้งว่าปูตินเปิดเผยเองว่าได้เสนอให้กลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์เดินหน้าช่วยมอสโกรบในยูเครน
แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือจะต้องเปลี่ยนตัวหัวหน้านักรบกลุ่มนี้
หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์ (Kommersant) ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์อันดับต้น ๆ ของรัสเซีย ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ปูติน โดย อันเดรย์ โคเลนิคอฟ ผู้สื่อข่าวมือหนึ่ง
นักข่าวคนนี้บอกว่าแม้จะมีการเจรจากันแล้วแต่อนาคตของปริโกชินและกองกำลังของกลุ่มทหารรับจ้างก็ยังเป็นปริศนาดำมือต่อไป
เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก เพราะเดิมทีใครต่อใครก็ย่อมจะต้องเชื่อว่าหากปูตินต้องการอะไร เขาต้องได้สิ่งนั้น
เพราะอำนาจล้นฟ้าของปูตินย่อมทำให้เขาสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้อย่างเฉียบขาด
แต่คำให้สัมภาษณ์ของปูตินครั้งนี้ดูเหมือนจะสะท้อนว่าปูตินไม่ได้สามารถฟันธงสั่งการดั่งที่ตนต้องการเหมือนเดิมอีกต่อไป
ที่น่าประหลาดใจพอ ๆ กันก็ใครไฉนปูตินจึงเปลี่ยนใจในการจัดการกับกลุ่มก่อการเหล่านี้อย่างง่ายดาย
หลังการปราบกบฏวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมานั้นปูตินประกาศอย่างดุดันว่าจะปราบปรามและบดขยี้การลุกฮืออย่างเต็มที่
จะต้องปราบปรามกลุ่มแข็งขืนให้สิ้นซาก
แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ทางการรัสเซียก็ประกาศยกเลิกข้อกล่าวหา “ทรยศต่อประเทศชาติ” และ “ก่อการอันเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ”
อยู่ดี ๆ ก็ประกาศว่ามีการบรรลุข้อตกลงที่ผ่อนปรน
โดยไฟเขียวปริโกชินและนักรบบางส่วนของกลุ่มวากเนอร์ออกจากรัสเซียไปยังเบลารุส, เพื่อนบ้านรัสเซียทางตะวันตก
เหมือนว่าปูตินจะขอให้สหายรัก ประธานาธิบดี Alexander Lukashenko เป็นคนกำกับควบคุมความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้
โดยเฉพาะให้จับตาปริโกซินอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
แต่แล้ว ปริโกซินก็ดูเหมือนจะยังทำอะไรตามใจตัวเองได้อยู่
เพราะปรากฏว่าเครื่องบินของเขาลงเบลารุสได้ไม่นานก็บินกลับรัสเซีย
โดยไม่มีวี่แววว่าปูตินจะสามารถควบคุมความเคลื่อนไหวของสหายเก่าคนนี้ได้มากนัก
และแม้จะมีการพบปะเจรจากันเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน แต่ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าเส้นทางต่อจากนี้ของกลุ่มวากเนอร์จะไปทางไหนกันแน่
ในบทสัมภาษณ์นั้น ปูตินบอกว่า “วากเนอร์” ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง”
เป็นการตอบคำถามว่ารัฐบาลรัสเซียมีแผนจะเก็บองค์กรทหารรับจ้างแห่งนี้ไว้เป็นหน่วยรบของตนต่อไปหรือไม่ แต่ปูตินเน้นไปในแง่กฎหมรยว่า “เราไม่มีกฎหมายฉบับไหนที่ควบคุมกำกับองค์กรทหารเอกชน (กลุ่มนี้) ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีตัวตนอยู่แต่อย่างไร”
นั่นแปลว่าหลังเหตุการณ์ “ก่อกบฏ” ที่ล้มเหลว ทางการรัสเซียมีแนวทางปฏิบัติต่อทหารรับจ้างวากเนอร์ที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ
จากที่ปูตินเคยประกาศหลังเหตุการณ์วันนั้นไม่กี่วันว่ารัฐบาลรัสเซียเป็นผู้ออกงบประมาณให้การทำงานของกลุ่มวากเนอร์ทั้งหมด มาเป็นการประกาศว่า “วากเนอร์ไม่มีตัวตนทางกฎหมาย”
ปูตินบอกกับสื่อคอมเมอร์ซานต์ว่า ในการประชุมกับผู้บัญชาการรบของวากเนอร์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ได้เสนอ “ทางเลือกอาชีพ” ให้กับเหล่าบรรดาทหารรับจ้างกลุ่มนี้หลายทางรวมถึงการจะรับใช้กองทัพรัสเซียต่อไปด้วยการมาลงทะเบียนขึ้นตรงต่อกองทัพเสีย
เลิกสถานภาพของการเป็น “กองทัพเอกชน” จากนี้เป็นต้นไป
แต่ที่เป็นประเด็นใหม่คือที่ปูตินบอกทหารวากเนอร์และปริโกซินว่าหัวหน้าใหม่ของพวกเขาคือสมาชิกอาวุโสรายหนึ่งของวากเนอร์ที่รู้จักกันในนามแผงว่า Sedoi
แปลว่า “ผมสีขาว” หรือภาษาชาวบ้านอาจะเรียกว่า “แม่ทัพผมหงอก” ก็ได้
นักรบคนนี้ที่ปูตินเอามาคุมทหารวากเนอร์แทนปริโกซินเป็นใครหรือ
เป็นที่รู้กันในแวดวงของทหารรับจ้างกลุ่มนี้ว่าสมญา Sedoi เป็นนามแฝงของ อันเดรย์ โทรเชฟ ผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มวากเนอร์
สื่อตะวันตกเช็คข่าวทันทีและได้ความว่าชื่อเขาปรากฏในฐานข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (อียู) และเอกสารจากทางการฝรั่งเศส
ข้อมูลของตะวันตกแจ้งว่าโทรเชฟเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับเหรียญกล้าหาญจากสงครามอัฟกานิสถานและเชชเนีย
อีกทั้งยังเป็นคนนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อันเป็นบ้านเกิดของปูติน
ปูตินบอกว่าคณะหัวหน้านักรบวากเนอร์วันนั้นหลายคนพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
แต่ปัญหาอยู่ที่ปริโกซินที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้
เหตุผลน่าจะชัดเจน เพราะหากเป็นไปตามที่ปูตินแจ้งให้ทราบ เขาก็จะหมดสภาพของการเป็นหัวหน้าใหญ่ของวากเนอร์ทันที
ปูตินบอกกับสื่อรัสเซียฉบับนั้นว่าปริโกซินยืนยันว่านักรบวากเนอร์จะไม่มีทางเห็นด้วยกับแนวทางนี้เป็นอันขาด
นี่กระมังที่เป็นสัญญาณว่าปูตินกับปริโกซินกำลังแยกทางกันเดินอย่างเป็นทางการแล้ว
แต่ก่อนนี้จะมีใครกล้าพูดกับปูตินอย่างนั้น
วันนี้ อะไร ๆ ที่เปลี่ยนไปสะท้อนถึงความโคลงเคลงของโครงสร้างแห่งอำนาจในเครมลินเพียงใดเป็นประเด็นใหญ่ที่สุดประเด็นหนึ่งในการเมืองรัสเซียวันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


