เยียวยาตำรวจไร้เส้น

สัญญาณการแต่งตั้ง "สีกากี" วาระประจำปี 2566 เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจาก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) สะบัดปากกาเซ็นคำสั่ง ข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 จำนวน 47 ข้อ เพราะกฎ ก.ตร.เกี่ยวกับการแต่งตั้งและโยกย้ายตำรวจ ซึ่งต้องออกตามความในมาตรา 88 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ หรือดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่อาจนำมาใช้บังคับได้ด้วยเงื่อนไขของกฎหมาย จึงเป็นการสมควรให้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งตั้งและโยกย้ายตำรวจ เพื่อรักษาความเที่ยงธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย

ข้าราชการตำรวจ ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรมที่ชัดเจน โดยตามไทม์ไลน์การแต่งตั้งปีนี้ ระดับ "นายพล" ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.-ผบก.ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค. 2566 ระดับ "นายพัน" ตำแหน่ง รอง ผบก.-สว.(สารวัตร) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 2566 ระดับ รอง สว.ลงมา ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ม.ค. 2567

ไล่ดูตามข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 ทั้ง 47 ข้อ มีอยู่ข้อหนึ่งที่น่าจะเป็นขวัญและกำลังใจให้ "ตำรวจ" ที่เคยโดนเตะออกนอกหน่วยแบบไม่เต็มใจ คือในข้อ 43 ระบุว่า "ข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการลงมาที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งกรณีสับเปลี่ยนหมุนเวียนและเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นออกไปนอกหน่วย โดยไม่สมัครใจก่อนข้อกำหนด ก.ตร.นี้ใช้บังคับ หากประสงค์ขอรับการแต่งตั้งกลับหน่วยเดิม หรือหน่วยงานที่มีที่ตั้งในพื้นที่จังหวัดเดียวกันกับพื้นที่ตั้งของหน่วยงานเดิม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ให้ยื่นคำร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผ่านสำนักงานกำลังพล) ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่ง ประกอบด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่รับผิดชอบในงานบริหาร เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน และผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพลเป็นคณะทำงานและเลขานุการ เพื่อพิจารณาคำร้องตามวรรคหนึ่ง เสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้โดยไม่กระทบกับสถานภาพกำลังพลของหน่วย เพื่อให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป"...ใครอยู่ในข่ายรีบทำเรื่องทันที เพราะ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 3 ราย ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง และ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ต่างล้วนแข็งปั้ก หากอยู่ในเกณฑ์ อยู่ในเงื่อนไข "เยียวยา" ไม่มีปล่อยผ่านแน่ๆ

เอาอีกแล้ว "ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง" ล่าสุดมีเคส พล.ต.ต.มนตรี แป้นเจริญ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) ลงนามคำสั่ง บก.ตม.2 ให้ตำรวจในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ศปก.บก.ตม.2) จำนวน 9 นาย ตั้งแต่ระดับ สารวัตร ลงไปถึง ผบ.หมู่ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.66 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หลังจากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขาเข้าประเทศ ได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากต้องต่อแถวรอคิวยาวเพื่อลงตราประทับขาเข้าเมืองจนเกิดความล่าช้า ซึ่งมีภาพปรากฏว่าตำรวจ ตม.ไปห้อมล้อมอำนวยความสะดวก "แจ็กสัน หวัง" ศิลปินระดับโลก ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย จนไปกระทบกับการบริการนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ

จริงอยู่เหตุการณ์ครั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับ "ตำรวจ ตม." ทั้ง 9 นาย และผู้การ ตม.2 ก็สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่า การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ได้รับการร้องขอจากทีมงานของศิลปิน หรือออกไปปฏิบัติหน้าที่โดยคำสั่งฝ่ายใด แต่สิ่งที่ ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวันต้องทบทวนนั้น คือถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องสังคายนาครั้งใหญ่ "สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง" เพราะหมดจากเรื่องนั้นก็มาเรื่องนี้ หมดจากเรื่องนี้ก็ไปเรื่องโน้น และหากยังจำกันได้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต. ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ก็ลงนามในคำสั่งให้ 5 ตำรวจ ตม.ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีอุ้มรีดเงินชาวต่างชาติ ซึ่งในจำนวนนั้นมีตำรวจ ตม.ร่วมด้วย จนต่อมา พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. ต้องออกคำสั่งให้ ผกก.และรอง ผกก.สืบ ตม.1 ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.สตม.ตามมาตรการทางการปกครองที่ระบุไว้ว่า หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้กระทำผิดให้สอบสวนผู้บังคับบัญชา 2 ลำดับชั้น

เสียง “ปี่กลองการเมือง” เร่งเร้า เข้าใกล้ยกสุดท้ายเข้าไปทุกที เป็นอันถึงเวลาเหล่าทัพจะได้ส่ง “โผทหาร" ให้คณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้พิจารณาเสียที คาดว่าทุกอย่างจะจบและปิดจ๊อบแบบ “วิน-วิน” กับทุกฝ่ายในช่วงต้นเดือนนี้ ในส่วนกองทัพบก ทั้งโผ 5 เสือ ทบ. และ เก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 อาจจะพลิกจากเดิม เนื่องจากพลังงัดข้อของเตรียมทหารรุ่น 28 ผ่านมือขวาของแกนนำหลักตัวจริง ผลักดันจนได้สูตรคุมกำลัง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้การทำงานแบบสายตรง เพราะในวันข้างหน้าสถานการณ์บ้านเมืองคาดเดายาก การรับมือกับกลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวที่เป็นเยาวชนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีความอ่อนไหวถ้าตัดสินใจผิดแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นจึงอยู่ที่ตัว ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่จะวางบทบาทอย่างไร และไม่ให้ ผบ.หน่วย เป็นกล้ามเนื้อนอกบังคับด้วย

ขณะที่โผ ผบ.ทอ. และ ผบ.ทร.ก็ยังไม่ได้นิ่งสนิท เพราะแคนดิเดตทุกคนยังอยู่ในข่ายที่จะพลิกได้เหมือนกัน โดยเฉพาะที่กองทัพเรือ เรียกได้ว่า “คลื่นลมแรงจัด” ทั้งเกมใต้ดินและบนดินมาแบบครบสูตร ทำให้ 3 รายชื่อ ทั้ง พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผช.ผบ.ทร. พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชากองเรือยุทธการ ยังมีโอกาสที่จะลุ้นกันได้หมด เพราะ นอกจากการตัดสินใจของ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร.คนปัจจุบันในการเสนอชื่อแล้ว ยังมีตัวแปรนอกกองทัพ จากความเห็นของอดีต ผบ.ทร. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่ตอนนี้หัวบันไดบ้านไม่แห้ง เนื่องจากมีคนเข้ามาให้ข้อมูลอย่างหลากหลาย

ข้ามมาฟากฝั่งของ “ทุ่งดอนเมือง” มีกระแสข่าวหนาหูว่าชื่อ ผบ.ทอ.คนใหม่ถูกเลือกมาด้วยข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยข่าวลือเรื่องเงื่อนไข "คำสาบาน” ที่มัดการตัดสินใจของ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ให้ต้องวิ่งตามลู่  แต่ทว่ายังมีแรงพลังจากภายนอกที่ไม่อยากให้เกิดวิถีดังกล่าว จึงงัดตัวเลือกในแคนดิเดตมาให้จิ้มใหม่ ท้ายสุดขึ้นอยู่กับ พล.อ.อ.อลงกรณ์ จะเลือกเสนอแบบไหน เพราะแคนดิเดตทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสายแข็งเครื่องบินขับไล่ และคุณสมบัติครบเครื่องกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา รอง ผบ.ทอ. พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสนาธิการ ทอ. พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ผช.ผบ.ทอ.

สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ร.อ.เชิงชาย, พล.อ.อ.อลงกรณ์ พร้อมด้วย พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะของสมาชิกวุฒิสภาเข้าประชุมรัฐสภา ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง และได้ลงคะแนนในญัตติขัดข้อบังคับ 41 หรือไม่ โดยไม่ได้กั๊กหรืองดออกเสียงตามที่คาด ขณะที่ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ติดภารกิจเยือนอินโดนีเซีย กลับมาเมื่อวันศุกร์แต่คงไม่ทันการประชุมสภากลาโหม ส่วนการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 ต้องรอดูว่า จะมีใครติดภารกิจหรือจะตบเท้ามาอย่างพร้อมเพรียง เพราะสถานการณ์รัฐบาลเริ่มเห็นเค้าลางว่าจะออกมาแบบไหน แต่วันอังคารที่ 25 ก.ค.นี้มีประชุม ผบ.เหล่าทัพ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เป็นเจ้าบ้าน

กิจกรรมของกองทัพไทยใน "โครงการเสริมสร้างพัฒนาความสัมพันธ์กับสื่อมวลชน” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่าคุ้มค่ากับข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่เสียงจริงตัวจริงในพื้นที่ ทริปนี้นำโดย “เสธ.เลิฟ” พล.ต.ที่รัก สร้อยนาค ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร บก.ทัพไทย ซึ่งนำทัพ Influencer ของกองทัพไทย ที่ริเริ่มจากแนวคิดของ พล.ต.วันชนะ สวัสดี อีกกว่าสิบชีวิต เข้าพื้นที่กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก กองพลนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี น.ท.เกษมศักดิ์ ชาจันทึก ผู้บังคับกองพันฯ นำรถโจมตีลำเลียงพล AAVP7A1 ที่ได้รับมาตั้งแต่ปี 2518 และยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำ VN16 จากจีน มาแสดงประสิทธิภาพการใช้งานโดยเฉพาะ AAV ตระกูล สหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งแม้จะใช้งานมาเกือบ 50 ปี เพราะได้เข้าโครงการปรับปรุงในลักษณะโครงสร้างใหม่จากบริษัทชัยเสรี 3 คัน มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ล้อรับสายพาน ติดตั้งแผงช่วยทรงตัว ติดตั้งเกราะเสริมได้ เปลี่ยนป้อมปืนและระบบสื่อสาร สามารถรับใช้ชาติต่อเนื่องได้อีกยาวนาน แม้ระบบการรบจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ทำให้รถลำเลียงพล AAV อาจไม่ค่อยจำเป็นในการรบยุคนี้ โดยมีการปรับไปใช้รถเกราะแบบ 8 คูณ 8 แทน ซึ่งบริษัท PANUS ซึ่งสร้างรถต้นแบบผ่านการทดสอบใน 2 คันแรกมาแล้ว แต่แว่วการแข่งขันประกวดราคา บริษัท CHAISERI เข้าวินในที่สุด และกลายเป็นดรามาในโลกโซเชียลก่อนหน้านี้จากศึกโยกย้ายใน ทร. แต่เมื่อลงมาสอบถามคนใช้จริงก็จะเข้าใจทั้งแนวทางปฏิบัติและนโยบาย ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ก็ดีใจที่อุตสาหกรรมในประเทศจะมีส่วนช่วยลดงบประมาณในการจัดหาอาวุธจากภายนอกได้เยอะ ส่วนการแข่งขันระหว่างเอกชนที่ดุเดือด เป็นเรื่องที่ต้องวัดกันตามเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อให้กลไกในตลาดอาวุธของไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด้ง สารวัตรหญิง ตม. หลัง 'ทนายตั้ม' แฉ!

พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) มีหนังสือคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3

'บิ๊กต่าย' ชี้ตำรวจไซเบอร์ยังต้องทำงานหนัก แม้ภาพรวมจับเว็บพนันได้เยอะขึ้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ก.ตร. ไฟเขียวแต่งตั้ง 43 นายพลสีกากี 'สุรพงษ์ ชัยจันทร์' ผงาดที่ปรึกษาพิเศษตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ

ไฟไหม้ห้องทำงาน รองผอ.รร.เมืองตลุงพิทยาสรรพ์  คาดอากาศร้อนทำเบรกเกอร์ช็อต

เกิดเหตุไฟไหม้ห้องรอง ผอ.โรงเรียนมัธยม อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์ ลามไหม้ห้องวิชาการ  เสียหายทั้ง 2 ห้อง  ตรวจสอบพบเบรกเกอร์เครื่องปรับอากาศในห้องรอง ผอ. มีรอยไหม้ คาดไฟฟ้าลัดวงจร บวกกับอากาศที่ร้อนจัด