หลังจากเงื้อง่าราคาแพงกันมานานนม ในที่สุด “พรรคเพื่อไทย” ของครอบครัวชินวัตรก็ได้ตัดบัวไม่เหลือใยแล้ว หลังจาก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู 8 พรรค ที่โรงแรมคอนราด ที่มีทั้งสิ้น 23 ข้อ และอีก 5 ข้อตกลง เรียกว่าตั้งแต่ 22 พ.ค. จวบจนปัจจุบันคือ 2 สิงหาคม 2566 ที่ “พรรคเพื่อไทย” ประกาศสลายขั้วจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค และฉีกทิ้งเอ็มโอยูดังกล่าว ก็ใช้เวลาไปเปล่าๆ 2 เดือน 12 วัน ...๐
ต้องเรียกว่าเป็นตัวเลขให้น่าคิดน่าตีความเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีแค่เลข 1 และ 2 เหมือนมาตรา 112 ที่ “พรรคก้าวไกล” ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อยากแก้ไขนักแก้ไขหนานั่นแล จะเรียกว่า ตัวเลข 1 และ 2 ย้อนมาเป็นชนักปักหลักจนทำให้พรรคอันดับหนึ่งกลายมาเป็นฝ่ายค้าน และพรรคอันดับสองกลายเป็นรัฐบาลจนได้ ...๐
งานนี้เลยต้องบันทึกชื่อของ 8 พรรคร่วมที่ใช้เวลาในการปั้นแต่งตัวเองเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมากว่า 2 เดือนไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองว่า ประกอบด้วย “พรรคก้าวไกล (ก.ก.) 152 ที่นั่ง, พรรคเพื่อไทย (พท.) 141 ที่นั่ง, พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 ที่นั่ง, พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) 6 ที่นั่ง, พรรคเพื่อไทยรวมพลัง (พทล.) 2 ที่นั่ง, พรรคเสรีรวมไทย (สร.) 1 ที่นั่ง, พรรคเป็นธรรม (ปธ.) 1 ที่นั่ง และพรรคพลังสังคมใหม่ (พ.ส.ม) 1 ที่นั่ง …๐
โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ได้ควง “สหายอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค ออกมานั่งอ่าน แถลงการณ์พรรคในหัวข้อ “เริ่มต้นใหม่ ร่วมผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ” ซึ่งประเด็นหลักก็คือ การล้างไพ่ใหม่นั่นเอง เนื่องจาก “ก้าวไกล” ที่ยอมหักไม่ยอมงอในมาตรา 112 โดยแถลงการณ์ยังมีเนื้อหาสำคัญที่ระบุอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะมีมติในวาระแห่งชาติว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ขึ้นมาด้วย ...๐
งานนี้ก็น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ไพ่สำรับใหม่ที่ “เพื่อไทย” เป็นเจ้ามือนั้นจะแจกให้ใครบ้าง เพราะดูเหมือนมีหลายสูตรหลายขนานเหลือเกิน แต่ที่ชัดๆ ก็คือ ไม่มีก้าวไกลแน่นอน และอาจรวมถึง “ไทยสร้างไทย” ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ด้วย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่ลงนามเอ็มโอยูจวบจนถึงปัจจุบัน “น.ต.ศิธา ทิวารี” เลขาธิการพรรค ทสท.นั้น มีปฏิกิริยาแทบไม่ต่างจากหอกข้างแคร่ของ “เพื่อไทย” เลย ขณะเดียวกัน “พรรคเป็นธรรม” ที่มี “กัณวีร์ สืบแสง” สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค ปธ. ก็เป็นอีกพรรคหนึ่งที่เคยยืนยันมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไปพร้อม ก.ก. ...๐
ที่สำคัญในเมื่อล้างไพ่แล้ว “เพื่อไทย” ก็น่าจะเก็บกวาด สส.ของพรรคที่เรียกว่าพยายามสร้างปฏิกิริยาหิวแสงในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ออกอาการกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา อย่าง “อดีตคนเดือนตุลาฯ” ในพรรคให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำไปด้วยก็น่าจะดี หรือ อยากจะเก็บ “ศัตรู” ไว้ข้างตัวก็แล้วแต่พี่โทนี่ วู้ดซัม จะพินิจพิเคราะห์แล้วบัญชามาก็แล้วกัน ...๐
แต่การสลายขั้วครั้งนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นความอีหลักอีเหลื่อในวงการเมืองอย่างแทบไม่เคยเกิดขึ้นเช่นกัน เพราะในการจับขั้วรัฐบาลใหม่นั้น จะไม่มี “ก้าวไกล” แน่นอน แต่ คนของก้าวไกลอย่าง “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” กลับได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่า “หมออ๋อง” จะสะกดคำว่ามารยาททางการเมืองลาออกจากเก้าอี้รองประธานสภาฯ หรือจะอ้างว่าตำแหน่งดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับการบริหารประเทศเล่า เพราะหากอ้างอย่างหลังแล้วก็จะสะท้อนว่า “ก้าวไกล” ก็แค่พรรคสร้างภาพไปทำงานไป เหมือนผู้ว่าราชการจังหวัดบางคนที่ทำงานตามกระแสโลกโซเชียลเพื่อเอายอดไลก์ยอดแชร์แต่ไร้ผลงานนั่นแล ...๐
แล้วที่เด็ดสะระตี่เข้าไปอีกในการจับขั้วรัฐบาลใหม่นั้นก็คือ เพื่อไทยมีเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 48 ชั่วโมง หรือ 2 วันดีเท่านั้น ที่จะต้องรวบรวมเสียงเพื่อดัน “เศรษฐา ทวีสิน” พ่อค้าขายบ้านให้เป็นผู้นำคนที่ 30 ของประเทศให้ได้ ซึ่งหากทำได้จริงก็ต้องปรบมือให้ แต่ก็ยากปฏิเสธอีกเช่นกันในข้อครหาของดีลลับต่างๆ เพราะหากแค่ไม่ถึง 48 ชม. ดีลเสียงได้ 376 เสียง แล้วที่ผ่านมาเพื่อไทยจะดึงเวลาเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายแล้วก็รู้ว่าจะออกมารูปแบบนี้ หรือต้องรอให้ “ทักษิณ” ยืนยันเรื่องกลับไทยที่แน่นอนก่อนถึงจะบรรลุกันจ๊ะ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



