ข่าวจากเกาหลีเหนือในช่วงหลังนี้ค่อนข้างจะดุเดือดและรุนแรงหนักหน่วงขึ้น
ล่าสุดคือคำประกาศให้กองทัพ “เตรียมทำสงคราม” กันเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าการปลุกระดมคนเกาหลีเหนือให้พร้อมเผชิญกับสงครามอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้นำเกาหลีเหนือคนนี้ แต่ข่าวทางการที่ปล่อยออกมาจากเปียงยางในระยะหลังมีน้ำเสียงดุดันเอาจริงเอาจังมากขึ้นอย่างน่าสังเกต
ยิ่งมีการสั่งปลดนายพลสูงสุดในจังหวะเดียวกันด้วย ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าอะไร ๆ ในดินแดนคอมมิวนิสต์เข้มข้นแหล่งสุดท้ายของโลกกำลังเข้าสู่โหมดที่ไม่ค่อยปกติจริง ๆ
คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือปลดนายพลสูงสุด เรียกร้องเตรียมทำสงคราม
ข่าวจากสื่อกระบอกเสียงเกาหลีเหนือบอกว่า คิม จอง อึน ได้ตั้งนายพลระดับสูงคนใหม่ สั่งให้กองทัพเตรียมการอย่างจริงจังมากขึ้น “สำหรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงคราม”
เสริมด้วยคำสั่งให้เพิ่มการผลิตอาวุธ และขยายการฝึกซ้อมทางทหารอย่างเป็นทางการ
ข่าวชิ้นนี้มาพร้อมกับรูปชุดใหญ่ที่สั่งการในที่ประชุมคณะกรรมาธิการการทหารกลาง
เป็นการบรรยายกึ่งออกคำสั่งไปยังกองทัพทั้งมวลว่าด้วยมาตรการตอบโต้เพื่อยับยั้ง “ศัตรูของเกาหลีเหนือ”
ข่าวใหญ่ที่ทำให้ทั้งโลกสนใจคือคำสั่งปลดนายพลระดับสูงสุดของประเทศ พัก ซูอิล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทั่วไป
สำนักข่าว KCNA รายงานโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
Pak Su-Il ถูกแทนที่โดยนายพล Ri Yong Gil ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมของประเทศ
และเคยเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดในกองทัพทั่วไปด้วย
ก่อนหน้านี้นายพล Ri เคยดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองทัพ
ในปี 2559 เขาถูกไล่ออกและหายตัวไปพักใหญ่จนทำให้เกิดรายงานในเกาหลีใต้ว่าเขาถูกประหารชีวิต
แต่เขาปรากฏตัวอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนต่อมา
คราวนี้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอาวุโสอีกตำแหน่งหนึ่ง
นี่ย่อมแปลว่านายพลระดับสูงของเกาหลีเหนือตกอยู่ในสภาพที่ถูกปลดย้ายและถ่ายโอนเมื่อไหร่ก็ได้ หากท่านประธานมีความขุ่นเคืองในเรื่องใดก็ตาม
ในข่าวทางการนั้น คิม จองอึนยังตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตอาวุธแต่ก็ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างไร
แต่กิจกรรมของท่านผู้นำสะท้อนถึงทิศทางเอาจริงด้านการทหารอย่างชัดเจน
สัปดาห์ก่อนหน้านั้น คิมไปเยี่ยมโรงงานผลิตอาวุธ และออกคำสั่งให้ให้สร้างเครื่องยนต์ขีปนาวุธ ปืนใหญ่ และอาวุธอื่นๆ เพิ่มขึ้น
ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดย KCNA แสดงให้เห็นว่าคิมชี้ไปที่กรุงโซลและพื้นที่โดยรอบเมืองหลวงของเกาหลีใต้บนแผนที่
เป็นการส่งสัญญาณว่าเป้าหมายของการประชุมครั้งใหญ่ของกลไกกองทัพสูงสุดนั้นคือการถกแถลงถึงการมุ่งเป้าทำลายล้างไปที่เกาหลีใต้
สหรัฐฯ กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าจัดหาอาวุธให้รัสเซียเพื่อทำสงครามในยูเครน
รวมถึงกระสุนปืนใหญ่ จรวด และขีปนาวุธ
รัสเซียและเกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้ แต่ข่าวหลายกระแสเชื่อว่าเกาหลีเหนือกับรัสเซียมีการเชื่อมต่อเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนจะส่งมอบอาวุธกันอย่างเปิดเผยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะการช่วยเหลือทางทหารนั้นไม่จำเป็นต้องมาในรูปของอาวุธสำเร็จรูป
หากแต่สามารถอำพรางเป็นชิ้นส่วนและรูปแบบที่ไม่เป็นทางการอื่น ๆ ได้มากมายหลากหลาย
ในการประชุมวันนั้น ท่านประธานคิมยังสั่งให้กองทัพทำการฝึกซ้อมด้วยอาวุธและอุปกรณ์ล่าสุดของประเทศเพื่อให้กองกำลังพร้อมรบ
แปลว่าเมื่อมีอาวุธรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว ทหารเกาหลีเหนือจะต้องใช้ให้ได้อย่างคล่องแคล่ว
เพื่อสร้างความเตรียมพร้อมสำหรับที่อาจจะต้องออกศึกกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ หากสถานการณ์เข้าขั้นคับขัน
เกาหลีเหนือมีกำหนดจัดขบวนพาเหรดกองทหารอาสาสมัครในวันที่ 9 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบ 75 ปีวันสถาปนาสาธารณรัฐ เกาหลีเหนือ
ขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีกำหนดการซ้อมรบทางทหารระหว่างวันที่ 21-24 ส.ค.
ซึ่งเกาหลีเหนือพูดอย่างเปิดเผยมาตลอดว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตน
และพร้อมที่จะใช้อาวุธร้ายแรงของตนเพื่อตอบโต้สหรัฐฯและเกาหลีใต้หากเห็นว่าเข้าสู่ภาวะที่มีความจำเป็นต้องปกป้องตนเอง
คิม จองอึนมีความระแวงสงสัยตลอดเวลาว่าสหรัฐฯมีแผนชั่วร้ายที่จะยกพลขึ้นบกเพื่อยึดเกาหลีเหนือและโค่นระบอบของเปียงยาง
เพราะคิมเคยเปรียบเทียบเสมอว่าประเทศที่เจอกับ “วิธีการสกปรก” ของสหรัฐฯเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นพันเอกกัดดาฟีของลิเบียหรือซัดดัม ฮุสเซนของอิรักก็เป็นเพราะสองประเทศนี้ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ที่จะป้องกันตนเอง
จึงทำให้คิมประกาศเป็นนโยบายหลักว่าจะต้องสร้างอาวุธนิวเคลียร์เคียงคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ
เพราะหากสหรัฐฯรู้ว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธร้ายแรงที่สุดในโลก วอชิงตันก็จะไม่กล้ารุกรานเกาหลีเหนือ
ดังนั้น ไม่ว่าสหประชาชาติจะคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ หรือประเทศไหนจะต่อต้านเปียงยางเพราะมีการยิงขีปนาวุธเป็นว่าเล่นอย่างไร ประธานคิมก็ไม่สนใจที่จะลดราวาศอกเรื่องนี้
เพราะคิมเชื่อว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แม้จีนและรัสเซียจะเป็นพันธมิตรใกล้ชิด แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่เชื่อว่าปักกิ่งและมอสโกจะมาทำสงครามปกป้องเกาหลีเหนือหากถูกอเมริกาบุก
วันนี้เราจึงเห็นความกร้าวที่ถูกยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเกาหลีเหนือ
กลายเป็น “จุดใกล้ปะทุ” ของโลกอีกจุดหนึ่งนอกเหนือจากยูเครน, ทะเลจีนใต้, และไต้หวัน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


