เที่ยวละไมไปทางรถไฟ

ยอมรับว่าอายุปูนนี้ ที่สามารถสบายอกสบายใจที่ถูกเรียกว่า "มนุษย์ป้า" นั้น เพิ่งได้มีโอกาสครั้งแรกในชีวิตที่ลิ้มลองใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟสายมหาชัย-แม่กลอง เพราะมีจุดมุ่งหมายเที่ยว "ตลาดร่มหุบ"

ฉึกๆ ฉักๆ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ..เป็นคำอธิบายเกี่ยวกับรถไฟไทยมาก็นานแสนนาน แต่เที่ยวนี้ให้รู้สึกว่า ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศ เหมือนย้อนยุคกลับไปสู่โลกอีกใบหนึ่ง เพราะลงรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีวงเวียนใหญ่ กว่าจะสื่อสารถามทางไปสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ได้ เด็กรุ่นใหม่ทำหน้างง ประมาณว่า ..ก็ป้ายืนอยู่ที่สถานีวงเวียนใหญ่แล้ว มาถามทางอีกทำไม?!?

เด็กๆ ไม่เข้าใจ ว่ารถไฟฉึกๆ ฉักๆ ที่ป้าถามคืออะไร?!? สุดท้ายก็อาศัยกูเกิลแมป ที่มนุษย์ป้า "ใช้เป็น" นะจ๊ะ ..อิอิ

ที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ เดินไปซื้อตั๋วรถไฟเพื่้อไปสถานีมหาชัย ปรากฏว่าราคาถูกอย่างน่าตกใจ 555 คนละ 10 บาท ถ้าควักบัตรโชว์ความเป็นผู้สูงวัย จะเหลือแค่ 5 บาทเท่านั้น แต่มนุษย์ป้า 6 ชีวิตตัดสินใจแล้วว่า วันนี้เราจะไม่ "โชว์แก่" ควักกันคนละ 10 บาทจ่ายไปสบายใจ

รถไฟออกตรงเวลานะคะ เพื่อให้ถึงตลาดร่มหุบ จากสถานีมหาชัย เราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปยังท่าฉลอม เพื่อไปต่อรถไฟสายแม่กลองที่สถานีบ้านแหลม เบ็ดเสร็จใช้เวลาอยู่บนรถไฟ กรุงเทพฯ-มหาชัย และบ้านแหลม-แม่กลอง รวม 2 ชั่วโมง ลมเย็นสบาย ไม่ต้องพึ่งพาแอร์ และสองข้างทางก็บ้านๆ ตามท้องเรื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม เห็นสภาพแวดล้อมในรถไฟแล้ว ให้ต้องคิดว่า หากทางการรถไฟแห่งประเทศไทยรู้จักเพิ่มมูลค่า ด้วยการตกแต่งภายในรถไฟสายดังกล่าวให้สะอาดสะอ้าน ทันสมัย หรือจะเป็นคลาสสิกย้อนยุคก็ตามแต่ เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศพอสมควรทีเดียว เพราะตลาดร่มหุบถือเป็นไฮไลต์ที่ทุกคนอยากได้เห็นได้สัมผัส

รถไฟทั้ง 2 สายนี้ มีประวัติอันยาวนานนับ 100 ปี มีความโดดเด่นในแบบที่ใกล้กรุงเทพมหานครแค่นิดเดียว แล้วทำไม ไม่ลองเพิ่มมูลค่าให้กับรถไฟสายนี้ แทนที่จะปล่อยมันเหมือนแบบว่าแล้วแต่ชะตากรรม

ถ้าตกแต่งภายในรถไฟให้เริ่ดสัก 2 โบกี้ แล้วเก็บค่าตั๋วเป็น 50 บาท รับรองว่าทุกคนยินดีที่จะจ่าย เพราะเวลา 1 ชั่วโมงบนรถไฟ สามารถทำอะไรได้มากมายนะ ในเมื่อทุกคนตั้งใจจะไปเที่ยวละไมกันอยู่แล้ว.

                                                       "ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ของดี...ดับพิษร้อน

นาทีนี้ไปไหนมาไหน เสียงบ่นกันเซ็งแซ่ไม่พ้นเรื่องร้อน ..ร้อน..ร้อน อากาศทะลุ 40 องศาวันเว้นวันบ้าง เว้นสองวันบ้าง เล่นเอาเหงื่อตกกันเลยทีเดียว

วันหยุด...ไม่มีชดเชย

กลับไปเยือนเมืองจีนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากไปมาครั้งสุดท้าย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ทำบุญ..รู้รักษาสุขภาวะ

ยังคงอยู่วนเวียนอยู่ในเดือนเมษา.หน้าร้อน และเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเกี่ยวเนื่องกับเทศกาลวันสงกรานต์ ที่คนไทยนิยมเข้าวัดเข้าวา เพื่อกราบสักการบูชาและสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่แบบไทย

ของฝาก..จากวัยอิสระ

ห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย เชื่อว่าอย่างน้อยสัก 1 วัน เราจะต้องเข้าไปกราบเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ตามประเพณีอันดีงาม พร้อมๆ กับขอพรจากท่าน

ร้อน..ตับแตก

กรมอุตุนิยมวิทยาท่านประกาศว่า ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายนนี้ ความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส