หลังมีความชัดเจนแล้วว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” หรือ “รทสช.” ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และพร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย ในการประชุมสภาวันอังคารที่ 22 สิงหาคมนี้ ด้านความเคลื่อนไหวในรวมไทยสร้างชาติก็คึกคักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องจับตา 4 เก้าอี้ตามโควตาที่แว่วมาว่าได้แล้วเก้าอี้กระทรวงพลังงาน
และด้วยกระแสข่าวต่างๆ ทำโทรโข่งพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่าง “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้วิ่งวุ่นแจงสื่อ ทั้งแถลงข่าว ทั้งต้องรับโทรศัพท์ ขณะเดียวกันในหมวกของผู้แทนราษฎร สส.มุ่งยังคงลงพื้นที่ทำงานดูแลปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านไม่ขาด ส่วนเมื่อเข้าในสภาก็เป็นตัวเต็งลุกขึ้นอภิปรายตลอด เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน
และล่าสุด สส.มุ่ง ราชบุรี ได้มีโอกาสไปเหยียบจังหวัดสุพรรณบุรี ถิ่นบรรหาร ของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตสส.สุพรรณบุรีหลายสมัย และยังเป็นไอดอลของสส.มุ่ง โดยสส.มุ่งได้เห็นการพัฒนาในพื้นที่มีโครงสร้างพื้นที่ฐานที่ดี เจ้าตัวบอกเลยว่าจะนำสุพรรณบุรีโมเดลไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาบ้านโป่ง ราชบุรี ด้วย
สส.มุ่งยังได้โพสต์ในโซเชียลด้วยว่า “สุพรรณบุรีโมเดล #บ้านโป่งไปต่อ เช้านี้มาสุพรรณบุรีที่อำเภอสามชุก สิ่งที่เห็นทุกท่านคงทราบเชิงประจักษ์ว่าการพัฒนาถนนหนทางไฟฟ้าคลองชลประทานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆดีมาก ที่ดีแบบนี่ได้เพราะการเมืองครับ คนสุพรรณฯได้ท่านบรรหาร ศิลปอาชา มาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของเขา และคนสุพรรณฯก็ให้โอกาสท่านบรรหารทำงานอย่างต่อเนื่องหลาย10ปี
สมัยผมวัยรุ่นนั่งรถผ่านสุพรรณบุรี คุณพ่อผมมักจะพูดจนติดหูว่าสุพรรณบุรีเจริญแบบนี้เพราะได้นักการเมืองดีรักบ้านเกิดมาพัฒนาบ้านเมืองของเขา
นี่จึงเป็นประกายความคิดสมัยเรียนมัธยมว่าอนาคตมีโอกาสอยากทำแบบสุพรรณบุรีจังเลย วันนี้พี่น้องชาวบ้านโป่งให้โอกาสผมทำงานสส.ในสมัยที่2แล้ว ผมจะพัฒนาบ้านโป่งต่อไปครับ มีสุพรรณบุรีเป็นต้นแบบ มีท่านบรรหารเป็นไอดอลในการพัฒนาบ้านเกิดครับ”
สมกับเป็น “สส.มุ่ง” ที่มุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อบ้านเกิด พร้อมยังเดินตามรอยไอดอลอย่างนายบรรหาร งานนี้ชาวราชบุรีเตรียมรอรับความเจริญได้เลย
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’
เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง
ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด
ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์
สายล่อฟ้า
ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น
“วันสบายๆ”
การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ
นิ่งแบบนี้มีลุ้น
ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า
หนีแสงซะงั้น
ปกติไม่ใช่คนเดินหนีไมโครโฟน แต่เป็นประเภทวิ่งเข้าใส่ นักข่าวมีแรงถามแค่ไหน จะยืนตอบให้ทุกประเด็น สำหรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม